หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/268

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๓๑

มหาเสนาบดีนั่งคุกเข่าประนมนิ้วฟังจนสิ้นข้อรับสั่ง จึงบ่ายน่าเข้ามาต่อพระราชนิเวศกราบถวายบังคม แล้วมหาดเล็กผู้รับสั่งจึงนั่งลงไหว้นบเสนาบดีได้ ตั้งแต่นี้สืบไปภายน่า ให้ทำตามอย่างธรรมเนียมแต่ก่อนดังนี้ แล้วโปรดให้ทูตานุทูตขึ้นเฝ้าบนที่เสด็จออก พร้อมด้วยข้าราชการฝ่ายทหารพลเรือนกราบถวายบังคมเฝ้าตามตำแหน่งซ้ายขวา จึงเสด็จออกแขกเมืองณมุขกระสัน ดำรัศพระราชปฏิสันถารสามนัดตามขัติยประเพณีแล้วเสด็จขึ้น ทูตจึงไหว้อรรคมหาเสนาบดีทั้งนั้น แล้วทรงพระกรุณาโปรดให้แต่งพระราชสาสนตอบแลเครื่องราชบรรณาการให้ทูตานุทูตจำทูลไปจำเริญทางพระราชไมตรีณกรุงรัตนบุรอังวะไปกับทูตานุทูตพม่าอันมานั้น.

ในปีนั้น ฝ่ายพระยาหงษาวดีแต่งให้พระยาอุปราชาเปนแม่ทัพเรือ ให้พระยาทละเปนแม่ทัพบก ยกกองทัพรามัญขึ้นไปตีกรุงรัตนบุรอังวะเข้าล้อมเมืองไว้.

ฝ่ายทูตานุทูตพม่าพาทูตไทยอ้อมไปทางเมืองป่าสักป่าโลง ให้ข่าวไปถึงกองทัพรามัญว่า กองทัพพระมหาศรีอยุทธยายกไปช่วยกรุงอังวะ พอกองทัพรามัญขาดเสบียงลง ก็เลิกกองทัพกลับไปเมืองหงษาวดี ประมาณยี่สิบวันทูตก็ไปถึงอังวะ นำทูตไทยขึ้นเฝ้ากับทั้งพระราชสาสนเครื่องราชบรรณาการขึ้นถวายพระเจ้าอังวะ แลทูตานุทูตได้เข้าเฝ้าสามครั้งแล้วกราบถวายบังคมลากลับมา มาถึงกลางทาง ราชทูตอุปทูตป่วยลงถึงแก่กรรม ยังแต่ตรีทูตกับฟ้าไล่ข่าสองนายมาถึงพระนครได้ ขึ้นเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทแจ้งข้อราชการทั้งปวงนั้น.