กฎหมายไทยฯ/เล่ม 1/เรื่อง 10
สำหรับหอรัษฎากรพิพัฒน์
๏ศุภมัศดุ ลุศักราช ๑๒๓๕ กุกุฎสังวัจฉระ เชฐมาศ ชุสณปักษ นวมีดิถี พุฒวาร ปริเฉทกาลกำหนด พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ บดินทรเทพย์มหามงกุฎ บุรุศย์รันราชรวิวงษ วรุตมพงษบริพัฒ วรขัติยราชนิกโรดม จาตุรันตะบรมมหาจักรพรรติราชสังกาศ บรมธรรมิกมหาราชาธิราช บรมนารถบพิตร พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จออกณพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมหัยสวรริยพิมาน โดยสถานอุตราภิมุข พร้อมด้วยพระบรมราชวงษานุวงษแลข้าทูลลอองธุลีพระบาท เฝ้าเบื้องบาทบงกชมาชโดยลำดับ จึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชดำริห์ว่า เงินภาษีอากรซึ่งขึ้นในท้องพระคลังทั้งปวง ซึ่งจะได้เปนกำลังทำนุบำรุงแผ่นดินต่อไปนั้น เจ้าภาษีรับทำอากรไป เงินหลวงก็ค้างสะสมอยู่มาก ต้องเร่งรัตอยู่เสมอไม่ขาด ก็ไม่ใคร่จะได้เงินมาทันใช้ราชการ ที่ต้องขาดสูญไปเสียโดยมาก การค้าขายที่กรุงเทพฯ ก็ไม่มีความเจริญ เพราะจีนซึ่งมารับทำภาษีแล้วเอาเงินไปใช้ในการอื่น ๆ เสียเงินหลวงก็ค้างทับหนักลง ถ้าเร่งนักก็ต้องล้มต้องเลิกกันไป ไม่เปนคุณในแผ่นดิน แลลูกค้าทั้งปวงก็ไม่ตั้งอยู่ได้เพาะไม่มีธรรมเนียมแลเจ้าพนักงานจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยได้ จึ่งมีพระบรมราชโองการมารพระบัณฑูรสุรสิงหนาทดำรัสสั่งเฉภาะสมเด็จพระเจ้าบรมวงษเธอ เจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระบำราบปรปักษ ให้จัดตั้งเปนธรรมเนียมเจ้าพนักงานบาญชีกลางสำหรับจะรวบรวมพระราชทรัพยซึ่งขึ้นในท้องพระคลังทั้งปวงตั้งอยู่ในหอรัษฎากรพิพัฒน์ในพระบรมมหาราชวัง แล้วจึ่งทรงพระกรุณาโปรดให้ตั้งพระราชบัญญัติสำหรับในออฟฟิศ จะได้เปนแบบอย่างแลเปนคุณในแผ่นดินสืบไป ให้เจ้าพนักงานบาญชีกลางแลเจ้าจำนวนเจ้าภาษีนายอากรทั้งปวงประพฤติ์ตามพระราชบัญญัตินี้จงทุกประการ
ข้อ๑ให้เจ้าพนักงานบาญชีกลางคัดบาญชีภาษีอากรบันดาที่ขึ้นอยู่ในหอรัษฎากรพิพัฒน์ไว้สำหรับออฟฟิศฉบับ ๑ ให้เจ้าจำนวนในพระคลังนั้น ๆ มีไว้ฉบับ ๑ ทุกเจ้าจำนวน แล้วให้แบ่งบาญชีเปนสองแผนก คือ เงินที่ค้างเก่ามาจนถึงปีวอก จัตวาศก ฉบับ ๑ ตั้งแต่ปีรกา เบญจศก ซึ่งได้เปลี่ยนธรรมเนียมใหม่นี้ ให้มีบาญชีต่างหากคลละฉบับ สอบสวนให้ถูกต้องกันทั้งบาญชีกลางแลเจ้าจำนวน อย่าให้ผิดเพี้ยนเปนคำเถียงกันได้ ให้เจ้าจำนวนในพระคลังนั้น ๆ มีห้องออฟฟิศของตัวสำหรับเก็บบาญชีแลสำหรับเปนที่ชำระความภาษีที่ตัวได้ว่าอยู่นั้นทุก ๆ พระคลังที่ได้เปนเจ้าจำนวนว่าการภาษี แลเจ้าจำนวนภาษีทุก ๆ พระคลังนี้ให้มานั่งออฟฟิศที่เปนห้องตัวคอยฟังการเสมอจงทุกวันตั้งแต่เวลา ๔ โมงเช้าจนถึงเวลา ๔ โมงเยนจึ่งให้ปิดออฟฟิศกลับไปบ้าน แลการงานสิ่งใดที่เปนการว่ากล่าวเกี่ยวข้องในการภาษีซึ่งตัวได้ว่ากล่าวอยู่นั้น ให้ว่าในออฟฟิศ ห้ามมิให้ไปว่าการภาษีที่บ้านที่เรือนของตัวเปนอันขาด
ข้อ๒จำนวนเงินที่เจ้าภาษีนายอากรรับผูกไปปีหนึ่งเปนเงินมากน้อยเท่าใดนั้น ให้เจ้าพนักงานบาญชีกลางแลเจ้าจำนวนแบ่งออกไปเปน ๑๒ งวด ให้เจ้าภาษีส่งเงินงวดทุกเดือนอย่าให้ขาด ถ้าปีใดมีอธิกมาศ ก็บวกเงินขึ้นในปีนั้นอีกงวดหนึ่งเปน ๑๓ งวดเสมอจงทุกราย ฤๅภาษีสิ่งใดที่เจ้าภาษีเก็บได้เปนคราวเปนระดูที่ไม่เหมือนกับภาษีที่เก็บได้เสมอทุกเดือนนั้น ก็ให้เจ้าพนักงานแลเจ้าจำนวนแบ่งเงินที่เจ้าภาษีรับผูกขาดไปนั้นออกเปน ๑๒ งวดเหมือนกัน แลเจ้าภาษีจะร้องว่าในเดือนนี้ยังเก็บภาษีไม่ได้ไม่มีเงินจะส่งนั้นไม่ได้ เพราะภาษีสิ่งนั้นเจ้าภาษีเหนมีกำไรจึ่งได้รับผูกขาดไปปีหนึ่งเปนเงินเท่านั้น ในเดือนที่ยังเก็บภาษีไม่ได้นั้น เจ้าภาษีต้องส่งเงินของเจ้าภาษีแทนเงินที่จะเก็บภาษีได้ให้ครบปีหนึ่ง ๑๒ งวด ถ้าปีใดเปนอธิกมาศ ก็ให้บวกเงินขึ้นในปีนั้นอิกงวดหนึ่งเปน ๑๓ งวด ถ้าเจ้าภาษีจะร้องว่าเหลือสติกำลังเพราะยังไม่ถึงเดือนที่จะเก็บภาษีได้ จะต้องส่งเงินงวดทุกเดือนนั้นไม่มีเงินจะส่ง ถ้าเจ้าภาษีคนใดร้องดังนี้แล้ว ก็อย่าให้เจ้าพนักงานผู้ที่ว่าภาษีมอบภาษีนั้นให้ผู้นั้นทำ เพราะผู้นั้นเปนคนขัดสน ไม่มีทุนรอน ที่จะให้ผูกภาษีของหลวงไปนั้นไม่ควร
ข้อ๓เมื่อจะว่าภาษีอากรกันนั้น ให้เจ้าพนักงานบาญชีกลางหมายบอกพระยาโชฎีกราชเสรฐี พระยาอินทราธิบดีสีหราชรองเมือง พระเทพผลู ให้ประกาศไปตามเจ้าภาษีที่ได้ทรงพระกรุณาตั้งแต่งไว้ให้รับพระราชทานเบี้ยหวัด แลจีนไทยผู้ซึ่งยังไม่ได้รับพระราชทานเบี้ยหวัด ให้รู้จงทั่วกันว่าจะเปลี่ยนภาษีรายนั้นในวันนั้น แลเจ้าภาษีที่ได้ทรงพระกรุณาชุบเลี้ยงมีชื่อตั้งได้รับพระราชทานเบี้ยหวัดเสมอทุกปีนั้น