อาขยาน เป็นบทท่องจำของภาษาไทย ที่ว่าด้วยเรื่องเกี่ยวกับการใช้คำให้ถูกต้อง ตัวอย่างโคลงกลอน บางบทอาขยานยังได้สอดแทรกแง่คิดและคติสอนใจ
เกี่ยวกับการเขียนคำให้ถูกต้อง
[แก้ไข]
๏ ทรวดทรงทราบทรามทราย
|
|
ทรุดโทรมหมายนกอินทรี
|
มัทรีอินทรีย์มี
|
|
เทริดนนทรีพุทราเทรา
|
ทรวงไทรทรัพย์แทรกวัด
|
|
โทรมนัสฉะเชิงเทรา
|
"ทร"เหล่านี้เรา
|
|
ออกสำเนียงเป็นเสียง"ซ"
|
๏ ผู้ใหญ่หาผ้าใหม่
|
|
ให้สะใภ้ใช้คล้องคอ
|
ใฝ่ใจเอาใส่ห่อ
|
|
มิหลงใหลใครขอดู
|
จะใคร่ลงเรือใบ
|
|
ดูน้ำใสและปลาปู
|
สิ่งใดอยู่ในตู้
|
|
มิใช่อยู่ใต้ตั่งเตียง
|
บ้าใบ้ถือใยบัว
|
|
หูตามัวมาใกล้เคียง
|
เล่าท่องอย่าละเลี่ยง
|
|
ยี่สิบม้วนจำจงดี
|
กินครองแครงครามครันไม่ครั่นคร้าม
|
|
ครูท่านห้ามครูดตัวแม่ครัวหนี
|
เคราะห์นงคราญคร่ำครวญครุ่นฤดี
|
|
ครั้นจะตีครุฑคร่าพาครึกโครม
|
ใครครอบครองอย่าคร้ามครุยจะคราก
|
|
ครึกครื้นมากคราวใคร่ดังไฟโหม
|
ครางฮือฮือครือครืนครื้นเครงโครม
|
|
ครึ้มพโยมครึมเครือเหลือประมาณ
|
ครีบเป็นครามครึจริงยิ่งกว่าครึ่ง
|
|
เอาครึนขึงตึงเครียดเรียดขนาน
|
ดึงครุครืดแคร่พังนั่งนอกชาน
|
|
คร่อมสะพานครบครั้งนั่งครู่ครก
|
เอาไม้คราดเคร่งครัดปัดคร่าวคร่าว
|
|
เสือโคร่งก้าวเท้าไปใครพลัดตก
|
ดังโครกครากคร่ำคร่ำเครื่องสาธก
|
|
ไม้คร่าวตกเคราหล่นปนน้ำครำ
|
เห็นหอยแครงตัวครั่งปลาชักครอก
|
|
ตะไคร้ออกดอกชุกทุกฉนำ
|
ตะไคร่น้ำเคร่าท่าคราประจำ
|
|
ทุกทุกคำนี้ไซร้ใช้ตัว "ครอ"ฯ
|
บทท่องจำเพื่อเป็นต้นแบบของการเขียนบทประพันธ์
[แก้ไข]
เสียงลือเสียงเล่าอ้าง |
|
อันใด พี่เอย
|
เสียงย่อมยอยศใคร |
|
ทั่วหล้า
|
สองเผือพี่หลับใหล |
|
ลืมตื่น ฤๅพี่
|
สองพี่คิดเองอ้า |
|
อย่าได้ถามเผือ
|
บทท่องจำเพื่อเป็นข้อคิดและคติสอนใจ
[แก้ไข]
๏ วิชาเหมือนสินค้า
|
|
อันมีค่าอยู่เมืองไกล
|
ต้องยากลำบากไป
|
|
จึงจะได้สินค้ามา
|
จงตั้งเอากายเจ้า
|
|
เป็นสำเภาอันโสภา
|
ความเพียรเป็นโยธา
|
|
แขนซ้ายขวาเป็นเสาใบ
|
นิ้วเป็นสายระยาง
|
|
สองเท้าต่างสมอใหญ่
|
ปากเป็นนายงานไป
|
|
อัชฌาสัยเป็นเสบียง
|
สติเป็นหางเสือ
|
|
ถือท้ายเรือไว้ให้เที่ยง
|
ถือไว้อย่าให้เอียง
|
|
ตัดแล่นเลี่ยงข้ามคงคา
|
ปัญญาเป็นกล้องแก้ว
|
|
ส่องดูแถวแนวหินผา
|
เจ้าจงเอาหูตา
|
|
เป็นล้าต้าฟังดูลม
|
ขี้เกียจคือปลาร้าย
|
|
จะทำลายให้เรือจม
|
เอาใจเป็นปืนคม
|
|
ยิงระดมให้จมไป
|
จึงจะได้สินค้ามา
|
|
คือวิชาอันพิศมัย
|
จงหมั่นมั่นหมายใจ
|
|
อย่าได้คร้านการวิชาฯ
|
