หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/287

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๕๐

พระมณเฑียรธรรม ให้กุมเอากรมหมื่นเสพภักดีไปจำไว้ณตึกพระคลังศุภรัต ให้กุมเอากรมหมื่นจิตรสุนทรไปจำไว้ณตึกพระคลังวิเศษ แล้วตรัศสั่งเจ้าอาทิตยว่า เขากระทำแก่พระบิดาเจ้าฉันใด จงกระทำตอบแทนฉันนั้น.

ครั้นถึงณวันแรมสิบสามค่ำ จึงมีพระบัณฑูรสั่งให้ลงพระราชอาชญาสำเร็จโทษเจ้าสามกรมณพระคลังวิเศษแห่งเดียวกัน แลกรมหมื่นสุนทรเทพนั้นพระไทยอ่อน ร้องไห้วิงวอนผัดผ่อนเพลาไป แต่กรมหมื่นเสพภักดีนั้นน้ำพระไทยองอาจ มิได้ย่อท้อต่อความตาย ตรัศให้สติเจ้าพี่ว่า จะกลัวตายไย ธรรมดาเกิดมาในมหาประยูรเสวตรฉัตรดังนี้ ใครจะได้ตายดีสักกี่คน แลกรมหมื่นจิตรสุนทรนั้นนิ่งอยู่มิได้ตรัศประการใด เจ้าอาทิตยจึงสั่งเจ้าพนักงานให้ลงท่อนจันทน์สำเร็จโทษเจ้าสามกรมสิ้นพระชนม์แล้ว ให้เอาพระศพทั้งสามไปฝังณวัดโคกพระยาตามโบราณราชประเพณี.

ครั้นถึงณวันขึ้นหกค่ำ เดือนเจ็ด ท้าวพระยามุขมนตรีทั้งหลายจึงให้ตั้งการพระราชพิธีปราบดาภิเศกณพระที่นั่งสรรเพชญ์ปราสาท อัญเชิญสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกรมพระราชวังบวรฯ เสด็จเถลิงถวัลยราชมไหสุริยสมบัติสืบสันตติวงษ์ดำรงพิภพกรุงเทพมหานครบวรทวาราวดีศรีอยุทธยา.

ฝ่ายพระเชษฐาธิราชกรมขุนอนุรักษ์มนตรีนั้นพระไทยปราถนาราชสมบัติ มิได้เสด็จไปอยู่ที่อื่น เสด็จขึ้นอยู่บนพระที่นั่งสุริยามรินทร สมเด็จพระเจ้าแผ่นดินมิรู้ที่จะทำประการใด ด้วยร่วมพระอุทรเดียวกัน จึงทรงพระราชดำริห์จะยอมถวายราชสมบัติ แลพระองค์เสด็จดำรงราชอาณาจักรอยู่ได้สิบวัน.