เขียนอักษรไว้ คนใช้จึงบอกว่า ซินแสคนหนึ่งมิได้รู้จักหน้ามาเขียนไว้ โต้ไทสือเห็นถ้อยคำในหนังสือนั้นว่ากล่าวหลักแหลมอยู่ เกรงความจะฟุ้งเฟื่องไป จึงให้คนใช้ลบล้างอักษรนั้นเสีย แล้วขึ้นมาบนตึก นั่งตรึกตรองตามกระแสเรื่องราวความในหนังสือวึ่งจารึกไว้ให้ลบเสียนั้น ก็เห็นว่า ผู้ซึ่งมาจารึกอักษรนี้ชะรอยจะเป็นฤษีซึ่งมาทำเลขยันต์ขับปิศาจในพระราชวังเป็นมั่นคง ครั้นเวลาค่ำลง จึงขึ้นไปบนกวนแซ่เหลาเป็นที่สำหรับดูดาว เวลาดึกประมาณเวลาสามยามเศษ ดาวพระมหากษัตริย์ขึ้นมา มีเมฆหมอกมืดเหมือนควันเพลิงเข้าบดบังดาวกษัตริย์ไว้ให้รัศมีมัวหมองไม่ผ่องใสเหมือนแต่ก่อน โต้ไทสือเห็นดังนั้นจึงคิดว่า บัดนี้ พระเจ้าติวอ๋องลุ่มหลงด้วยนางขันกี มิได้เสด็จออกว่าราชการ เราเป็นขุนนางมาถึงสามชั่วกษัตริย์แล้ว เมื่อเห็นเหตุจะบังเกิดแก่พระมหากษัตริย์ฉะนี้ จะนิ่งเสียไม่ควร โต้ไทสือจึงทำเรื่องราวกราบทูลฉบับหนึ่ง พอเวลารุ่งดช้า จึงไปเล่าเนื้อความซึ่งได้ดูดาวให้เสี่ยงหยง ขุนนางผู้ใหญ่ ฟังทุกประการ แล้วว่า ขอท่านจงนำเรื่องราวข้าพเจ้าขึ้นกราบทูลแก่พระเจ้าติวอ๋องให้ทราบด้วย เสี่ยงหยงรับเรื่องราวมาอ่านดู เห็นชอบด้วยการแผ่นดิน จึงพาโต้ไทสือ
หน้า:Hongsin 2506 (1).djvu/92
หน้าตา