หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๙) - ๒๔๖๑.pdf/135

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๑๔

ครั้นเจ้าเมงดองเมง เจ้าอังวะ สิ้นบุญไปแล้ว เจ้าสิปอ บุตร ได้เปนเจ้าอังวะ พี่น้องก็แย่งชิงราชสมบัติฆ่าฟันกัน เจ้าเมืองเชียงแขงก็หาได้ขึ้นแก่เมืองอังวะส่งต้นไม้ทองเงินเหมือนแต่ก่อนไม่ ภายหลัง อังกฤษมาตีได้เมืองอังวะ เจ้าเมืองเชียงแขงก็ตั้งรักษาบ้านเมืองอยู่ตามเดิม หาได้ลงไปเมืองอังวะไม่

ครั้นศักราชได้ ๑๒๔๖ ปี เจ้าเมืองเชียงตุงกองไตถึงแก่กรรม เจ้าเสือ บุตรที่ ๑ ได้เปนเจ้าเมืองเชียงตุง อายุได้ ๑๖ ปี

เมื่อศักราชได้ ๑๒๔๕ ปีนั้น เจ้าเมืองเชียงแขงจึงปฤกษาท้าวพระยาพร้อมกันเห็นว่า ที่เมืองเชียงแขง ที่ไร่นามีน้อย ครอบครัวทำมาหากินขัดสนมาก จึงพาครอบครัวมาตั้งบ้านเมืองสิง ฝั่งน้ำของตวันออกเปนเขตรแขวงขึ้นกับเมืองน่าน หมายเอากรุงเทพฯ เปนที่พึ่งต่อไป เจ้าเมืองเชียงแขงอายุได้ ๔๕ ปี มีบุตรชายชื่อ เจ้าองค์คำ ๑ เจ้าทิปะ ๑ หญิงชื่อ ประทุมา ๑ สนันตา ๑ รวม ๔ คน เจ้าเมืองเชียงแขงท้าวพระยาพาครอบครัวมาตั้งอยู่ที่เมืองสิง ประมาณครัวใหญ่น้อย ๑๐๐๐ เศษ แต่ราชาธนัญไชยกับครอบครัวรักษาศาลเทพารักษ์อยู่ที่เมืองเชียงแขงประมาณ ๑๐ หลังเรือน เจ้าเมืองท้าวพระยาเมืองขึ้นทั้ง ๕ หัวเมืองนั้นยังตั้งบ้านเรือนเปนปรกติอยู่ตามเดิม เมืองขึ้นเมืองเชียงแขงตั้งอยู่ฝั่งน้ำของตวันตกทั้ง ๕ เมือง ระยะทางไปจากเมืองแขง นอนเมืองขัน จากเมืองขัน ไปนอนเมืองและ จากเมืองและ นอนทางคืน ๑ ถึงเมืองโหลย จากเมืองโหลย นอนเมืองยุ จากเมืองยุถึงเมืองอะคืน ๑