จะได้ทำราชการอาสาแผ่นดินสืบไป ลิโป้ได้ฟังดังนั้นจึงจูงเอาม่ามาดูลักษณเห็นขนนั้นแดงดังถ่านเพลิงทั่วทั้งตัวมิได้มีสีใดแกม สูงสี่ศอกเศษ ได้ลักษณเปนม้าศึก เข้มแข็งกล้าหาญ ลิโป้ก็มีความยินดีนักคำนับแล้วว่าท่านเอาม้าตัวนี้มาให้เรานี้ เราชอบใจสมความปรารถนาเรานัก ยิ่งกว่าให้ทรัพย์สิ่งของทั้งปวง เรามิได้มีสิ่งของสนองคุณท่านเลย ลิซกจึงตอบว่าซึ่งเราเอาม้ามีฝีเท้ามาให้ท่านทั้งนี้ จะได้คิดเอาสิ่งของตอบหามิได้ คิดว่าท่านเปนทหารทำราขการซื่อสัตย์อยู่จึงเอามาให้
ลิโป้จึงให้แต่งโต๊ะ แล้วเชิญใหลิซกกิน ขณะเมื่อลิกซกเสพย์สุราอยู่นั้นจึงว่าแก่ลิโป้ว่า ท่านผู้ใหญ่นั้นอยู่แห่งใด เอนดูช่วยพาเราไปหา เราจะได้คำนับให้ท่านรู้จักไว้ ลิโป้ตอบว่าท่านอยู่หาไหนไม่รู้ บิดาเราตายช้านานแล้ว ลิซกจึงว่าจงไปหาเต๊งหงวนซึ่งเปนบิดาท่าน ลิโป้จึงขับคนทั้งปวงเสีย แล้วค่อยกระซิบว่า ท่านเสพย์สุราเมากระมัง เรากับท่านรู้จักบิดามารดากันมาแต่น้อย เปนไฉนจึงว่าดังนี้เล่า ซึ่งเรามาอยู่กับเต๊งหงวนทุกวันนี้เรียกว่าเปนบิดานั้น เพราะจำใจอยู่ดอก ลิซกจึงว่าท่านนี้มีฝึมือกล้าหาญในการสงครามลือชาปรากฏทุกหัวเมือง จะคิดเอาสิ่งใดก็ได้ดังปรารถนา เปนไฉนมาจำใจอยู่ดังนี้ ลิโป้ตอบว่าซึ่งท่านว่าทั้งนี้ก็จริงอยู่ แต่เราแสวงหาที่พึ่งซึ่งจะเปนหลักนั้นยังมิได้ ลิซกยิ้มแล้วจึงตอบว่า ธรรมดานกก็ย่อมอาศรัยป่าซึ่งมีผลไม้มากจึงเปนสุข ประเพณีขุนนางทำราชการ ถ้าพระมหากษัตริย์ทรงทศพิธราชธรรมแล้วก็มีความสุข