หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/149

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๑๒

ไว้แต่ยังมิทันสวรรคต ครั้นเห็นจวนจะสวรรคตแล้ว ก็ยกจู่เข้าไปปล้นราชสมบัติในเพลานั้น อย่าให้ทันคนอื่นรู้ จึงได้โดยสดวก ถ้าแลคนอื่นรู้การนี้แล้ว ก็จะมีความปราถนาในราชสมบัติบ้าง แลจะตระเตรียมผู้คนรบพุ่งช่วงชิงฆ่าฟันกันตายเปนอันมากแล้ว ก็จะไม่สมคะเนที่คิดไว้ แลจะได้เปนอันยากนัก หลวงสรศักดิ์ได้ฟังถ้อยคำสมิงพระตบะบอกอุบายชี้แจงดังนั้นก็มีความยินดีนักจึงว่า บัดนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวรหนัก เห็นจะสิ้นพระชนมายุสวรรคาไลยในสองสามวันนี้เปนแท้ แลตัวเราเปนพระราชโอรส มีความปราถนาในราชสมบัติ แลจะคิดอ่านเอาราชสมบัติ ท่านจะเข้าด้วยเราฤๅหาไม่ จึงสมิงพระตบะก็ตอบกว่า ถ้าท่านจะทำการใหญ่จริงแล้ว ข้าพเจ้าจะช่วยคิดอ่านด้วย อย่าวิตกเลย หลวงสรศักดิ์เห็นสมิงพระตบะเข้าด้วยโดยสุจริตจริงแล้วจึงถามว่า คนของท่านมีอยู่มากน้อยเท่าใด สมิงพระตบะบอกว่า มีอยู่สามร้อยเศษ หลวงสรศักดิ์จึงว่า ท่านจงตระเตรียมให้พร้อมไว้แต่ในสองสามวัน สรรพด้วยเครื่องสาตราวุธทั้งปวง แล้วจงซุ่มไว้อย่าให้ใคร ๆ รู้ แลสมิงพระตบะรับคำแล้วก็ไปจัดแจงผู้คนแลเครื่องสาตราวุธไว้พร้อมเสร็จทุกประการ ครั้นค่ำเพลาประมาณยามเศษ หลวงสรศักดิ์ก็ขึ้นไปหาพระเพทราชาณจวน ยกมือไหว้แล้วถามว่า บัดนี้ เจ้าคุณว่าราชการอย่างไร จึงพระเพทราชาก็บอกโดยกิจอันว่าราชการนั้นให้แจ้งสิ้นทุกประการ หลวงสรศักดิ์จึงถามว่า เจ้าคุณว่าราชการ บัดนี้ จะเอาราชสมบัติเองฤๅ ๆ จะให้แก่ผู้ใด พระเพทราชาจึงบอกว่า ถ้าพระเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตแล้ว บิดาก็จะถวายราชสมบัติแก่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอซึ่งเสด็จอยู่ณพระราชวังหลัง หลวงสรศักดิ์ได้ฟังดังนั้นจึงว่า ถ้าเจ้าคุณยอมให้แก่ผู้อื่นไซ้ ข้าพเจ้า