กฎกระทรวงว่าด้วยการประกอบกิจการสถานพยาบาล (พ.ศ. ๒๕๔๕)
หน้านี้ควรจัดทำเป็นแบบพิสูจน์อักษร เนื่องจากมีต้นฉบับสแกนอยู่ที่ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/00099799.PDF |
- ข้อ ๑ ในกฎกระทรวงนี้
- “สมุดทะเบียนสถานพยาบาล” หมายความว่า สมุดแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับ
การได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลและการดำเนินการสถานพยาบาล ตามกฎหมาย
ว่าด้วยสถานพยาบาล
- ข้อ ๒ การยื่นคำขอหรือการแจ้งเป็นหนังสือต่อผู้อนุญาตตามกฎกระทรวงนี้
ในกรุงเทพมหานคร ให้ยื่น ณ กองการประกอบโรคศิลปะ สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข หรือสถานที่อื่นที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด สำหรับจังหวัดอื่น ให้ยื่น ณ สำนักงาน
สาธารณสุขจังหวัดที่สถานพยาบาลนั้นตั้งอยู่
- การยื่นคำขอหรือการแจ้งเป็นหนังสือต่อผู้อนุญาตตามกฎกระทรวงนี้ หากไม่สามารถมายื่นคำขอหรือหนังสือแจ้งได้ด้วยตนเอง ให้ทำหนังสือมอบอำนาจให้ผู้อื่นมายื่นคำขอหรือหนังสือแจ้งแทน และในการมายื่นคำขอหรือหนังสือแจ้งแทน ให้ผู้รับมอบอำนาจนำสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ผู้รับคำขอหรือหนังสือแจ้งด้วย
หมวด ๒
การอนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาล
ส่วนที่ ๑
สถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน
- ข้อ ๓ ผู้ใดประสงค์จะประกอบกิจการสถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืนให้ยื่นคำขออนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลตามแบบที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา พร้อมด้วยเอกสารหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคำขอดังกล่าว และ
แผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลตามแบบที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกำหนดโดยประกาศใน
ราชกิจจานุเบกษา ต่อผู้อนุญาตก่อนยื่นคำขอรับใบอนุญาต
- ข้อ ๔ ในการพิจารณาอนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาล ผู้อนุญาตจะอนุมัติ
ได้ต่อเมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่า
- (๑) ผู้ขออนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะ
ต้องห้ามตามมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
- (๒) สถานพยาบาลเป็นไปตามลักษณะที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามความ
ในมาตรา ๑๔ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และจะมีผู้ประกอบวิชาชีพ
เป็นผู้ให้บริการตลอดเวลาเปิดทำการตรงตามวิชาชีพและจำนวนที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออก
ตามความในมาตรา ๑๘ (๔) แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
ส่วนที่ ๒
สถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน
- ข้อ ๕ ผู้ใดประสงค์จะประกอบกิจการสถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วย
ไว้ค้างคืน ให้ยื่นคำขออนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลตามแบบที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
กำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา พร้อมด้วยเอกสารหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคำขอดังกล่าว
และแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลตามแบบที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกำหนดโดยประกาศใน
ราชกิจจานุเบกษา ต่อผู้อนุญาตก่อนยื่นคำขอรับใบอนุญาต
