แถลงการณ์คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เรื่อง กรณีอุทยานราชภักดิ์
แถลงการณ์คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เรื่อง กรณีอุทยานราชภักดิ์
_______________
สืบเนื่องมาจากกรณีที่มีการจัดกิจกรรมนั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ ส่องแสงหากลโกง เพื่อเดินทางไปตรวจสอบการทุจริตในการสร้างอุทยานราชภักดิ์ เมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๕๘ จากนั้นถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐควบคุมตัวไป เพื่อทำความเข้าใจ โดยทั้งหมดได้รับการปล่อยตัวในวันเดียวกันดังปรากฏเป็นข่าวแล้ว นั้น
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดด้วยความห่วงใย โดยยึดหลักความเป็นกลาง อิสระ การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของทุกฝ่าย โดยไม่เลือกปฏิบัติ และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยึดแนวทางสันติวิธีในการแก้ปัญหา เคารพสิทธิซึ่งกันและกันมาโดยตลอด จึงขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนคำนึงถึงและปฏิบัติต่อกรณีดังกล่าว ดังนี้
๑. รัฐบาลควรกำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมสถานการณ์ โดยยึดหลักรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย ตลอดจนกติการะหว่างประเทศ และหลักขันติธรรม ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย บนพื้นฐานการเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน
๒. การใช้สิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกของกลุ่มบุคคลสมควรแสดงออกด้วยความรอบคอบ และสุจริตใจ โดยต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ กสม. จะเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง อีกทั้งขอวิงวอนให้ทุกฝ่ายได้ใช้สติ ความอดทนอดกลั้น ไม่ขยายผลไปสู่ความรุนแรง และการสร้างความเกลียดชัง ในระหว่างการเปลี่ยนผ่านการปฏิรูปประเทศไทย เพื่อนำไปสู่ความปรองดองสมานฉันท์ นำความสงบและสันติสุขคืนสู่ประเทศไทยโดยเร็ว
๘ ธันวาคม ๒๕๕๘
อ้างอิง
[แก้ไข]งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตาม แม่แบบผิดพลาด: โปรดระบุประเภทของงานนี้ (ดูวิธีใช้) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า
- "มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
- (1)ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
- (2)รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
- (3)ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
- (4)คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
- (5)คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"