หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/144

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๐๗

อรรคมหาเสนาธิบดีได้นั้นก็พอจะมีอยู่บ้าง แลทรงพระกรุณามิได้ชุบเลี้ยงขึ้น แลมาโปรดปรานพระราชทานที่สมุหนายกให้แก่อ้ายฝรั่งลูกค้าต่างประเทศอันมิได้ซื่อสัตย์คิดประทุษฐร้ายในลอองธุลีพระบาทอยู่ดังนี้ ก็มิบังควรยิ่งนัก แลถ้อยคำว่าดังนี้ก็ปรากฎมีเนือง ๆ จนทราบถึงพระกรรณ สมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวตรัศทราบเหตุดังนั้น ก็มีพระราชดำริห์จะแก้ความครหาแห่งข้าราชการทั้งปวง ด้วยทรงพระกรุณาเห็นแท้ว่า เจ้าพระยาวิไชเยนทร์มีสติปัญญายิ่งกว่าข้าราชการทั้งปวงสิ้น แลได้ของวิเศษต่าง ๆ ในทมิฬเสตประเทศมาถวายเปนอันมาก จึงโปรดให้เปนอรรคมหาเสนาธิบดีต่างพระเนตรพระกรรณ แลซึ่งประทุษฐร้ายนั้น ทรงพระกรุณาเสี่ยงเอาพระบารมี จะได้สดุ้งพระไทยนั้นหามิได้.

ครั้นอยู่มาเพลาหนึ่ง สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวเสด็จออกณท้องพระโรงหลวงพร้อมด้วยหมู่มุขมาตยาเสนาธิบดีกระวีราชปุโรหิตาจารย์เฝ้าอยู่เดียรดาษ มีพระราชดำริห์จะสำแดงสติปัญญาอันยิ่งแห่งเจ้าพระยาวิไชเยนทร์ให้ปรากฎ จึงมีพระราชโองการตรัศสั่งท้าวพระยาข้าราชการทั้งปวงว่า ท่านทั้งหลายจงช่วยกันเอาปืนพระพิรุณขึ้นชั่งดูแลจะหนักสักกี่หาบ จึงท้าวพระยาข้าทูลลอองธุลีพระบาททั้งหลายรับพระราชโองการ แล้วก็ชวนกันออกมาคิดอ่านการอันจะชั่งปืนนั้น แลจะทำตราชูชั่งให้ใหญ่ เอาสายโซ่ผูกแขวนขึ้นณไม้คันชั่งปักให้สูง แลจะเอาปืนขึ้นชั่งบนนั้น ก็เห็นตราชูชั่งแลสายโซ่อันผูกนั้นจะทานไว้มิได้ ด้วยพระพิรุณบอกนี้ใหญ่หลวงนัก แลจะคิดอ่านเปนประการใดก็สิ้นสติปัญญา จึงเข้ามากราบทูลพระกรุณาโดยเหตุเหลือกำลังจะเอาขึ้นมิได้ สมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าช้างเผือกตรัศได้ทรงฟังดังนั้น จึงแย้มพระโอฐ