ถึงตัวจะต้องการทำภาษีสิ่งนั้นก็ดี ฤๅไม่ต้องการทำภาษีสิ่งนั้นก็ดี ถ้ารู้หมายประกาศแล้ว ต้องมานั่งที่ประชุมในวันกำหนดว่าภาษีที่ออฟฟิศเสมอจงทุกครั้งทุกคราวอย่าให้ขาดได้ แลหมายประกาศกำหนดที่จะว่าภาษีนั้นให้กำหนดวันว่าภาษีก่อนน่าวันทำภาษีเดือนหนึ่ง ถ้าว่าภาษีตกลงกันในวันนั้นแล้ว ให้เจ้าพนักงานบาญชีกลางแลเจ้าจำนวนเรียกนายประกันจีนผู้ที่รับทำภาษีนั้นไว้ให้มั่นคง แล้วบังคับให้ส่งเงินล่วงน่าภาษีรายนั้นไว้ให้ครบ ๓ งวดให้เสร็จแต่ใน ๗ วันนับตั้งแต่วันได้ว่ากล่าวตกลงไปอย่าให้เกินกำหนดได้ แล้วให้เขียนหมายประกาศปิดน่าโรงออฟฟิศไว้ด้วยฉบับหนึ่งว่า เดือนนั้นวันนั้นกำหนดจะเปลี่ยนภาษีสิ่งนั้น ถ้าผู้ที่จะรับทำภาษีรู้แล้ว ก็ให้มาตามกำหนด
ข้อ๔การซึ่งจีนไทยผู้ใดจะยื่นเรื่องราวประมูลเงินภาษีสิ่งใดก็ดี ฤๅฟ้องขาดเงินภาษีก็ดี ให้ครบงวดครบปีก่อน จึ่งมายื่นต่อเจ้าพนักงานบาญชีกลางในออฟฟิศ ห้ามมิให้ไปยื่นเรื่องราวกันที่อื่นนอกจากที่ประชุมในออฟฟิศ เจ้าพนักงานรับเรื่องราวจากมือจีนแล้ว ให้นำมาถวายสมเด็จเจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระบำราบปรปักษ ในเวลานั้น
ข้อ๕นายประกันของจีนผู้ที่จะทำภาษี ให้เจ้าพนักงานเลือกดูเหนว่าผู้นั้นภอสมควรจะรับประกันเงินหลวงเท่านั้นได้ แล้วก็ให้ยอมรับให้ประกันโดยี อย่าให้ทำอุบายแกล้งเลือกนายประกันเพราะจะหาผลประโยชน์ให้ได้ความลำบากแก่ตัวเจ้าภาษีเ⟨ห⟩มือนเช่นเปนมาแต่ก่อน แลผู้ซึ่งจะรับเปนประกันนั้น ถ้าเจ้าพนักงานเหนว่า ไม่สมควรจะเลือกเสีย ไม่ยอมให้เปนประกัน ก็ให้เจ้าพนักงานนำความมาทูลสมเด็จเจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระบำราบปรปักษ ให้ทรงทราบก่อน จะได้ทรงปฤกษาเจ้าพนักงานแลเจ้าภาษีที่มีชื่อทั้งปวง ถ้าเหนว่า นายประกันที่เลือกเสียนั้นไม่สมควร ก็จะได้ให้หาประกันเปลี่ยนใหม่ให้สมควรแก่เงินหลวง
ข้อ๖เมื่อถึงวันกำหนดประชุมว่าภาษีกัน เจ้าพนักงานบาญชีกลางรับเรื่องราวของผู้ที่มายื่นทุก ๆ รายถวายสมเด็จเจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระบำราบปรปักษ ทอดพระเนตรแล้ว เรื่องราวที่เปนภาษีรายเดียวกัน เงินในเรื่องราวของผู้ใดมาก ก็ให้เจ้าพนักงานเอาเงินรายนั้นร้องประกาศในที่ประชุมว่า ภาษีรายนั้น เงินเดิมเท่านั้น จีนคนนั้นประมูลขึ้นอิกเท่านั้น