๔ ๑๒ ฯ ๒ คำ เพลารุ่งแล้ว ๒ นาลิกา ๙ บาท เสดจพยุหบาดตราโดยทางสถลมารค อนึง เมี่อจไกล้รุ่งขิ่นวัน ๑๒ คำนั้น เหนพระสาริกาธาตุปราฏิหารไปโดยทางซึ่งจเสดจนั้น ถึ่งวัน ๒ ๒ฯ ๒ คำ เพลารุ่งแล้ว ๕ นาลิกา ๓ บาท เสดจทรงช้างต้นพญาไชยานุภาพเสดจออกรบมหาอุปราชาตำบลหนองสราย ครั้งนั้น มิได้ตามฤกษ แลฝ่ายฤกษน้อยหนึง แลเมี่อได้ชนช้างด้วยมหาอุปราชานั้น สมเดจพระรายบพิตรเปนเจ้าต้องปืน ณ พระหัตฐขางขวาน้อยหนึ่ง อนึง เมี่อมหาอุปราชาขี่ช้างออกมายืนอยู่นั้น หมวกอุปราชาไส่นั้นตกลงเถึ่งดินแลเอาคืนขึ่นไส่เล่า ครั้งนั้น มหาอุปราชาขาดหัวช้างตายในทีนั้น แลช้างต้นพญาไชยานุภาพซึ่งทรงแลได้ชนด้วยมหาอุปราชาแลมีไชยชำนะนั้นพระราชทานไห้ชื่อ เจ้าพญาปราบหงษา
ศักราช ๙๕๕ มเสงศก วัน ๒ ๕ฯ ๑๐ คำ เสดจเถลิงพระมหาปราสาท ครั้งนั้น ทรงพระโกรธแก่มอญ ให้เอามอรเผาเสียปรมาร ๑๐๐ ณ วัน ๖ ๑๐ ฯ ๒ คำ เพลารงแล้ว ๓ นาลิกา ๖ บาท เสดจพยุหบาดตราไปเอาเมิองลแวก แลตั้งทับไชยตำบลบางขวด เสดจไปครั้งนั้น ใด้ตัวพญาศรีสุพัรรในวัน ๑ ๑ฯ ๔ คำนั้น
ศักราชได้ ๙๕๖ มะเมียศก ยกทับไปเมิองสะโตง
ศักราช ๙๕๗ มแมศก วัน ๑ ๓ฯ ๑ คำ เพลารุ่งแล้ว ๓ นาลิกา ๙ บาท เสดจพยุหบาดตราไปเมิองหงษา ครั้งก่อน ฟันไม่ข่มนามตำบลลมพลี ตั้งทับไชยตำบลมวงหวาน เถิงวัน ๒ ๑๓ฯ ๔ คำ เพลาเที่ยงคืนแล้ว เข้าปล้นเมิองหงษามิได้ ทับหลวงเสดจกลับคืนมา
ศักราช ๙๕๘ วอกศก วัน ๓ ๔ฯ ๖ คำ ลาวหนี ขุนจาเมิองรบลาวตำบลตเชียรด้วน แล ณ วัน ๕ ๖ฯ ๓ ค่ำ ฝนตกหนักหนาสามวันดูจรดูฝน
ศักราช ๙๖๑ กุรศก วัน ๕ ๑๑ ฯ ๑๑ คำ เพลารุ่งแล้ว ๒ นาลิกา ๘ บาท เสดจพยุหบาดตราไปเมืองตองอู ฟันไม้ข่มนามตำบลลมพลี ตั้งทับไชยตำบลวัดตาล แลไนเดือน ๑๑ นั้น สงกรานตะ พระเสารแต่ราษีกัณไปราษรีดุล ครั้นเถิงวัน ๔ ๑๐ ฯ ๔ คำ เสดจพระราชตำเนิรถึงเมิองตองอู แลทับหลวงเข้าตั้งไกล้เมิองตองอูปรมาน ๓๐ เส้น แลตั้งอยู่ที่นั้นสองเดิอน ขาดอาหารพ้นกำลัง ไพรพลทั้งปวงตายด้วยอดอาหารเปนอันมาก ครั้นวัน ๔ ๖ฯ ๖ ค่ำ ทับหลวงเสดจกลับคืนมายังพระนครศรีอยุธยา
ศักราช ๙๖๓ ฉหลูศก เดิอน ๗ เดิอนเดิยวนั้น มีสูริยอุปราคา ไนปีนั้น รับพระอิษวรแลพระนรายเปนเจ้าไปถวายพระภอรพร้อมกันวันเดิยวท้ง ๔ คานหาม
ศักราช ๙๖๔ ขารศก เสดจไปปรพาศลพบุรีย
ศักราช ๙๖๕ เถาะศก ทับพระเจ้าฝ่ายหน้าเสดจไปเอาเมิองขอมได้
ศักราช ๙๖๖ มโรงศก วัน ๕ ๓ฯ ๒ คำ เสดจพยุหบาดตราจากปาโมกโดยทางชลมารค แลฟันไม้ข่มนามตำบลเอกราช ตั้งทับไชยตำบลพระหล่อ วันนั้น เปนวันอูน แลเปนสงกรานต พระเสารไปราศีธนูเปนองษาหนึ่ง ครั้งนั้น เสดจพระราชตำเนิรถึงเมิองหลวง ตำบลทุ่งดอนแก้ว ฯ