- ข้อ ๖ เมื่อได้รับคำขออนุมัติและแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลตามข้อ ๕ แล้ว
ให้ผู้อนุญาตส่งให้คณะกรรมการสถานพยาบาลพิจารณาเสนอความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณา
อนุมัติ
- ข้อ ๗ ในการพิจารณาอนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาล ผู้อนุญาตจะอนุมัติ
ได้ต่อเมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่า
- (๑) ผู้ขออนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะ
ต้องห้ามตามมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
- (๒) บริการนั้นเหมาะสมกับความต้องการของประชาชนในเขตพื้นที่และเหมาะสม
กับสภาวะการเจ็บป่วยของประชาชนในเขตพื้นที่นั้น
- (๓) แผนการลงทุนเหมาะสมกับขนาดและประเภทของบริการ
- (๔) แบบแปลนของสถานพยาบาลเป็นไปตามลักษณะที่กำหนดในกฎกระทรวง
ที่ออกตามความในมาตรา ๑๔ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
- (๕) มีผู้ประกอบวิชาชีพเป็นผู้ให้บริการตลอดเวลาเปิดทำการตรงตามวิชาชีพ
และจำนวนที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามความในมาตรา ๑๘ (๔) แห่งพระราชบัญญัติ
สถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
- ข้อ ๘ เมื่อผู้อนุญาตอนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลแล้ว ให้ปิดประกาศรายชื่อผู้ประสงค์จะประกอบกิจการสถานพยาบาล สถานที่ตั้ง ประเภท ลักษณะ และขนาดของสถานพยาบาล ไว้ในที่เปิดเผยและมองเห็นได้ง่าย รวมทั้งจัดทำเอกสาร หรือแผ่นพับ หรือข้อมูลสารสนเทศ เพื่อให้บริการแก่ผู้ร้องขอ ณ กองการประกอบโรคศิลปะ สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด แล้วแต่กรณี
- ข้อ ๙ ให้ผู้ได้รับอนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาล จัดทำป้ายขนาดความกว้าง
ไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบเซ็นติเมตร และยาวไม่น้อยกว่าสองร้อยสี่สิบเซ็นติเมตร ติดตั้งไว้ในที่เปิดเผย
และเห็นได้ง่าย ณ สถานที่ซึ่งได้รับอนุมัติตามแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลดังกล่าว โดยระบุประเภท
ลักษณะ และขนาดของสถานพยาบาลที่จะจัดตั้ง พร้อมทั้งวัน เดือน ปี ที่ได้รับอนุมัติไว้ในป้ายด้วย
- ข้อ ๑๐ ให้ผู้ได้รับอนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลดำเนินการก่อสร้างอาคาร
สถานที่ตามแผนงานดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนดไว้ในแผนงานนั้น และหากยังไม่แล้วเสร็จ
ให้ผู้ได้รับอนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลดังกล่าวรายงานความก้าวหน้าของการก่อสร้างอาคารสถานที่ต่อผู้อนุญาตเป็นระยะทุกหกเดือน
- กรณีที่ไม่สามารถก่อสร้างอาคารสถานที่ให้แล้วเสร็จได้ภายในกำหนดระยะเวลา
สามปีนับแต่วันที่ได้รับอนุมัติ ถ้าผู้ได้รับอนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลผู้นั้นยังมีความ
ประสงค์จะประกอบกิจการสถานพยาบาลอีก ให้ยื่นคำขออนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลใหม่
หมวด ๓
การขอ การออกใบอนุญาตและการกำหนดเงื่อนไข
- ข้อ ๑๑ ผู้ใดประสงค์จะขอรับใบอนุญาต ให้ยื่นคำขอตามแบบที่ปลัดกระทรวง
สาธารณสุขกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา พร้อมด้วยเอกสารหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบ
คำขอดังกล่าว และหนังสือแสดงความจำนงเป็นผู้ปฏิบัติงานในสถานพยาบาลของผู้ประกอบวิชาชีพ
ตามแบบที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา พร้อมด้วยเอกสาร
หลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบหนังสือนั้น
- ข้อ ๑๒ เมื่อกองการประกอบโรคศิลปะ สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวง
สาธารณสุข หรือสถานที่อื่นที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด หรือสำนักงานสาธารณสุข
จังหวัด แล้วแต่กรณี ได้รับคำขอรับใบอนุญาตพร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานตามข้อ ๑๑ ครบถ้วน
และถูกต้องแล้ว ให้เสนอเรื่องต่อคณะกรรมการเพื่อเสนอความเห็นต่อผู้อนุญาต
- ในการพิจารณาเสนอความเห็นของคณะกรรมการตามวรรคหนึ่ง ให้พิจารณาว่า
ผู้ขอรับใบอนุญาตได้จัดให้มีกรณีตามมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
โดยถูกต้องครบถ้วนแล้วหรือไม่
- ข้อ ๑๓ ใบอนุญาตให้เป็นไปตามแบบที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกำหนดโดย
ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
- ข้อ ๑๔ ในการออกใบอนุญาต ให้ผู้อนุญาตมอบสมุดทะเบียนสถานพยาบาล
ให้ผู้รับอนุญาตเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่หรือผู้อนุญาตตรวจสอบ
- สมุดทะเบียนสถานพยาบาลตามวรรคหนึ่ง อย่างน้อยต้องมีรายการดังต่อไปนี้
- (๑) สำเนาใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล
- (๒) บริการที่ได้รับอนุญาต
- (๓) การโอนใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล
- (๔) การแสดงความจำนงเป็นผู้รับอนุญาตแทนกรณีผู้รับอนุญาตตาย
- (๕) รายการการชำระค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการสถานพยาบาลรายปี
- (๖) การต่ออายุใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล
- (๗) การออกใบแทนใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล
- (๘) รายชื่อผู้ประกอบวิชาชีพที่ปฏิบัติงานประจำสถานพยาบาล
- (๙) รายการแก้ไขเปลี่ยนแปลงใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล
- (๑๐) บันทึกการตรวจสอบสถานพยาบาลของพนักงานเจ้าหน้าที่
- (๑๑) สำเนาใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล
- (๑๒) การต่ออายุใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล
- (๑๓) การออกใบแทนใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล
- (๑๔) รายการแก้ไขเปลี่ยนแปลงใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล
- สมุดทะเบียนสถานพยาบาลให้เป็นไปตามแบบที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกำหนด
โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
- ข้อ ๑๕ กรณีที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการตามข้อ ๑๔ ให้บันทึกลงใน
สมุดทะเบียนสถานพยาบาล หากสมุดทะเบียนสถานพยาบาลหมดเนื้อที่ที่จะบันทึกรายการที่
เปลี่ยนแปลงหรือที่เพิ่มขึ้น ให้นำไปบันทึกไว้ในสมุดทะเบียนสถานพยาบาลเล่มใหม่
- ข้อ ๑๖ ผู้รับอนุญาตจะต้องแสดงสมุดทะเบียนสถานพยาบาลแก่พนักงานเจ้าหน้าที่
ที่เข้าไปตรวจสอบสถานพยาบาลหรือเมื่อได้รับการร้องขอโดยให้บันทึกวันเวลาและข้อเสนอแนะ
ของพนักงานเจ้าหน้าที่ไว้ในสมุดทะเบียนสถานพยาบาลด้วย
- ข้อ ๑๗ ในกรณีสมุดทะเบียนสถานพยาบาลสูญหายหรือถูกทำลายในสาระสำคัญ
ให้ผู้รับอนุญาตแจ้งต่อผู้อนุญาตเพื่อขอรับสมุดทะเบียนสถานพยาบาล ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข
ที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
- ข้อ ๑๘ ผู้รับอนุญาตที่ประสงค์จะแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการที่ได้รับอนุญาตไว้แล้ว
