โปราณกบิลราชชาดก

จาก วิกิซอร์ซ

เรื่องโบราณกบิลราชชาดก เป็นเรื่องการแสดงอานิสงส์ของการสร้างพระไตรปิฎกว่า ผู้สร้างจะได้ผลอะไรบ้าง เริ่มเรื่มกล่าวถึงพระสารีบุตรเถรี ทูลถามพระผู้มีพระภาค พระองค์พรรณนาคุณของพระไตรปิฎกว่า เมื่อพระองค์ปรินิพพานแล้วพระไตรปิฎกจะเป็นศาสดาของพุทธศาสนิกชนแทนพระองค์ คำสอนทั้ง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์จะไม่เลอะเลือนหายไปเพราะได้จารึกไว้เหมือนคนฉลาดฝีงขุมทรัพย์ไว้แล้วจารึกอักษรบนเสาศิลาเพื่อเป็นเครื่องหมายให้รู้ที่ฝังขุมทรัพย์ ถ้าเสาไม่หายไป ขุมทรัพย์ก็ไม่หายไปเหมือนกัน จากนั้นก็เป็นการบอกอานิสงส์ว่า ผู้ที่ได้สร้างพระไตรปิฎกไว้ จะเขียนเองหรือใช้ให้คนอื่นเขียนก็ตาม จะได้บุญมากเช่นกัน เกิดเป็นพระราชาหลายชาติ เกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์หลายชาติ เมื่อจากสวรรค์แล้วก็ไปเกิดเป็นเทวดาในชั้นต่างๆ บนเทวโลกชั้นละหลายชาติ จะไม่พิกลพิการด้วยโรคต่างๆ เช่น โรคง่อยเปลี้ย หูหนวก เตี้ย ค่อม จะมีสรีรกายดุจสีทองคำ เป็นคนว่าง่าย ถ้าเป็นสตรีก็จะมีผิวพรรณดี รูปร่างงดงามจะได้เกิดเป็นอัครมเหสีของพระเจ้าจักรพรรดิ์หลายชาติ เมื่อได้พรรณนาอานิสงส์อย่างนี้แล้วจึงเป็นการนำเอาเรื่องในอดีตมาเล่าซ้ำอีก ในเรื่องนี้บุคคลในเรื่องมีชื่อตรงกับชื่อของพระญาติของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันทุกคน เช่น พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่าปุราณโคดม แต่ก่อนเป็นพระราชกุมารพระนามว่าสิทธัตถะ พระราชบิดาทรงพระนามว่าพระเจ้าสุทโธทนะ พระราชมารดา พระชายาของพระราชกุมารก็มีชื่อเหมือนกันส่วนพระโพธิสัตว์เป็นอำมาตย์ แต่ด้วยอานิสงส์ที่ได้สร้างพระไตรปิฎกแล้วได้ไปบังเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ครั้นจุติจากนั้นแล้วมาบังเกิดในราชสกุลของพระเจ้าอินทรราชในกรุงปุราณกบิลพัสดุ์ มีอานุภาพอันยิ่งใหญ่กว่าคนในพระนคร บริบูรณ์ไปด้วยทรัพย์และบริวารมากมาย