หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/142

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๐๕

มันฤๅประการใด จึงเจ้าพระยาวิไชเยนทร์กราบทูลพระกรุณาว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะได้เทลาะวิวาทถุ้งเถียงกับหลวงสรศักดิ์สิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้นหามิได้ สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวตรัศได้ทรงฟังดังนั้นก็ยิ่งทรงพระพิโรธนัก จึงดำรัศสั่งตำรวจให้ไปเอาตัวหลวงสรศักดิ์เข้ามา ขุนหมื่นตำรวจรับพระราชโองการแล้วก็รีบออกไปเอาตัวหลวงสรศักดิ์ณบ้าน ครั้นไม่ได้ตัวณบ้านแล้วก็กลับเข้ามากราบทูลพระกรุณาให้ทราบ จึงมีพระราชดำรัศให้ตำรวจทั้งหลายไปเที่ยวหาตัวหลวงสรศักดิ์มาให้จงได้ แล้วมีพระราชโองการตรัศแก่เจ้าพระยาวิไชเยนทร์ว่า ท่านจงยับยั้งอยู่ เราจะหาตัวมันให้ได้ก่อน แลเจ้าพระยาวิไชเยนทร์เข้ามาเฝ้าขณะใดก็กราบทูลกล่าวโทษหลวงสรศักดิ์เพิ่มเติมขึ้นทุกครั้ง จึงสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินก็ทรงพระวิจารณในคดีนั้น แลทรงพระราชดำริห์รฦกถึงถ้อยคำอันหลวงสรศักดิ์กราบทูลกล่าวโทษเจ้าพระยาวิไชเยนทร์แต่งครั้งก่อนนั้นก็เห็นว่า เจ้าพระยาวิไชเยนทร์กระทำผิดจริง จึงดำรัศว่า อ้ายเดื่อมันเห็นว่า โทษท่านทำผิด จึงชกให้ได้ทุกขเวทนา แลเราจะมีโขนโรงใหญ่ทำขวัญให้แก่ท่าน ส่วนเจ้าพระยาวิไชเยนทร์ก็มิได้เต็มใจโดยพระราชดำรัศนั้น กราบทูลพระกรุณาขอแต่ให้ทำโทษหลวงสรศักดิ์ถ่ายเดียว ฝ่ายหลวงสรศักดิ์ก็ไปเฝ้าเจ้าแม่วัดดุสิตซึ่งเปนมารดาเจ้าพระยาโกษาเหล็ก เจ้าพระยาโกษาปาน อันเปนพระนมผู้ใหญ่ของสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวนั้น แลกราบถวายบังคมแล้วก็กราบทูลแถลงการอันเจ้าพระยาวิไชเยนทร์กระทำให้ร้อนในพระพุทธสาสนาเหมือนดังนั้น แลได้กราบทูลพระกรุณาแล้วก็มิได้เอาโทษ ข้าพระพุทธเจ้ามีความโทมนัศถึงพระพุทธสาสนา อันเจ้าพระยาวิไชเยนทร์จะ