อาขยาน

จาก วิกิซอร์ซ

อาขยาน เป็นบทท่องจำของภาษาไทย ที่ว่าด้วยเรื่องเกี่ยวกับการใช้คำให้ถูกต้อง ตัวอย่างโคลงกลอน บางบทอาขยานยังได้สอดแทรกแง่คิดและคติสอนใจ


เกี่ยวกับการเขียนคำให้ถูกต้อง[แก้ไข]

ทร ออกเสียง /ซ/[แก้ไข]

๏ ทรวดทรงทราบทรามทราย ทรุดโทรมหมายนกอินทรี
มัทรีอินทรีย์มี เทริดนนทรีพุทราเทรา
ทรวงไทรทรัพย์แทรกวัด โทรมนัสฉะเชิงเทรา
"ทร"เหล่านี้เรา ออกสำเนียงเป็นเสียง"ซ"

สระ "ใ" ไม้ม้วน[แก้ไข]

๏ ผู้ใหญ่หาผ้าใหม่ ให้สะใภ้ใช้คล้องคอ
ใฝ่ใจเอาใส่ห่อ มิหลงใหลใครขอดู
จะใคร่ลงเรือใบ ดูน้ำใสและปลาปู
สิ่งใดอยู่ในตู้ มิใช่อยู่ใต้ตั่งเตียง
บ้าใบ้ถือใยบัว หูตามัวมาใกล้เคียง
เล่าท่องอย่าละเลี่ยง ยี่สิบม้วนจำจงดี

คำที่ใช้ "คร"[แก้ไข]

กินครองแครงครามครันไม่ครั่นคร้าม ครูท่านห้ามครูดตัวแม่ครัวหนี
เคราะห์นงคราญคร่ำครวญครุ่นฤดี ครั้นจะตีครุฑคร่าพาครึกโครม
ใครครอบครองอย่าคร้ามครุยจะคราก ครึกครื้นมากคราวใคร่ดังไฟโหม
ครางฮือฮือครือครืนครื้นเครงโครม ครึ้มพโยมครึมเครือเหลือประมาณ
ครีบเป็นครามครึจริงยิ่งกว่าครึ่ง เอาครึนขึงตึงเครียดเรียดขนาน
ดึงครุครืดแคร่พังนั่งนอกชาน คร่อมสะพานครบครั้งนั่งครู่ครก
เอาไม้คราดเคร่งครัดปัดคร่าวคร่าว เสือโคร่งก้าวเท้าไปใครพลัดตก
ดังโครกครากคร่ำคร่ำเครื่องสาธก ไม้คร่าวตกเคราหล่นปนน้ำครำ
เห็นหอยแครงตัวครั่งปลาชักครอก ตะไคร้ออกดอกชุกทุกฉนำ
ตะไคร่น้ำเคร่าท่าคราประจำ ทุกทุกคำนี้ไซร้ใช้ตัว "ครอ"ฯ

บทท่องจำเพื่อเป็นต้นแบบของการเขียนบทประพันธ์[แก้ไข]

โคลงสี่สุภาพ[แก้ไข]

     เสียงลือเสียงเล่าอ้าง       อันใด พี่เอย
เสียงย่อมยอยศใคร       ทั่วหล้า
สองเผือพี่หลับใหล       ลืมตื่น ฤๅพี่
สองพี่คิดเองอ้า       อย่าได้ถามเผือ

บทท่องจำเพื่อเป็นข้อคิดและคติสอนใจ[แก้ไข]

วิชาเหมือนสินค้า[แก้ไข]

๏ วิชาเหมือนสินค้า อันมีค่าอยู่เมืองไกล
ต้องยากลำบากไป จึงจะได้สินค้ามา
จงตั้งเอากายเจ้า เป็นสำเภาอันโสภา
ความเพียรเป็นโยธา แขนซ้ายขวาเป็นเสาใบ
นิ้วเป็นสายระยาง สองเท้าต่างสมอใหญ่
ปากเป็นนายงานไป อัชฌาสัยเป็นเสบียง
สติเป็นหางเสือ ถือท้ายเรือไว้ให้เที่ยง
ถือไว้อย่าให้เอียง ตัดแล่นเลี่ยงข้ามคงคา
ปัญญาเป็นกล้องแก้ว ส่องดูแถวแนวหินผา
เจ้าจงเอาหูตา เป็นล้าต้าฟังดูลม
ขี้เกียจคือปลาร้าย จะทำลายให้เรือจม
เอาใจเป็นปืนคม ยิงระดมให้จมไป
จึงจะได้สินค้ามา คือวิชาอันพิศมัย
จงหมั่นมั่นหมายใจ อย่าได้คร้านการวิชาฯ

