หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/66

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๙

ราชพิธีตรียัมปวายกลางวันนั้น ก็เสด็จทรงช้างต้นพระที่นั่งสุวรรณปฤษฎางค์ ประดับด้วยเครื่องราโชประโภคทั้งปวง แลท้าวพระยาเสนาบดีมนตรีมุขทั้งหลายแห่โดยซ้ายขวาน่าหลัง ก็เสด็จแต่พระราชวังบวรสถานมงคลมาโดยทางหอรัตนไชยมาทางสพานช้าง แลพระไตรภูวนาทิตยวงษ์ก็ขี่ช้างตามช้างพระที่นั่งมา พระบาทสมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวก็เสด็จไปโดยทางชีกุน แลคนซึ่งแต่งซุ่มไว้นั้นล้วนถือปืนนกสับอยู่ณสพานช้างเปนอันมาก ครั้นให้ถามก็บอกว่า ข้าวังหลัง ก็มิได้มีพระราชโองการประการใด เสด็จไปส่งพระเปนเจ้าถึงเทวสถานแล้ว เสด็จพระราชดำเนินกลับคืนมายังพระราชวังบวรสถานมงคล อยู่มาวันหนึ่ง ผู้ดาษเลงแลท้าวหมู่เรือพระที่นั่งอลงกฎนาวามาบอกแก่หมื่นราชามาตย์ ปลัดพระตำรวจ ว่า นายสุก เดิมเปนข้าพระไชยราชาธิราช ได้มาเปนข้าพระไตรภูวนาทิตยวงษ์ แลนายสุกนั้นว่า เปนรบาดทีหนึ่งแล้ว ทีนี้จะเปนรบาดอิกเล่า ผู้ดาษเลงแลท้าวจึงถามนายสุกรว่า ซึ่งจะทำรบาดอิกนั้นด้วยเหตุอันใด แลนายสุกจึงบอกแก่ผู้ดาษเลงแลท้าวว่า พระไตรภูวนาทิตยวงษ์คิดร้ายในลอองธุลีพระบาท หมื่นราชามาตย์ก็เอาคดีนั้นบอกแก่หลวงพิไชยเดชะ ๆ ก็เอากราบบังคมทูลพระกรุณาให้ทราบในลอองธุลีพระบาท จึงมีพระราชโองการตรัศสั่งแก่หลวงพิไชยเดชให้ว่าแก่ผู้ดาษเลงแลท้าวให้ไปฟังเอาเนื้อความนั้นเปนมั่นแม่น ผู้ดาษเลงแลท้าวจึงไปหานายสุก ๆ จึงเล่าให้ผู้ดาษเลงแลท้าวฟังว่า พระไตรภูวนาทิตยวงษ์คุมคนจะยกขึ้นมาในเดือนยี่ แรมสามค่ำ ผู้ดาษเลงแลท้าวนั้นเอาเนื้อความนั้นมาบอกแก่หลวงพิไชยเดชะ ๆ ก็เอาคดีนั้นกราบทูลพระกรุณา อยู่วันหนึ่ง พระยา