ในกรณีดังต่อไปนี้ ให้ยื่นคำขอตามแบบที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกำหนดโดยประกาศในราชกิจจา
นุเบกษา พร้อมด้วยเอกสารหลักฐานตามที่ระบุไว้ในคำขอนั้น
- (๑) เมื่อมีการเปลี่ยนตัวผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล และผู้รับอนุญาตได้แจ้ง
เป็นหนังสือให้ผู้อนุญาตทราบแล้วตามมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
- (๒) เมื่อได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาตให้เปลี่ยนชื่อสถานพยาบาลตามมาตรา ๔๓
แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
- (๓) เมื่อมีการเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุลของผู้รับอนุญาต
- (๔) เมื่อมีการเปลี่ยนชื่อที่ตั้งสถานพยาบาล
- (๕) เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเวลาทำการ
- การยื่นคำขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการตาม (๑) หรือ (๒) ให้ยื่นพร้อมการแจ้งการ
เปลี่ยนตัวผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลหรือการขออนุญาตเปลี่ยนชื่อสถานพยาบาล แล้วแต่กรณี
การแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการตาม (๑) ให้ผู้อนุญาตบันทึกการเปลี่ยนแปลงไว้ในสมุดทะเบียน
สถานพยาบาล และระบุวัน เดือน ปี ที่บันทึกการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไว้ด้วย
- การแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการตาม (๒) (๓) (๔) หรือ (๕) ให้ผู้อนุญาตออกใบแทน
ใบอนุญาตโดยออกใบอนุญาตใหม่ตามใบอนุญาตเดิม เว้นแต่รายการที่ผู้รับอนุญาตขอแก้ไข
เปลี่ยนแปลงให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงไปตามนั้น และให้กำกับคำว่า“ใบแทน” ไว้ที่ด้านหน้าซ้าย และระบุ
วัน เดือน ปี ที่ออกใบแทนใบอนุญาตไว้ด้วย พร้อมทั้งบันทึกการเปลี่ยนแปลงไว้ในสมุดทะเบียน
สถานพยาบาล สำหรับใบอนุญาตเดิมให้ประทับตรายกเลิกการใช้ด้วยอักษรสีแดง
- การแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการชื่อที่ตั้งสถานพยาบาล ผู้รับอนุญาตไม่ต้องเสีย
ค่าธรรมเนียมในการแก้ไขเปลี่ยนแปลง
หมวด ๔
การขอต่ออายุใบอนุญาตและการอนุญาต
- ข้อ ๑๙ ผู้รับอนุญาตที่ประสงค์จะขอต่ออายุใบอนุญาต ให้ยื่นคำขอตามแบบที่
ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา พร้อมด้วยเอกสารหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคำขอนั้น ก่อนใบอนุญาตสิ้นอายุ
- การพิจารณาต่ออายุใบอนุญาต ผู้อนุญาตต้องจัดให้มีการตรวจสอบสถานพยาบาล
ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล หากพบว่ามีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงการบริการแตกต่าง
ไปจากที่กำหนดไว้ในกฎหมาย ให้สถานพยาบาลดำเนินการให้ถูกต้องก่อนการต่ออายุใบอนุญาต
- การอนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาต ให้ผู้อนุญาตออกใบอนุญาตให้ใหม่ โดยให้
ระบุเลขที่ใบอนุญาตเดิมไว้ด้วย และให้บันทึกการต่ออายุใบอนุญาตไว้ในสมุดทะเบียนสถานพยาบาล
สำหรับใบอนุญาตเดิมที่หมดอายุแล้วนั้น ให้ประทับตรายกเลิกการใช้ด้วยอักษรสีแดง
- ข้อ ๒๐ ผู้รับอนุญาตที่ไม่ได้มายื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตก่อนใบอนุญาตสิ้นอายุ
หรือได้มายื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตก่อนใบอนุญาตสิ้นอายุแต่ไม่ได้รับการพิจารณาต่ออายุใบอนุญาต
ให้ถือว่าใบอนุญาตนั้นสิ้นสุดลง หากผู้รับอนุญาตประสงค์จะประกอบกิจการสถานพยาบาลนั้นต่อไป
จะต้องยื่นคำขอรับใบอนุญาตใหม่
หมวด ๕
การชำระค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการสถานพยาบาลรายปี
- ข้อ ๒๑ ผู้รับอนุญาตต้องยื่นคำขอชำระค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการ
สถานพยาบาลรายปีภายในวันที่ ๓๑ ธันวาคมของทุกปี เว้นแต่กรณีได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียม
ตามกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมที่ออกตามความในพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
กรณีผู้รับอนุญาตมิได้ชำระค่าธรรมเนียมภายในเวลาที่กำหนดตามวรรคหนึ่ง จะต้อง
ชำระเงินเพิ่มอีกร้อยละห้าต่อเดือน การคำนวณเงินเพิ่มให้คำนวณตามจำนวนเดือนที่ยังไม่ได้ชำระ
เศษของเดือนให้คิดเป็นหนึ่งเดือน
- ข้อ ๒๒ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งรับชำระค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการ
สถานพยาบาลรายปี ออกหลักฐานการชำระค่าธรรมเนียมให้แก่ผู้รับอนุญาต ตามแบบที่ปลัด
กระทรวงสาธารณสุขกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาและบันทึกการชำระค่าธรรมเนียมนั้น
และเงินเพิ่ม(ถ้ามี) ไว้ในสมุดทะเบียนสถานพยาบาลทุกครั้งที่มีการชำระค่าธรรมเนียม
- ข้อ ๒๓ ผู้รับอนุญาตต้องแสดงหลักฐานการชำระค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการ
สถานพยาบาลรายปี ณ สถานพยาบาล โดยปิดในที่เปิดเผยและเห็นได้ชัดเจนบริเวณทางเข้า
สถานพยาบาล
หมวด ๖
การขอโอนใบอนุญาตและการอนุญาต
- ข้อ ๒๔ ผู้รับอนุญาตที่ประสงค์จะโอนใบอนุญาตให้แก่บุคคลอื่นซึ่งมีคุณสมบัติ
และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
ให้ยื่นคำขอตามแบบที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา พร้อมด้วย
เอกสารหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคำขอนั้น
- การอนุญาตให้โอนใบอนุญาต ให้ออกใบอนุญาตให้ใหม่ และบันทึกไว้ใน
สมุดทะเบียนสถานพยาบาล โดยกำหนดวันหมดอายุของสถานพยาบาลนั้นให้เป็นไปตามใบอนุญาตเดิม
สำหรับใบอนุญาตเดิมให้ประทับตรายกเลิกการใช้ด้วยอักษรสีแดง
หมวด ๗
การแสดงความจำนงขอเป็นผู้รับอนุญาตแทนกรณีผู้รับอนุญาตตายและการตรวจสอบ
- ข้อ ๒๕ ผู้ใดประสงค์จะประกอบกิจการสถานพยาบาลแทนกรณีผู้รับอนุญาตตาย
ให้ยื่นหนังสือแสดงความจำนงต่อผู้อนุญาตตามแบบที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกำหนดโดยประกาศ
ในราชกิจจานุเบกษา พร้อมด้วยเอกสารหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบหนังสือนั้น เพื่อขอประกอบกิจการที่ผู้ตายได้รับอนุญาตนั้นต่อไป ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ผู้รับอนุญาตตาย
- เมื่อผู้อนุญาตตรวจสอบแล้วพบว่าผู้แสดงความจำนงมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะ
ต้องห้ามตามมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ให้ออกใบอนุญาตให้ใหม่
โดยกำหนดวันหมดอายุของสถานพยาบาลนั้นให้เป็นไปตามใบอนุญาตเดิม และบันทึกไว้ใน
สมุดทะเบียนสถานพยาบาลว่าผู้แสดงความจำนงเป็นผู้รับอนุญาตตั้งแต่วันที่ผู้รับอนุญาตตาย สำหรับ
ใบอนุญาตเดิมให้ประทับตรายกเลิกการใช้ด้วยอักษรสีแดง
หมวด ๘
การขอและการออกใบแทนใบอนุญาต
- ข้อ ๒๖ กรณีใบอนุญาตสูญหายหรือถูกทำลายในสาระสำคัญ ให้ผู้รับอนุญาต
แจ้งต่อผู้อนุญาตและยื่นคำขอรับใบแทนใบอนุญาตตามแบบที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกำหนด
โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา พร้อมด้วยเอกสารหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคำขอนั้น ภายใน
สามสิบวันนับแต่วันที่ได้ทราบการสูญหายหรือถูกทำลายดังกล่าว
