ฝ่ายพวกมะกะโทอมสุราแต่น้อยแล้วบ้วนเสีย ทำอาการดุจเมาให้อาเจียนถ่มเขฬะทำตามมะกะโทสั่งทุกประการ จะให้แต่พวกอลิมามางเสพสุราเมาอยู่ทุกคน ครั้นน้ำขึ้นครึ่งฝั่งใกล้ท่วมหาดทรายตองลอย แลน้ำในคลองนั้นท่วมหลังช้าง มะกะโทจึงว่ามุงชุงคนทั้งปวงก็งดสุราเสีย ชวนกันกินเข้าสิ้นทุกคน ครั้นคนทั้งปวงกินเข้าแล้ว มะกะโทจึงว่ามัจฉะ คนทั้งนั้นก็ระมัดตัวคอยพร้อมอยู่ แล้วมะกะโทจึงว่ามอบชอบ
ฝ่ายทหารทั้งเจ็ดสิบคน ก็ลุกขึ้นชักมีดเหน็บเข้าตลุมบอนแทงพวกอลิมามางซึ่งเมาสุราอยู่นั้นตายสิ้น แต่ตัวอลิมามางนั้นขึ้นขี่ช้างพังขับหนีลงข้ามคลองตองลอย แลน้ำท่วมหลังช้าง ๆ ว่ายน้ำไปมิพ้น พวกมะกะโทจึงตามทัน จับตัวอลิมามางได้ก็ฆ่าเสียในที่นั้น ที่ฆ่าอลิมามางเสียนั้น ได้ชื่อว่าพติอลิมามางมาจนบัดนี้ แลคลองซึ่งอลิมามางข้ามนั้นก็ได้ชื่อตองนางลอยแล
จุลศักราช ๖๔๓ ปี มะกะโทชนะแก่อลิมามางได้เมืองเมาะตะมะแล้ว มะกะโทจึงให้ทหารเจ็ดสิบคน ขนเอาเครื่องสาตราวุธซึ่งอลิมามางฝังไว้นั้นขึ้นได้สิ้นแล้ว ก็ให้สืบสาวเอาทรัพย์สิ่งของเงินทองของอลิมามาง แลพวกอลิมามางมาได้เป็นอันมาก ก็ปูนบำเหน็จแก่ทแกล้วทหารโดยสมควร จึงให้ยศถาศักดิ์ตั้งแต่งกันเป็นขุนนางตามผู้ใหญ่ผู้น้อย แล้วให้ตรวจตราจัดแจงบ้านเมือง ให้หาสมณชีพราหมณ์ผู้เฒ่าทั้งปวงมาพร้อมกัน มะกะโทจึงว่าแก่คนทั้งปวงว่า ตัวเราเป็นพี่เมียอลิมามางมิได้คิดประทุษฐร้าย แลอลิมามางไปลวงเรามาจะฆ่าเราเสียด้วยหาสาเหตุมิได้ อลิมามางคิดมิชอบก็ถึงแก่ความตายเอง แผ่นดินเมืองเมาะตะมะก็เป็นสิทธิ์ของเรา บัดนี้