"หญ้าก็ไม่มี น้ำก็ไม่มี แล้วเจ้าช้างม้าสัตว์ในกองทัพจะเอาอะไรกินล่ะ" ผมพูด
"บางทีพม่าหลงเข้ามาโดยไม่ทันคิดกระมัง? หรือไม่ก็คิดว่า เป็นทางลับที่ทางไทยไม่ระวังก็ได้ จึงแอบเข้ามา" วิชัยออกความเห็น
"ไปดูอย่างอื่น ๆ กันดีกว่า" ผมว่า "นำทางซิ พ่อเจ้าของท้องถิ่นสุพรรณ"
"ก็ไม่มีอะไรหรอก นอกจากจะเข้าไปดูเนินเจดีย์เก่าที่อยู่ภายในองค์นอกครอบอยู่" วิชัยว่า
เราเข้าไปดูภายในองค์เจดีย์กัน เจดีย์เก่านั้นก็เหลือเพียงเป็นซากกองอิฐหัก ๆ สุมเป็นกองเนินอยู่เท่านั้น ผมไม่ถนัดทางประวัติศาสตร์นัก เมื่อดูแล้วก็ไม่มีอะไรคืบหน้าไปอีกในสมอง ถ้าผมมีความรู้ประวัติศาสตร์เพียงพอจะเทียบเคียงค้นคว้าได้ ก็จะสนุกแก่ผมเป็นอันมาก ผมตั้งใจติดตามนายวิชัยมาครั้งนี้ ก็มุ่งแต่จะดูสถานที่ของสุพรรณบุรีเพียงที่วรรณคดีขุนช้างขุนแผนกล่าวไว้เท่านั้น ไม่ใช่มาดูประวัติศาสตร์ จึงไม่สำคัญแก่ผมเท่าไรนัก ผมเป็นนักฝัน จึงชอบวรรณคดีที่มีความหลังความเก่าอันวังเวงพอจะให้ผมฝันได้ง่าย ๆ ตามคำของกวีที่ท่านกล่าวไว้ แต่ประวัติศาสตร์นั้นผมจะไปฝันเล่นเอาง่าย ๆ นั้นย่อมไม่ได้ ของเป็นหลักฐาน จะต้องระวังว่าให้ถูกต้อง เท่าที่รู้ตามที่ได้อ่านมาในประวัติของดอนเจดีย์ ถ้าผมจะฝัน ก็ฝันเห็นว่า ตอนนั้น ช้างทรงช้างศึกขององค์พระนเรศวรผู้เป็นประมุขของไทยกำลังตกมัน ได้วิ่งแตกฝูงช้างอื่นมาแต่โดยลำพัง และที่ตรงแถวนี้แล้งน้ำ ต้นหญ้าไม่ค่อยมี จึงมีฝุ่นมาก เมื่อช้างวิ่งมา ฝุ่นก็กลบไปหมด ต่อเมื่อรั้งช้างหยุดได้แล้วและฝุ่นจางลง จึงรู้สึกพระองค์ว่า ได้หลุดมาเดี่ยวในกลางทัพช้างฝ่ายพม่า ครั้นมองไป เห็นพระมหาราชาแห่งพม่าทรงช้างพักอยู่ใต้ร่มไม้ ก็เลยร้องท้ารบไปเลย เพราะไหน ๆ ก็เข้าดงเสือและอยู่ใจกลางดงเสือเสียด้วยโดยเปล่าเปลี่ยว ชาตินักรบก็ต้องชวนรบเลย เพราะมุ่งหน้าจะมารบแล้ว ครั้นเมื่อรบแล้ว ฝ่ายพม่าก็ตาย ผมก็ฝันได้แค่นี้เอง และก็เป็นฝันตาม