- การพิจารณาออกใบแทนใบอนุญาต ให้ผู้อนุญาตออกใบอนุญาตใหม่ตามใบอนุญาต
เดิมโดยให้กำกับคำว่า “ใบแทน” ไว้ที่ด้านหน้าซ้าย และระบุวัน เดือน ปี ที่ออกใบแทนใบอนุญาตไว้ด้วย พร้อมทั้งบันทึกการออกใบแทนใบอนุญาตไว้ในสมุดทะเบียนสถานพยาบาลด้วย
หมวด ๙
การขอและการอนุญาตให้เปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการสถานพยาบาล
ข้อ ๒๗ การเปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการสถานพยาบาลจากประเภทที่ไม่รับผู้ป่วย
ไว้ค้างคืนเป็นการประกอบกิจการของสถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืนไม่สามารถกระทำได้
- ข้อ ๒๘ ผู้รับอนุญาตที่ประสงค์จะเปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการสถานพยาบาล
ให้แตกต่างไปจากที่ระบุไว้ในใบอนุญาต หรือก่อสร้างอาคารขึ้นใหม่ หรือดัดแปลงอาคารเกินกว่า
ที่ได้รับอนุญาตไว้เดิม ในกรณีใดกรณีหนึ่งหรือหลายกรณีดังต่อไปนี้ ให้กระทำได้เมื่อได้รับอนุญาต
จากผู้อนุญาต
- (๑) การลดหรือเพิ่มแผนกบริการ
- (๒) การลดหรือเพิ่มจำนวนเตียงรับบริการในแผนกผู้ป่วยในหรือแผนกผู้ป่วยหนัก
- (๓) การลดหรือเพิ่มจำนวนห้องผ่าตัดหรือห้องคลอด
- (๔) การเปลี่ยนลักษณะของสถานพยาบาลจากที่ได้รับอนุญาตไว้แล้ว
- (๕) การเปลี่ยนลักษณะการใช้สอยอาคาร โดยการย้ายสถานที่หรือแผนกบริการ
ภายในอาคารจากผังเดิมที่ได้รับอนุญาตไว้แล้ว
- (๖) การเพิ่มหรือลดอุปกรณ์ เช่น เครื่องเอกซเรย์ เครื่องเอ็มอาร์ไอ เครื่องฉายรังสี
หรือเครื่องฟอกบำบัดโลหิต
- (๗) การก่อสร้างอาคารขึ้นใหม่ที่ต้องได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุม
อาคาร
- (๘) การก่อสร้างอาคารขึ้นใหม่ที่ทำให้ต้องเปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการอย่างใด
อย่างหนึ่งหรือหลายอย่างตาม (๑) ถึง (๖)
- (๙) การดัดแปลงอาคารที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อการบริการผู้ป่วยในระหว่าง
การดำเนินการดัดแปลงนั้น
- (๑๐) การดัดแปลงอาคารที่ทำให้ต้องเปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการอย่างใด
อย่างหนึ่งหรือหลายอย่างตาม (๑) ถึง (๖)
- ข้อ ๒๙ การขออนุญาตเปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการสถานพยาบาลตามข้อ ๒๘
ให้ยื่นคำขอตามแบบที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา พร้อมด้วย
เอกสารหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคำขอนั้น
- ข้อ ๓๐ การขออนุมัติแผนงานการเปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการ ให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในหมวด ๒ โดยอนุโลม
- ข้อ ๓๑ การพิจารณาอนุญาตให้เปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการของสถานพยาบาลตามคำขอของผู้รับอนุญาตตามข้อ ๒๙ ผู้อนุญาตต้องจัดให้มีการตรวจสถานพยาบาลให้เป็นไปตามมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
- ข้อ ๓๒ การอนุญาตให้เปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการสถานพยาบาล ซึ่งเป็น
การเปลี่ยนแปลงลักษณะของสถานพยาบาล หรือก่อสร้างอาคารขึ้นใหม่ หรือดัดแปลงอาคารเกินกว่า
ที่ได้รับอนุญาตไว้เดิม และเป็นเหตุให้เพิ่มหรือลดจำนวนเตียง หรือเป็นการเพิ่มหรือลดบริการ ให้ผู้อนุญาตออกใบอนุญาตให้ใหม่ โดยกำหนดวันหมดอายุใบอนุญาตให้เป็นไปตามใบอนุญาตเดิม และให้บันทึกการเปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการดังกล่าว รวมทั้งการเพิ่มหรือลดจำนวนผู้ประกอบวิชาชีพ
ไว้ในสมุดทะเบียนสถานพยาบาล สำหรับใบอนุญาตเดิมให้ประทับตรายกเลิกการใช้ด้วยอักษรสีแดง