เจ้าภาษีคนเก่าฤๅผู้หนึ่งผู้ใดจะประมูลเงินขึ้นอิก ก็ให้ว่ามาในที่ประชุมนี้ ถ้าเจ้าภาษีคนเก่าฤๅผู้หนึ่งผู้ใดร้องประมูลเงินมากกว่าผู้ซึ่งประมูลเดิมตั้งแต่สิบชั่งขึ้นไป ก็ให้เจ้าพนักงานผู้ที่ร้องประกาศนั้นยึดเอาคำผู้ที่ประมูลเงินขึ้นใหม่นั้นร้องประกาศต่อไป ถ้ามีผู้ประมูลเงินขึ้นอิก ก็ให้เจ้าพนักงานรับเอาคำผู้ที่ประมูลเงินขึ้นอิกนั้นร้องประกาศต่อไป ถ้าเจ้าพนักงานร้องประกาศถามคนทั้งปวงถึง ๓ ครั้ง ๔ ครั้งแล้วไม่มีผู้ใดประมูลเงินขึ้นอิก ก็ให้ภาษีรายนั้นตกอยู่กับผู้ที่ประมูลเงินขึ้นมากนั้นทำภาษีทูลเกล้าฯ ถวายต่อไป
ข้อ๗เจ้าพนักงานจะร้องประกาศภาษีพวกจีนเจ้าภาษีที่จะเข้ามานั่งในที่ประชุมรับประมูลภาษีนั้น อย่าให้เจ้าจำนวนในภาษีที่จะว่ารายนั้นเกียดกันว่าพวกนี้พวกนั้น ลางทีภาษีรายนั้นเจ้าจำนวนอยากจะให้แก่ผู้นั้นได้รับทำต่อไป ถึงจะมีผู้มาคอยขึ้นประมูลเงิน เจ้าจำนวนก็จะฃอร้องพูดเปนการลับเสียว่า ภาษีรายนั้นอยากจะให้พวกพ้องของตัวทำ ผู้ซึ่งจะมาว่าประมูลเงินนั้นฃองดไว้ก่อน อย่าเพ่อว่ากล่าวประมูลเงินขึ้น แลผู้ซึ่งจะมาประมูลเงินนั้น ถ้าเจ้าจำนวนว่าดังนั้นแล้ว ก็ต้องมีความเกรงกลัวลดหย่อนให้พวกของเจ้าจำนวน ก็ได้รับภาษีนั้นไปทำโดยง่าย ไม่ต้องประมูลเงินขึ้นให้มาก เงินพระราชทรัพย์ของแผ่นดินจึ่งได้ตกน้อยถอยไป แต่เจ้าจำนวนนั้นมีผลประโยชน์ ห้ามมิให้เปนการดังนี้ได้ต่อไป ถ้าเจ้าจำนวนใดจำนวนหนึ่งกระทำดังที่ว่ามานี้ จะทำโทษเสมอผู้ที่ล่วงพระราชบัญญัติ แลเมื่อจีนเจ้าภาษีทั้งปวงจะมาประชุมว่าภาษีในออฟฟิศนั้น ให้เจ้าพนักงานแลเจ้าจำนวนกับเจ้าภาษีที่มีชื่อตั้งตรวจน่าจีนมีชื่อที่จะรับทำภาษีได้นั้นโดยความซื่อสุจริต อย่าให้ถือว่าพวกนี้พวกนั้น ถ้าเหนสมควรว่าเปนคนมีทุนรอนมั่นคงดีแล้ว จึ่งให้เข้ามานั่งในที่ประชุม ถ้าเปนจีนไม่มีทุนรอน ก็อย่าให้เข้ามาในที่ประชุมนั้น ถ้าภาษีว่ากล่าวตกลงกันแล้ว ให้เจ้าพนักงานจดหมายถ้อยคำของผู้นั้นไว้ให้มั่นคง แล้วให้ผู้นั้นลงชื่อประทับตราไว้เปนสำคัญด้วย แล้วให้เจ้าพนักงานคิดรวมเงินเดิมแลเงินประมูลเงินขึ้นใหม่แบ่งออกเปน ๑๒ งวด ให้ผู้ที่จะรับทำภาษีต่อไปนั้นส่งเงินล่วงน่าไว้ ๓ งวด แล้วให้เรียกประกันไว้ให้ภอสมควรแก่เงินหลวง