ปากเป็นเอกเลขเป็นโท[แก้ไข]

ปากเป็นเอกเหมือนเสกมนต์ให้คนเชื่อ ฉลาดเหลือวาจาปรีชาฉาน
จะกล่าวถ้อยร้อยคำไม่รำคาญ เป็นรากฐานเทิดตนพ้นลำเค็ญ
เลขเป็นโทโบราณท่านสั่งสอน เร่งสังวรเวี่ยไว้ใช่ว่าเล่น
การคำนวณควรชำนาญคูณหารเป็น ช่วยให้เด่นดีนักหนารู้ท่าคน
หนังสือเป็นตรีวิชาปัญญาเลิศ เรียนไปเถิดรู้ไว้ไม่ไร้ผล
ยามยากแสนแค้นคับไม่อับจน ได้เลี้ยงตนด้วยวิชาหาทรัพย์ทวี
ชั่วดีเป็นตราประทับไว้กับโลก ยามวิโยคชีพยับลับร่างหนี
ที่สูญแท้ก็แต่ตัวส่วนชั่วดี คงที่เป็นลือทั่วชั่วฟ้าดิน

พ่อแม่ก็แก่เฒ่า[แก้ไข]

๏ พ่อแม่ก็แก่เฒ่า จำจากเจ้าไม่อยู่นาน
จะพบจะพ้องพาน เพียงเสี้ยววานของคืนวัน
ใจจริงไม่อยากจาก เพราะยังอยากเห็นลูกหลาน
แต่ชีพมิทนทาน ย่อมร้าวรานสลายไป
ขอเถิดถ้าสงสาร อย่ากล่าวขานให้ช้ำใจ
คนแก่ชะแรวัย ย่อมเผลอไผลเป็นแน่นอน
ไม่รักก็ไม่ว่า เพียงเมตตาช่วยอาทร
ให้กินและให้นอน ให้พักผ่อนพอสุขใจ
เมื่อยามเจ้าโกรธขึง ให้คิดถึงเมื่อเยาว์วัย
ร้องไห้ยามป่วยไข้ ได้ใครเล่าเฝ้าปลอบโยน
เฝ้าเลี้ยงจนเติบใหญ่ แม้เหนื่อยกายก็ยอมทน
หวังเพียงจะได้ยล เติบโตจนสง่างาม
ขอโทษถ้าทำผิด ขอให้คิดทุกทุกยาม
ใจแท้มีแต่ความ คอยติดตามช่วยอวยชัย
ต้นไม้ที่ใกล้ฝั่ง มีหรือหวังอยู่นานได้
วันหนึ่งคงล้มไป ทิ้งฝั่งไว้ให้วังเวง

งานนี้ ปัจจุบันเป็นสาธารณสมบัติแล้ว เพราะลิขสิทธิ์ได้หมดอายุตามมาตรา 19 และมาตรา 20 ของพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ซึ่งระบุว่า

ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นบุคคลธรรมดา
  1. ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ถึงแก่ความตาย
  2. ถ้ามีผู้สร้างสรรค์ร่วม ลิขสิทธิ์หมดอายุ
    1. เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายถึงแก่ความตาย หรือ
    2. เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก ในกรณีที่ไม่เคยโฆษณางานนั้นเลยก่อนที่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายจะถึงแก่ความตาย
ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นนิติบุคคล หรือถ้าไม่รู้ตัวผู้สร้างสรรค์
  1. ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้สร้างสรรค์งานนั้นขึ้น
  2. แต่ถ้าได้โฆษณางานนั้นในระหว่าง 50 ปีข้างต้น ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก