ขอโทษ นายประตูมิให้เข้าไปแล้วซ้ำตีข้าพเจ้าอิกเล่า ข้าพเจ้าได้ความเจ็บอายจึงร้องไห้อยู่ฉนี้ เตียวหุยได้ยินดังนั้นก็โกรธโจนลงจากหลังม้าวิ่งเข้าไปจนถึงประตู นายประตูจะห้ามก็มิฟัง ครั้นเตียวหุยเข้าไปในประตู เห็นปลัดต้องมัดมือมัดเท้าอยู่ ต๊กอิ้วนั้นนั่งอยู่บนเก้าอี้ เตียวหุยตวาดแล้วร้องว่า
อ้ายขี้ฉ้อใหญ่มึงรู้จักกูฤๅไม่ ต๊กอิ้วตกใจเงยขึ้นเห็นเตียวหุยยังมิทันจะตอบประการใด เตียวหุยเข้าจับจิกผมกระชากต๊กอิ้วตกลงจากเก้าอี้ แล้วเอาผมกระหมวดมือลากออกมาถึงศาลากลางจึงเอาผมต๊กอิ้วผูกกับหลังม้า แล้วหักเอากิ่งสนมาตีต๊กอิ้วเจ็บปวดเปนสาหัศ ฝ่ายเล่าปี่กลับเข้ามานั่งทุกข์อยู่ พอได้ยินเสียงต๊กอิ้วร้องอื้ออึงขึ้นจึงถามทนายว่าเสียงดันใดอึงอยู่นั้น ทนายบอกว่าเสียงเตียวหุยน้องท่านเอาผู้ใดมาตีนั้นไม่แจ้ง เล่าปี่กรึงใจเดินออกไปเห็นเตียวหุยเอาต๊กอิ้วมาผูกตีอยู่ เล่าปี่ตกใจวิ่งเข้าไปห้ามเตียวหุยว่า เอาท่านข้าหลวงมาตีด้วยเหตุอันใด เตียวหุยบอกว่าอ้ายนี่มันขี้ฉ้อใหญ่ แล้วเปนคนหยาบช้า ไว้มันมิได้ชอบตีเสียให้ตาย ต๊กอิ้วเห็นเล่าปี่มาจึงร้องว่าเล่าปี่เอ๋ยช่วนชีวิตร์ข้าพเจ้าด้วย เล่าปี่ได้ยินดังนั้นมีใจเม็ตตาสัตย์หาความพยาบาทมิได้ จึงห้ามเตียวหุย ๆ ก็หยุดมือลง พอกวนอูเดินออกมาจึงว่าแก่เล่าปี่ว่าเราทำความชอบอาษาแผ่นดิน มาเปนหลายครั้งก็ได้เปนแต่เพียงนี้ แต่ต๊กอิ้วถือรับสั่งมาแล้วว่าหยาบช้าดูหมิ่นนอกรับสั่ง ให้ได้อัปยศดังนี้ อันเราพี่น้องสามคนอุประมาประดุจหงษ์ซึ่งจะอาไศรยในป่านี้ไม่สมควร เราจะฆ่าต๊กอิ้วเสียแล้วจะชวนกันไปอยู่บ้านเมือง