ข้อ๘ตั้งแต่วันได้ว่าภาษีตกลงกัน ๗ วัน ให้เจ้าภาษีคนใหม่ได้รับตราตั้งแลตรานำเมืองนั้นให้เสร็จ แลตราตั้งเจ้าภาษีแลตรานำเมืองนั้น ให้เจ้าภาษีมารับต่อเจ้าพนักงานที่ออฟฟิศ แลเงินค่าตราค่าเผาค่าฎีกาซึ่งพนักงานเคยได้มาแต่ก่อนนั้น ให้เจ้าพนักงานในออฟฟิศเรียกไว้แต่เจ้าภาษีที่รับตราตั้งรวมไว้ให้พร้อมทั้งค่าเผาค่าฎีกาในวันที่เจ้าภาษีมารับตราตั้ง แลเงินค่าตราค่าเผาค่าฎีกาที่เจ้าพนักงานในออฟฟิศเรียกรวบรวมไว้นั้น ภายหลังจึ่งจะทรงพระกรุณาพระราชทานแบ่งปันให้ ห้ามมิให้เจ้าพนักงานผู้หนึ่งผู้ใดเบียดเบียนเรียกเงินค่าสิ่งหนึ่งสิ่งใดต่อเจ้าภาษีเปนอันขาด
ข้อ๙เจ้าภาษีที่ได้รับตราตั้งไปแล้ว ให้เจ้าพนักงานบาญชีกลางแลเจ้าจำนวนกำหนดวันคืนไว้ให้มั่นคง เมื่อถึงงวดเดือน เจ้าภาษีไม่เอาเงินมาส่งตามพิกัตท้องตรา ก็ให้เจ้าจำนวนเร่งรัดให้เจ้าภาษีเอาเงินมาส่งให้จงได้ ถ้าพ้นกำหนดงวดเดือนไป ๗ วัน เจ้าภาษีไม่ส่งเงินงวดตามพิกัตท้องตรา ให้เจ้าพนักงานบาญชีกลางหักเงินที่เจ้าภาษีส่งล่วงน่าไว้ ๓ เดือนนั้นเสียเดือนหนึ่ง ยังคงเงินที่ได้ส่งล่วงหน้าไว้อิก ๒ เดือน ถ้าถึงกำหนดงวดเดือน เจ้าภาษีไม่ส่งเงินอิกเปนสองงวด ให้เจ้าพนักงานบาญชีกลางหักเงินล่วงน่าที่ยังเหลืออยู่อิก ๒ เดือนนั้นส่งพระคลังมหาสมบัติเสียอิกเดือนหนึ่ง แล้วให้เจ้าพนักงานบาญชีกลางออกประกาศกำหนดวันประชุมเปลี่ยนภาษีรายนั้นในวันขึ้นค่ำหนึ่งเดือนที่สาม ในเดือนที่สามที่จะเปลี่ยนเจ้าภาษีใหม่นั้น ให้เจ้าพนักงานบาญชีกลางแลเจ้าจำนวนเกาะตัวเจ้าภาษีคนเก่าไว้กว่าจะครบเดือนถึงกำหนดเจ้าภาษีคนใหม่รับทำต่อไป ถ้าครบเดือนถึงกำหนดเจ้าภาษีคนใหม่รับทำต่อไปแล้ว ก็ให้หักเงินเจ้าภาษีคนเก่าที่ส่งล่วงน่าไว้ยังเหลืออยู่เดือนหนึ่งนั้นส่งพระคลังมหาสมบัติ หมดจำนวนเงินเจ้าภาษีคนเก่าได้ส่งล่วงน่าไว้ ๓ งวดแล้ว ให้ปล่อยเจ้าภาษีคนเก่า ให้ใหม่รับทำภาษีนั้นต่อไป ถ้าภาษีรายใดเจ้าภาษีไม่ส่งเงินงวดตามพิกัตท้องตราเหมือนดังว่ามาแล้วนั้น ถ้าเงินนั้นขาดไปไม่ได้ส่งถึงสองงวดในเดือนใด ไม่กำหนดว่าต้นปีกลางปีฤๅปลายปี ถ้าขาดลงสองงวดไม่ได้ส่งแล้ว เจ้าพนักงานต้องประชุมเปลี่ยนเจ้าภาษีใหม่ในวันขึ้นค่ำหนึ่งเดือนที่สามที่ให้เสร็จจงทุกราย ในวันขึ้นค่ำหนึ่งเดือนที่สามที่จะต้องประชุมเปลี่ยนเจ้าภาษีนั้น ถ้าเจ้าภาษีมีเงินมาส่วนเงินที่ค้างสองงวดนั้นทันในวันนั้น ก็ให้งดการที่จะว่าเปลี่ยนเจ้าภาษีนั้นไว้ก่อน