เดือนอ้าย ขึ่นค่ำหนึ่ง ปีมเมียสัมเรทธิศ๘ก ไปจนวันพฤหัศ เดือนสิบสอง แรมสิบห้าค่ำ ปีมแมเอกศก จึ่งครบอีกงวดหนึ่งตามสัญญากราบทูล เงินทั้งสองงวดเท่ากัน เพราะเดือนอธิกมาศได้โปรดเกล้าฯ ยกพระราชทานเสียแล้ว แลตั้งแต่วันอังคาร เดือนอ้าย ขึ้นค่ำหนึ่ง ปีมเสงนพศ๗ก ไปจนพฤหัศ เดือนสิบสอง แรมสิบห้าค่ำ ปีมแมเอกศกนั้น ห้ามมิให้ผู้ใดทำประมูลชิงทำภาษีน้ำตาลทรายเลย ต่อตั้งแต่วันสุกร เดือนอ้าย ขึ้นค่ำหนึ่ง ปีมแมเอกศกไป จึ่งจะมีช่อง ถ้าใครจะประมูลชิงภาษีก็ได้ ฤๅถ้าไม่มีใครยื่นเรื่องราวประมูลชิง เจ้าภาษี ๓ คนจะร้องขาดบ้างก็ได้ แต่ภายในสองปีซึ่งกำหนดไว้แล้วนั้น เจ้าภาษีน้ำตาลทรายทั้ง ๓ คนจะร้องขาดไม่ได้ตามได้สัญญาไว้เรื่องราวแล้ว ประกาศมาณวันพฤหัศ เดือนห้า แรม ๓ ค่ำ ปีมเมียยังเปนนพศ๗ก เปนวัน ๒๕๑๓ ในราชกาลประจุบันนี้ พระยาวรพงษพิพัทจางวางมหาดเล็กเปนผู้รับสั่ง
พระยามหาอัคนีกร พระยาสมุทบุรานุรักษ บอกขึ้นมาว่า เรือศีศะญวนยาว ๔ วา ๒ ศอก เสาไม้ใผ่ ใบผ้า แล่นเข้ามาถึงเมืองสมุทปราการ จีนซั่วไตก๋งแจ้งว่า จีนฮกเถ้าแก๋อยู่โรงปูนแต่งเรือยาว ๙ วา ๒ ศอกรับจ้างพระยาพิสาลสุภผลลำเลียงเข้าสาร ๕๔ เกวียนออกไปถ่ายขึ้นกำปั่นนอกสันดอน จีนฮกให้เงินตรา ๑๓๐ บาท เงินเหรียน ๑๒ เหรียน ว่าส่งลำเลียงแล้วให้เลยไปซื้อกระทราหอยที่บ้านศิลาเข้ามาด้วย ครั้นเดือน ๕