หน้า:Phlae Kao 2479.djvu/86

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร

สงัดกับเพื่อนอีกคนหนึ่งที่มากับสมชายแบกปืนยาวไปทางสุดนาใกล้ทางรก ปล่อยให้สมชายกับเรียมนั่งคลอคู่กันอยู่ทางลำกระโดง หัวใจของหนุ่มสาวกำลังแยกแย้งคิดไปคนละทาง ธรรมชาติของท้องทุ่งท้องนารอบทิศและลำกระโดงขวางหน้า ทำให้สมชายมีจิตเคลิ้มไปในความรัก เขาขอความรักด้วยคำวิงวอนเพราะหูน่าเห็นอกเห็นใจ อ้อนวอนให้เรียมกลับเสียในวันนี้ เรียมเล่าแม้จะไม่รับปากเอออวยในความรักของสมชาย แต่เธอก็ไม่ปฏิเสธ ความคิดของเธออยู่กึ่งกลาง จะไปจะอยู่เท่ากัน แต่เมื่อนึกถึงเจ้าขวัญ เธอก็น้ำตาไหลออกมาต่อหน้าคุณสมชาย ท้องน้ำเมื่อวันวาน ช่วงแขนของเจ้าขวัญที่อ้อมพาเธอว่ายแหวกขึ้นล่องตามสายน้ำ ยังติดหูติดตา และก็เมื่อคืนนี้เล่า ตรงนี้เอง ตรงที่เธอกับคุณสมนั่งอยู่นี่เอง ทั้งเธอและเจ้าขวัญกำลังพร่ำพลอดกอดกันหลงรักหลงปลื้ม โดยหานึกไม่ว่า รุ่งขึ้นคืนวันนี้ จะเปนวันจากพรากกันอีก

เรียมสองจิตสองใจที่จะเล่าความจริงให้สมชายทราบอยู่แล้วว่า เธอไม่สามารถจะจากบางกะปิไปอีกได้เพราะเหตุอะไร แต่อะไรบังคับหล่อนไม่ให้บอกเขา น่าจะเปนเพราะความหวังดีอันแท้จริงของสมชายที่มีต่อหล่อน และเมื่อบอกให้ทราบแล้ว เธอก็สุดสงสารที่จะต้องเห็นหนุ่มผู้ดีหน้าตาหมดจดต้องนั่งร้องไห้หรือไม่ก็ชี้หน้าเธอว่า เปนหญิงหลายใจนั่นเอง

เจ้าแฉ่งกับเจ้าเริญตะโกนเสียงลอยจากคันนาไกลไปทางหลัง ทำท่าทางบุ้ยใบ้เหมือนเกิดเหตุอะไร จนเรียมตกใจจิตประหวัดไปว่า เจ้าขวัญ หนุ่มที่เก้อคอย คงจะเข้าอาละวาดในโรงนาเธอแล้วเปนแน่ในเมื่อทราบความจริง ทั้งสองลุกตะลีตะลานออกเดินมั่งวิ่งมั่งอย่างรีบร้อน เมื่อถึงที่เจ้าเริญกับเจ้าแฉ่งยืนอยู่ เจ้าเริญก็พูดขึ้นแทบฟังไม่ทัน

"ฉิบหายละนาย เรือไฟลำที่จอดหน้ากระไดจมน้ำไปแล้ว เครื่องเรือก็หักโยนมาบนตลิ่ง ท้องเรือทะลุน้ำเข้าอู้จนเต็มลำแล้วก็จมเลย"

๗๙