ครั้นณวันพฤหัศบดี ขึ้นสิบสามค่ำ เดือนสี่ ปีมเสง ตรีศก ศักราช ๑๒๔๓ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกณพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมวงษานุวงษ์ ข้าราชการฝ่ายทหารพลเรือน เฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทโดยลำดับ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสัญญาบัตรตั้งพระเสนีณรงค์ฤทธิ รายามุดา เปนพระยาฤทธิสงครามรามภักดีศรีสุลต่าน มหะมัดรัตนราชมุนินทร์ สุรินทรวิวังษา พระยาไทรบุรี (๒๗)
พระราชทานพานทองเปนเครื่องยศ ออกไปสำเร็จราชการรักษาบ้านเมือง ปกครองบุตรหลาน ญาติพี่น้อง ศรีตวันกรมการ สืบไป
อนึ่ง ตำแหน่งผู้กำกับทำนุบำรุงราชการเมืองไทรบุรีแต่ก่อนนั้น โปรดเกล้าฯ ให้ยกเสียทั้ง ๒ ตำแหน่ง ให้มอบราชการบ้านเมืองให้พระยาฤทธิสงครามรามภักดี พระยาไทรบุรี บังคับบัญชาเด็ดขาดแต่ผู้เดียว
ครั้นณปีรกา สัปตศก จุลศักราช ๑๒๔๗ พระยาฤทธิสงครามรามภักดี พระยาไทรบุรี แต่งให้ตนกูอับดลดานี ผู้น้อง กับศรีตวันกรมการ ๓ นาย คุมต้นไม้ทองเงิน เครื่องราชบรรณาการ เข้ามาทูลเกล้าฯ ถวายณกรุงเทพฯ แลมีใบบอกลงวันอารบาอา เดือนดลหิยะ ที่ ๑๓ ศักราชมลายู ๑๓๐๒ ปี ตรงกับวันศุกร ขึ้นสิบค่ำ เดือนสิบ ปีรกา สัปตศก เข้ามาให้กราบบังคมทูลพระกรุณาว่า ตำแหน่งที่พระเสนีณรงค์ฤทธิ รายามุดาเมืองไทรบุรี ว่างอยู่ ยังหามีตัวรับราชการสนองพระเดชพระคุณไม่ พระยาฤทธิสงครามรามภักดี พระยาไทรบุรี ได้ปฤกษาพระยาสุรพลพิพิธแลบรรดาญาติพี่น้องซึ่งเปนผู้ใหญ่กับศรีตวันกรมการเห็นพร้อมกันว่า ตนกูอับดลดานี ผู้น้องพระยาฤทธิสงครามรามภักดี พระยาไทรบุรี มีอายุสมควร