หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๙) - ๒๔๖๑.pdf/13

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
(๑๒)

มหาดไทย เสด็จเปนแม่ทัพใหญ่ ตัวข้าพเจ้าผู้เรียบเรียงหนังสือนี้ก็จะได้โดยเสด็จด้วยในกองทัพนั้น แต่เมื่อได้ความว่า ฮ่อที่ยกลงมาคราวนี้ไม่มากมายแขงแรงเหมือนคราวก่อน ทัพหลวงจึงมิได้ยกไป กองทัพเจ้าพระยาศรีธรรมาธิราชสมทบกับกองทัพหัวเมืองยกขึ้นไป ฮ่อถอยหนีไปตั้งมั่นอยู่ที่ค่ายทุ่งเชียงคำ เจ้าพระยาศรีธรรมาธิราชยกตามไปล้อมค่ายไว้ รบพุ่งกันอยู่กว่าเดือน เจ้าพระยาศรีธรรมาธิราชถูกปืนข้าศึกเจ็บป่วย ตีเอาค่ายทุ่งเชียงคำไม่ได้ ขัดสนเสบียงอาหาร จึงต้องถอยทัพกลับมาเมืองหนองคาย

ถึงปีรกา พ.ศ. ๒๔๒๘ ทรงพระราชดำริห์ว่า กองทัพที่ยกไปรบฮ่อตั้งแต่คราวแรกมาจนคราวแล้ว เกณฑ์พลเรือนไปรบตามอย่างโบราณทุกคราว ในเวลานั้น ทหารอย่างใหม่ก็ได้จัดตั้งขึ้นหลายกรมแล้ว ควรจะใช้กำลังทหารปราบปรามฮ่อเสียให้ราบคาบ จึงโปรดให้จัดทหารบกในกรุงเทพฯ เข้าเปนกองทัพ ๒ กอง กอง ๑ ให้นายพันเอก กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม แต่ยังดำรงพระยศเปนกรมหมื่น แลเปนผู้บังคับกรมทหารรักษาพระราชวัง เปนแม่ทัพ ยกไปทางเมืองหนองคาย อีกกอง ๑ ให้เจ้าพระยาสุรศักดิมนตรี (เจิม แสง-ชูโต) แต่ยังเปนนายพันเอก เจ้าหมื่นไวยวรนารถ แลเปนผู้บังคับกรมทหารน่า ยกขึ้นไปทางเมืองหลวงพระบาง ยกออกจากกรุงเทพฯ ในเดือน ๑๑ ปีรกานั้นด้วยกันทั้ง ๒ กอง

กองทัพกรมหลวงประจักษ์ฯ ขึ้นไปถึงเมืองหนองคาย ทรงแต่งให้เจ้าพระยาสุรวงษ์วัฒนศักดิ (โต บุนนาค) แต่ยังเปน