ข้อ ๓๓ การอนุญาตให้เปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการสถานพยาบาลซึ่งเป็น
การก่อสร้างอาคารขึ้นใหม่หรือดัดแปลงอาคารเกินกว่าที่ได้รับอนุญาตไว้เดิมโดยไม่เป็นการเพิ่มหรือ
ลดจำนวนเตียง ให้ผู้อนุญาตบันทึกการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไว้ในสมุดทะเบียนสถานพยาบาลด้วย
หมวด ๑๐
การแจ้งและจัดทำรายงานเมื่อจะเลิกกิจการสถานพยาบาล
- ข้อ ๓๔ ผู้รับอนุญาตที่ประสงค์จะเลิกกิจการสถานพยาบาล ให้แจ้งเป็นหนังสือ
ตามแบบที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้ผู้อนุญาตทราบ
ล่วงหน้าไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน
ให้สถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืนจัดทำรายงานในการดำเนินการ
ดังต่อไปนี้ เสนอพร้อมหนังสือแจ้งตามวรรคหนึ่ง
- (๑) รายงานยอดผู้ป่วยที่ยังคงค้างอยู่ในสถานพยาบาล และแผนการดำเนินการ
ต่อผู้ป่วยที่ยังคงค้างหลังจากการเลิกกิจการ
- (๒) การประกาศในหนังสือพิมพ์ไม่น้อยกว่าสองฉบับ หรือสื่ออื่น ๆ เป็นเวลา
ไม่น้อยกว่าสามวัน เพื่อให้ผู้ป่วยที่เคยรับการรักษาพยาบาลในระยะเวลาห้าปีก่อนเลิกกิจการได้ทราบ
และมาติดต่อขอรับเวชระเบียน ฟิล์มเอกซเรย์ และอื่น ๆ ภายในกำหนดระยะเวลาไม่เกินสองเดือน
หลังจากวันแจ้งเลิกกิจการสถานพยาบาลนั้น โดยในประกาศดังกล่าวต้องระบุสถานที่ที่จะให้ผู้ป่วย
มาติดต่อขอรับเอกสารดังกล่าวให้ชัดเจนไม่ว่าจะเป็น ณ สถานพยาบาลนั้น หรือสถานที่อื่น
- (๓) การจำหน่ายเวชระเบียน ฟิล์มเอกซเรย์ และอื่น ๆ ที่ไม่มีผู้มาขอรับตาม (๒)
โดยมอบให้สถานพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงซึ่งยินดีจะรับมอบ ถ้าไม่มีสถานพยาบาลใดยินดีรับมอบ
ให้มอบให้แก่สถานพยาบาลของรัฐที่อยู่ในอำเภอหรือเขตพื้นที่นั้น
- ให้ผู้รับอนุญาตส่งคืนใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล ใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล และสมุดทะเบียนสถานพยาบาล มาพร้อมกับหนังสือแจ้งตามวรรคหนึ่งด้วย
บทเฉพาะกาล
- ข้อ ๓๕ ให้สถานพยาบาลทันตกรรม ชั้นสอง และสถานพยาบาลการผดุงครรภ์ ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการได้ตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ อยู่ในวันที่กฎกระทรวงนี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ยังคงประกอบกิจการต่อไปได้จนกว่าผู้ดำเนินการสถานพยาบาลนั้นขอเลิกดำเนินการสถานพยาบาล
- ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๕
(ลงชื่อ) สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
- (นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์)
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
(ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เล่ม ๑๑๙ ตอนที่ ๘๒ ก วันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๔๕)
งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตาม แม่แบบผิดพลาด: โปรดระบุประเภทของงานนี้ (ดูวิธีใช้) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า
- "มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
- (1)ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
- (2)รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
- (3)ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
- (4)คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
- (5)คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"