หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/117

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๘๐

ฉลาดในกลพิไชยสงคราม แต่เราลวงใจหยอกเล่นน่อยหนึ่งเท่านี้ก็ยังว่าหารู้ไม่ ชวนกันเทเมืองออกมาหาเราถึงค่าย เอาชีวิตรออกมาพลีกรรมอาวุธพลทหารแห่งเราจนเบื่อฆ่า ฉนี้ดูมิควรยิ่งนัก อนึ่ง พม่าชาวเมืองอังวะทั้งหลายซึ่งพลทหารแห่งเราฆ่าเสียแลจับเปนได้มากนั้นก็เปนประเพณีศึกมาแต่ก่อน พระเจ้าอังวะแลเสนาบดีทั้งหลายอย่าได้โทมนัศขัดเคืองแก่เราเลย จงอยู่เปนศุขสวัสดิพิพัฒนเถิด เราจะลาล่าทัพกลับไปเร็วแล้ว ครั้นพม่าเสนาบดีทั้งหลายได้แจ้งในหนังสือดังนั้น ก็สำคัญว่าฬ่อลวงอิก ให้คิดเข็ดขามคร้ามขยาดยิ่งนัก จึงปฤกษากันว่า ครั้งก่อน ทัพไทยทำกลอุบายทำทีประหนึ่งจะล่า ฝ่ายเรามิทันจะพิจารณาให้ถ่องแท้คิดว่าจริง ก็ชวนกันเทเมืองออกไป ทัพไทยได้ทีไล่พิฆาฎฆ่าล้มตายแลจับได้นั้นก็มาก แต่เท่านั้นแล้วยังมิหนำซ้ำไล่ติดตามเข้ามาถึงเมือง หากว่าเราปิดประตูเมืองเสียทัน หาไม่ก็จะเสียแก่ข้าศึกแต่ในเพลานั้นครั้งหนึ่งแล้ว แลบัดนี้ รื้อให้หนังสือบริภาษล้อฬ่อลวงเข้ามาอิกเล่า ถ้าเราจะออกไปอิก ครั้งนี้ ทัพไทยจะคิดกลอุบายไว้ยิ่งกว่าครั้งก่อน ครั้นได้ทีแล้วก็จะออกไล่รุกบุกบันเข้ามาแหกหักเอาเมืองให้จงได้ แลควรเรารักษาเมืองไว้ให้มั่นคง อย่าหลงในอุบายข้าศึก ครั้นปฤกษาเห็นพร้อมกันแล้ว ก็เอาเนื้อความขึ้นกราบทูลพระเจ้าอังวะเหมือนหนหลังนั้น ส่วนเจ้าพระยาโกษาก็จัดแจงช้างม้าพลาพลเดินเท้าแลเสบียงอาหารให้พร้อมไว้ แลเกณฑ์ให้พลลาวเมืองเชียงใหม่เดินทัพรั้งหลัง แล้วก็เลิกทัพกลับไปโดยลำดับมารควิถีตราบเท่าถึงเมืองหงษาวดี แลให้หยุดทัพยับยั้งอยู่ในที่นั้น ในขณะนั้น ฝ่ายแสนท้าวพระยาลาวเชียงใหม่ทั้งหลายซึ่งเดินทัพรั้งหลังมานั้น