ข้ามไปเนื้อหา

หน้า:Prachum Phongsawadan (01) 2457.djvu/52

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๒
พระราชพงษาวดารเหนือ

พระราชโองการตรัสสั่งนั้น ให้เหมือนพิมพ์เดียวแลใหญ่น้อยเท่ากัน ครั้นปั้นเบ้าคุมพิมพ์แล้ว ท้าวพระยาทั้งหลายก็นำเอาทองสำริดมาถวายแก่ พระองค์เจ้า ชวนกันหล่อพระพุทธรูปเปนอันมาก แลช่างหล่อชวนกันกินบวชเจ็ดวัน ก็ทำพลีกรรมแก่เทวดาทั้งเจ็ดทิศ ครั้นได้ฤกษ์ดีจึงเอาพิมพ์เข้าเตา วันเธอหล่อนั้นวันพฤหัศบดี เพ็ญ เดือนสี่ ปีจอ ชุมนุมพระสงฆ์ทั้งหลาย มีพระอุบาฬีแลพระคิริมานนท์เปนประธาน แลพระสงฆเจ้าทั้งหลาย หล่อให้พร้อมกันทั้งสามรูป แลรูปพระศรีศาสดา พระชินสีห์ ทั้งสองพระองค์นั้น ทองแล่นเสมอกันบริบูรณ์ ยังแต่พระชินราชเจ้านั้นมิได้เปนองค์เปนรูปหามิได้ แต่ช่างหล่อถึงสามทีก็มิได้เปนองค์ แลพระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎกก็เกิดเปนทุกข์ยิ่งนักหนา แลพระองค์ก็ตั้งสัจจาธิษฐานว่า ด้วยบุญเดชะอันกูได้เรียนพระไตรปิฎกแลได้ทำพิธีกรรมฐานสอนสงฆ์ทั้งหลายให้อยู่ทางมรรคผลแก่พระสงฆเจ้า อนึ่ง จะปรารถนาเปนพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งในอนาคตกาลนับมิได้ แต่พระองค์เจ้ารักษาศีลแลถือความสัจมิได้ขาด แลมีใจกรุณาแก่คนแลสัตวทั้งหลาย ครั้นพระองค์ตั้งสัจอธิษฐานแล้ว จึงมีพระราชโองการว่าแก่เจ้าประทุมเทวีให้ตั้งสัจอธิษฐานบ้างเถิด ครั้นนางตั้งสัจอธิษฐานแล้ว ก็ร้อนถึงอาศนพระอินทรเจ้า ๆ จึงนฤมิตรเปนตาปขาวลงมาช่วยทำรูปพระคุมพิมพ์ปั้นเบ้า ถ้าจะนฤมิตรเปนไปทีเดียวก็จะได้ แต่ว่าจะให้ปรากฏแก่ตาคนทั้งหลาย ช่วยทำเปนช่าง น้ำก็มิกิน เข้าก็มิกิน ตาก็มิหลับ ใจก็แขงหาที่จะกลัวมิได้ แลมีรูปอันแก่กว่าคนทั้งหลาย แต่เทียวไปมาช่วยสองวันทีหนึ่งสามวันทีหนึ่ง จึงทำตรีศูลไว้ในพระ