ปากเป็นเอกเลขเป็นโท
[แก้ไข]
ปากเป็นเอกเหมือนเสกมนต์ให้คนเชื่อ
|
|
ฉลาดเหลือวาจาปรีชาฉาน
|
จะกล่าวถ้อยร้อยคำไม่รำคาญ
|
|
เป็นรากฐานเทิดตนพ้นลำเค็ญ
|
เลขเป็นโทโบราณท่านสั่งสอน
|
|
เร่งสังวรเวี่ยไว้ใช่ว่าเล่น
|
การคำนวณควรชำนาญคูณหารเป็น
|
|
ช่วยให้เด่นดีนักหนารู้ท่าคน
|
หนังสือเป็นตรีวิชาปัญญาเลิศ
|
|
เรียนไปเถิดรู้ไว้ไม่ไร้ผล
|
ยามยากแสนแค้นคับไม่อับจน
|
|
ได้เลี้ยงตนด้วยวิชาหาทรัพย์ทวี
|
ชั่วดีเป็นตราประทับไว้กับโลก
|
|
ยามวิโยคชีพยับลับร่างหนี
|
ที่สูญแท้ก็แต่ตัวส่วนชั่วดี
|
|
คงที่เป็นลือทั่วชั่วฟ้าดิน
|
๏ พ่อแม่ก็แก่เฒ่า
|
|
จำจากเจ้าไม่อยู่นาน
|
จะพบจะพ้องพาน
|
|
เพียงเสี้ยววานของคืนวัน
|
ใจจริงไม่อยากจาก
|
|
เพราะยังอยากเห็นลูกหลาน
|
แต่ชีพมิทนทาน
|
|
ย่อมร้าวรานสลายไป
|
ขอเถิดถ้าสงสาร
|
|
อย่ากล่าวขานให้ช้ำใจ
|
คนแก่ชะแรวัย
|
|
ย่อมเผลอไผลเป็นแน่นอน
|
ไม่รักก็ไม่ว่า
|
|
เพียงเมตตาช่วยอาทร
|
ให้กินและให้นอน
|
|
ให้พักผ่อนพอสุขใจ
|
เมื่อยามเจ้าโกรธขึง
|
|
ให้คิดถึงเมื่อเยาว์วัย
|
ร้องไห้ยามป่วยไข้
|
|
ได้ใครเล่าเฝ้าปลอบโยน
|
เฝ้าเลี้ยงจนเติบใหญ่
|
|
แม้เหนื่อยกายก็ยอมทน
|
หวังเพียงจะได้ยล
|
|
เติบโตจนสง่างาม
|
ขอโทษถ้าทำผิด
|
|
ขอให้คิดทุกทุกยาม
|
ใจแท้มีแต่ความ
|
|
คอยติดตามช่วยอวยชัย
|
ต้นไม้ที่ใกล้ฝั่ง
|
|
มีหรือหวังอยู่นานได้
|
วันหนึ่งคงล้มไป
|
|
ทิ้งฝั่งไว้ให้วังเวง
|
งานนี้ ปัจจุบันเป็นสาธารณสมบัติแล้ว เพราะลิขสิทธิ์ได้หมดอายุตามมาตรา 19 และมาตรา 20 ของพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ซึ่งระบุว่า
- ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นบุคคลธรรมดา
- ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ถึงแก่ความตาย
- ถ้ามีผู้สร้างสรรค์ร่วม ลิขสิทธิ์หมดอายุ
- เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายถึงแก่ความตาย หรือ
- เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก ในกรณีที่ไม่เคยโฆษณางานนั้นเลยก่อนที่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายจะถึงแก่ความตาย
- ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นนิติบุคคล หรือถ้าไม่รู้ตัวผู้สร้างสรรค์
- ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้สร้างสรรค์งานนั้นขึ้น
- แต่ถ้าได้โฆษณางานนั้นในระหว่าง 50 ปีข้างต้น ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก
Public domainPublic domainfalsefalse