หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/301

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
286

ไปด้วย จึงขึ้นไปคิดค้าขายทางเมืองเหนือ เจ้าพระยาสุรสีห์วิสิสถสักดิ์เมื่อยังเปนสมุหเทสาพิบาลมนทลพิสนุโลก พบตัว เห็นเปนคนมีแววดีจึงชวนเข้ารับราชการ ได้เปนตำแหน่งต่าง ๆ ตั้งแต่ชั้นผู้น้อย เลื่อนที่ขึ้นไปโดยลำดับด้วยความสามาถ จนได้เปนพระสีหสงคราม ผู้ว่าราชการเมืองอุตรดิถ

เมื่อ พ.ส. 2445 เกิดเหตุพวกผู้ร้ายเงี้ยวปล้นได้เมืองแพร่ เวลานั้นผเอินเจ้าพระยาสุรสีห์ฯ ลงมารั้งตำแหน่งปลัดทูลฉลองกะซวงมหาดไทยแทนพระยามหาอำมาตย์เมื่อไปรับราชการยุโรป และตัวฉันก็ได้เคยไปเมืองเหนือ และเคยเดินบกแต่เมืองอุตรดิถไปเมืองแพร่ รู้เบาะแสพูมิลำเนาหยู่ด้วยกันทั้ง 2 คน พอได้รับโทรเลขบอกข่าวเกิดผู้ร้ายเงี้ยวฉบับแรก เมื่อพวกผู้ร้ายตีเมืองแพร่ได้แล้ว ปรึกสากันไนขนะนั้นเห็นว่าพวกเงี้ยวคงกำเริบเลยลงมาตีเมืองอุตรดิถ เพราะเปนเมืองที่มีทรัพย์สินมากและไม่มีไครรู้ตัว จึงรีบมีโทรเลขไปยังเมืองอุตรดิถฉบับหนึ่ง สั่งพระยาโพธิไห้รวบรวมกำลังกับเครื่องสาตราวุธ รีบยกไปกักทางที่ช่องเขาพรึงอันเปนที่คับขันไนทางเดินมายังเมืองอุตรดิถ โทรเลขอีกฉบับหนึ่งมีถึงพระยาสัชนาลัยบดี (จำไม่ได้ว่าตัวชื่อไร และเวลานั้นยังเปนพระมีนามว่าหย่างไร) ผู้ว่าราชการเมืองสวรรคโลก สั่งไห้รีบรวมกำลังและเครื่องสาตราวุธ ยกจากเมืองสวรรคโลกขึ้นไปตีเมืองแพร่ทางเมืองลองอีกกองหนึ่ง พระยาโพธิยกไปถึงเขาพรึงก็พบเงี้ยวยกลงมาดังคาดไว้ ได้รบกับเงี้ยวที่ปางต้นผึ้ง 2 วันกักพวกเงี้ยวไว้ได้