แถลงการณ์ เรื่อง หน้าที่ของคนไทยในเวลารบ

จาก วิกิซอร์ซ

แถลงการณ์

เรื่อง หน้าที่ของคนไทยในเวลารบ

การที่รัฐบาลได้เสนอร่างพระราชบัญญัติกำหนดหน้าที่ของคนไทยในเวลารบไปยังสภาผู้แทนราษฎร จนสภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบด้วย และได้ลงมติให้ใช้เป็นกฎหมายได้นั้นก็เพราะเหตุว่า รัฐบาลได้เห็นว่า อันบุคคลที่เกิดมามีชีวิตอยู่ร่วมกันประกอบขึ้นเป็นชาติหนึ่งนั้น แต่ละคนต่างก็มุ่งหวังในขณะที่ตนมีชีวิตอยู่ในอันที่จะประกอบกิจการงานและบำเพ็ญตนเพื่อให้ชาติบ้านเมืองรุ่งเรืองเจริญตามสติปัญญาและกำลังของตน ในเวลาที่สภาพการณ์ของบ้านเมืองเป็นปกติ ต่างคนต่างก็มุ่งที่จะประกอบอาชีพตามความรู้ความสามารถช่วยกันรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง และอำนวยความสะดวกให้แก่ทุกคนซึ่งเป็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นชนชาติเดียวกันหรือต่างชาติ เมื่อสภาพบ้านเมืองอยู่ในฐานะคับขัน ต่างก็รวมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพื่อช่วยกันคลายคลี่ฐานะการณ์คับขันนั้นให้กลับคืนสู่สภาพปกติด้วยวิถีทางต่าง ๆ

อันชาติซึ่งได้มีกำเนิดเกิดขึ้นมาแล้วนั้น ต่างมุ่งหวังที่จะทำนุบำรุงรักษาชื่อเสียงและเกียรติศักดิ์ให้เจริญรุ่งเรืองอยู่เสมอ และให้อยู่ในฐานะที่เคารพนับถือและสรรเสริญอยู่เป็นเนืองนิตย์ แต่ละชาติมุ่งจะเป็นมิตรและช่วยเหลือซึ่งกันและกันในทางที่ควร ชาติไทยและประชาชนชาวไทยก็ได้ถือหลักนี้และได้ปฏิบัติเช่นนี้ตลอดมาจนทุกวันนี้ ชาติต่าง ๆ ที่ติดต่อกับชาติไทย ได้รู้นิสัยของชาวไทยในการให้ความต้อนรับเป็นอย่างดีแก่ชาวต่างประเทศนั้นอยู่แล้ว ประชาชนชาวไทยได้เคยปฏิบัติอยู่อย่างไรก็จักปฏิบัติอย่างนั้นต่อไป  แต่ทั้งนี้ ชาติอื่นก็ต้องปฏิบัติตอบแทนแก่ชาติไทยอย่างเดียวกัน และต้องไม่ก่อผลเสียหายอย่างไรให้แก่ชาติไทย

แต่เหตุการณ์ของโลกในสมัยปัจจุบันผันแปรและเรรวนไม่แน่นอน ความรู้สึกและความคิดเห็นของแต่ละชาติก็เปรียบเสมือนความคิดเห็นของบุคคลธรรมดาได้แปรปรวนไปตามความเคลื่อนไหวของเหตุการณ์ด้วย การปะทะ การต้องใช้กำลัง การต่อสู้ ตลอดจนการรบและการสงครามก็ได้เกิดขึ้นและได้ยืดเยื้อมาช้านาน และก็ยังไม่อาจคาดคะเนได้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อใด เพื่อรักษาความเป็นมิตรที่ดีของทุก ๆ ชาติ ชาติไทยได้ดำรงอยู่ในความเป็นกลาง และปฏิบัติกิจด้วยความเที่ยงธรรมถือมั่นในความสงบและในการที่จะไม่ก่อความเดือดร้อนให้แก่ชาติหนึ่งชาติใด  แต่ทั้งนี้ ชาติต่าง ๆ ที่เป็นมิตรกับชาติไทย มีความสัมพันธ์สนิทกันมานับเป็นเวลานานนั้น ก็ต้องเห็นใจชาติไทยและไม่ก่อความเดือดร้อนให้แก่ชาติไทยด้วย แต่ดังที่ได้ทราบกันอยู่แล้วทุกสิ่งทุกอย่างไม่เป็นที่แน่นอน และถ้าจะสมมติกรณีให้ร้ายแรงที่สุด การณ์ก็อาจเป็นได้ว่าชาติไทยอาจถูกชาติอื่นบีบคั้นและเข้ามารุกรานในบ้านเมือง ในกรณีอันร้ายแรงเช่นนี้ ซึ่งเป็นกรณีเกี่ยวกับความเป็นความตายของชาติ ประชาชนชาวไทยก็ตกอยู่ในฐานะจำเป็นที่จะต้องต่อสู้จนกว่าจะหมดลมหายใจ ถึงศัตรูจะมีอำนาจอย่างใหญ่หลวงเพียงใดก็ตาม เมื่อเกิดมาเป็นไทยแล้วต้องสู้จนสิ้นกำลัง ชาติไทยย่อมรู้สึกอยู่ว่าเป็นชาติเล็ก ไม่มีกำลังอำนาจมากมาย แต่ก็ยินดีที่จะยอมตายด้วยความเป็นไท ดีกว่าอยู่ด้วยความเป็นทาส เมื่อจำเป็น ถึงชาติไทยจะต้องสู้จนสิ้นชาติ ชื่อของไทยก็คงดำรงอยู่ตลอดชั่วกัลปาวสานว่าเป็นชาตินักสู้จนตัวตาย ดังได้มีตัวอย่างของบางชาติที่ถึงบัดนี้จะได้สูญสิ้นนับเป็นเวลาตั้งพันปี แต่ชื่อก็ยังดังก้องอยู่ไม่รู้ลืม

ชาติไทยตั้งมั่นอยู่ในสันติธรรม และแสวงหาสันติภาพอยู่เสมอ แต่จะต้องไม่ประมาท ถ้าหากบังเอิญต้องเผชิญต่อการรบ และต้องต่อต้านกับศัตรูผู้รุกรานโดยอธรรมเช่นนี้ ก็ควรตราหน้าที่ของประชาชนชาวไทยทั้งมวลอันรู้อยู่โดยทั่วกันนั้นไว้ให้เป็นที่แน่นอนเสียแต่บัดนี้ และให้ทุกคนสังวรในกิจที่ตนพึงปฏิบัติในการรบต่อต้านไว้โดยทั่วกัน  ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการตรากฎหมายเรื่องนี้ขึ้นไว้


[๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๕๘/-/หน้า ๑๑๖๐/๑๑ กันยายน ๒๔๘๔


งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตาม แม่แบบผิดพลาด: โปรดระบุประเภทของงานนี้ (ดูวิธีใช้) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า

"มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
(1) ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
(2) รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
(3) ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
(4) คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
(5) คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"