หน้า:Phlae Kao 2479.djvu/83

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร

จริง ๆ ซีดคล้ำเปนฝ้า สง่าราศีก็แทบจะไม่มีเหลือ พอตะวันสายแดดแข็ง สองพ่อลูกก็พากันกลับโรงนาเพื่อพักผ่อน

พอใกล้เพล ผู้ใหญ่บ้านเขียนก็รู้สึกง่วงเหงาหาวนอนเสียจริง ๆ เพราะต้องออกนาแต่เมื่อเช้า และกว่างานหว่านจะเสร็จตามกำหนดก็สายแดดกล้า เมื่อกินเข้ากินปลาเสร็จเรียบร้อย ก็เอนกายพักผ่อนหลับไป

พ่อหลับแล้ว เจ้าขวัญก็รำลึกถึงเจ้าเรียมใจกระสับกระส่าย เพราะคำนัดของมันก็ว่า จะคอยเจ้าเรียมที่ต้นลำกระโดง มันแต่งตัวกะทัดรัดเรียบร้อยย่องออกจากโรงนา แล้วลัดออกทางคอกควาย อ้ายเรียวกำลังนอนจมแปลงเอื้องหญ้าอยู่ในคอก มันจำเจ้าขวัญได้ ลุกยืนเบิ่งสลัดเขาแล้วจามดัง ๆ ร้องเสียงแหบ ๆ อย่างเจ้าขวัญไม่เคยได้ยิน พอเดินจะเลยคอก มันก็ร้องอีก ซ้ำยกเท้าหน้าตะกุย และใช้เขาทั้งชนทั้งแงะไม้คอก พอเจ้าขวัญเหลียวดูมันก็ทำตาปรอย แล้วกลืนหญ้าที่เคี้ยวเองอย่างแค้นคอ เจ้าขวัญดูกิริยาประหลาดของอ้ายเรียว คิดฉงน

กลองเพลได้ยินมาแต่ไกล เจ้าขวัญตะลีตะลานนึกถึงคำนัดของเจ้าเรียม เอามือเบาะ ๆ เขาอ้ายเรียวสองสามทีเปนการอำลา แล้วออกอ้อมมาทางหลังยุ้งเข้า เสียงจิ้งจกร้องระเบ็งเซ็งแซ่ เจ้าขวัญซึ่งแต่ก่อนไม่เคยไหวหวั่นในสิ่งใด เลยกลับขนลุกเกรียวทั้งตัว จิ้งจกทักกู เอ จิ้งจกมันทักกูหลายตัวนัก เมื่อเช้าพ่อก็ทักปากหนึ่งแล้ว พอนึกถึงคำพ่อทักว่า ราศีมันหมองนัก วันนี้ ซ้ำจิ้งจกก็มาทักเข้าอีกเปนสองแรง ก็ทำให้มันใจเสีย คิดหวาดไปในลางต่าง ๆ คิดย้อนหน้าย้อนหลังจะกลับให้ได้ แต่เมื่อนึกถึงว่า เจ้าเรียมคงจะกำลังคอยหามันที่ต้นลำกระโดง เจ้าขวัญก็ลืมคิดมึงอะไรอีก ออกเดินครึ่งวิ่งครึ่ง หมาเลี้ยงไว้ที่บ้านสามสี่ตัวตามเปนพรวน และดมตามรอยตีนพันแข้งพันขาเจ้าขวัญไปตลอดทาง จะไล่อย่างไรไม่กลับ จนต้องหันเข้าแงะดินไล่ขว้าง มันก็เลยเห่าส่งท้ายจนเจ้าขวัญอดหัวเราะไม่ได้

เรียมกระวนกระวายเหมือนกลองเพลิงสุมอก คุณสมชายกับเพื่อน

๗๖