หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/128

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๙๑

ฝ่ายแสนท้าวพระยาลาวเจ้าเมืองนครก็บอกหนังสือขึ้นไปยังเมืองเชียงใหม่ แล้วก็แต่งค่ายคูประตูหอรบ แล้วตรวจจัดพลทหารขึ้นประจำรักษาน่าที่เชิงเทินป้องกันเมืองตามธรรมเนียม ส่วนกองทัพไทยก็ยกเข้าแหกหักเอาเมือง ชาวเมืองรบพุ่งต้านทานอยู่สามวัน ครั้นเห็นเหลือกำลังที่จะต่อสู้ ก็เทครัวอพยพออกจากเมืองหนีไปยังเมืองเชียงใหม่บ้าง ๆ ก็ออกหากองทัพ ๆ ไทยได้เมืองนคร แลได้ช้างม้าเครื่องสาตราวุธแลลาวเชลยเปนอันมาก ก็ยกตีบ้านน้อยบ้านใหญ่ตามรยะรายทางขึ้นไป พลลาวต้านทานมิได้ก็แตกฉานพ่ายหนี แลตีตำบลใดก็ได้ตำบลนั้นด้วยอำนาจอาชญาสิทธิเจ้าพระยาโกษาธิบดีแม่ทัพหลวงครั้งไปลองศึกตำบลพเนียดแลคนทั้งหลายเข็ดขามคร้ามกลัวแต่ครั้งนั้นมา จะว่าราชการอันใดในงานสงครามทั้งปวงก็สิทธิขาดสำเร็จได้ด้วยคำอันสั่งนั้นทุกประการ แล้วก็ยกพยุหโยธาหาญขึ้นไปตีเมืองลำพูนแลให้ตั้งค่ายล้อมเมืองไว้ ฝ่ายท้าวพระยาเสนาลาวเจ้าเมืองลำพูนก็กะเกณฑ์พลทหารขึ้นประจำรักษาน่าที่เชิงเทินปราการป้องกันเมือง กองทัพไทยก็ยกเข้าป่ายปีนปล้นเอาเมือง พลลาวชาวเมืองรบพุ่งต้านทานอยู่ได้ ๗ วัน แลต้องสาตราวุธข้าศึกบาดเจ็บล้มตายนั้นก็มาก เห็นเหลือกำลังที่จะต่อสู้ ก็แตกฉานพ่ายออกจากเมืองในเพลากลางคืน แลหนีไปยังเมืองเชียงใหม่บ้าง ๆ ก็หนีเข้าป่าแลออกหากองทัพไทยเปนอันมาก ทัพไทยได้เมืองลำพูน แลได้ช้างม้าเครื่องสรรพาวุธคนเชลยก็มาก แล้วก็ยกขึ้นไปตีเมืองเชียงใหม่ ในขณะเมื่อทัพไทยได้เมืองลำพูนนั้น พระยาแสนหลวงก็เสียใจ จึงแต่งกองทัพให้ยกออกไปตั้งค่ายรับโดยรยะรายทางขึ้นมาทาบเท่าถึงเมืองเชียงใหม่เปนหลายแห่ง