ให้เจ้าภาษีที่ได้ทำมาแล้วนั้นรับทำต่อไป ถ้าภาษีรายใดครบจำนวนแล้วไม่มีผู้ใดยื่นเรื่องราวประมูลเงินขึ้น เจ้าภาษีร้องว่าขาดทุนจะรับทำได้แต่ปีละเท่านั้น ให้เจ้าพนักงานรับเรื่องราวนำกราบทูลสมเด็จเจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระบำราบปรปักษ์ ทรงทราบแล้ว ให้เจ้าพนักงานหมายประกาศนัดวันประชุมว่าการภาษีตามที่ได้กำหนดไว้ ถ้าถึงวันประชุมพร้อมกันแล้ว ให้เจ้าพนักงานคัดเรื่องราวของผู้ที่ร้องขาดนั้นร้องประกาศในที่ประชุมว่า ภาษีรายนั้นเงินเดิมผู้นั้นรับผูกไปทำเท่านั้น บัดนี้ผู้นั้นทำเรื่องราวร้องว่าขาดทุนทำไม่ได้ จะฃอรับทำแต่เพียงปีละเท่านั้น ถ้าผู้ใดจะขึ้นให้สูงกว่าผู้ที่ร้องขาดแล้ว จะให้ผู้นั้นรับทำภาษีนั้นต่อไป ถ้ามีผู้หนึ่งผู้ใดประมูลเงินขึ้นมากกว่าผู้ที่ร้องขาดมาก ก็ให้ภาษีนั้นเปนของผู้ที่ประมูลเงินมากรับทำต่อไป ถ้าเจ้าพนักงานร้องประกาศถึง ๓ ครั้ง ๔ ครั้งแล้ว ไม่มีผู้ประมูลเงินขึ้นอิกให้สูงกว่าเจ้าภาษีผู้ที่ร้องขาด ก็ให้ภาษีนั้นตกอยู่กับเจ้าภาษีคนเก่าที่ร้องได้ทำภาษีนั้นต่อไป แต่ให้ลดเงินให้ตามในเรื่องราวร้องขาดของเจ้าภาษีผู้นั้น
ข้อ๑๐ภาษีสิ่งไรที่เปนภาษีเก็บได้มากในระหว่าง ๒ เดือน ๓ เดือนข้างต้นปี ต่อไปกลางปีปลายเก็บไม่ได้เลยทุก ๆ เดือนก็ดี ฤๅภาษีที่เก็บได้แต่ในกลางฤๅปลายปีก็ดีก เจ้าภาษีเก็บภาษีได้ในเดือนที่เปนเดือนที่เสร็จแล้วจะทิ้งภาษีนั้นเสีย เพราะได้เก็บภาษีในเดือนที่ดีนั้นได้เงินไว้มากกว่าเงินที่ได้ส่งล่วงน่าไว้ ๓ งวดนั้นหลายเท่า แล้วเจ้าภาษีจะทิ้งนั้นเสีย ไม่ส่งเงินงวดรายเดือนต่อไป ปล่อยให้เจ้าพนักงานหาเจ้าภาษีเปลี่ยนใหม่ ผู้ซึ่งจะมารับทำภาษีใหม่ก็จะร้องว่า ภาษีรายนี้เก็บได้จำเภาะแต่ในเดือนนั้น ๆ บัดนี้ล่วงเดือนมาแล้ว เจ้าภาษีคนเก่าได้เก็บเงินภาษีรายนี้ต่อราษฎรเสร็จแล้ว แลในเดือนที่จะต่อไปจนตลอดปีนั้นไม่มีสิ่งของที่จะเก็บภาษีได้ เพราะสิ้นระดูขาดคราวแล้ว เจ้าภาษีคนเก่าจึ่งได้ทิ้งภาษีนี้เสีย ถ้าการเปนดังนี้ ให้เจ้าพนักงานบาญชีกลางแลเจ้าจำนวนปฤกษาแต่บันดาเจ้าภาษีที่เปนพระหลวงมีชื่อว่า ภาษีรายนี้ตั้งแต่เดือนนี้ไปจนถึงเดือนที่ครบจำนวนปี ถ้ามีผู้จะรับผูกต่อไป จะควรกะเงินหลวงให้ผูกไปสักเท่าใด ให้พระหลวงเจ้าภาษีทั้งปวงว่ามาให้พร้อมกันตามที่เหนสมควรในเวลานั้น ถ้าพระหลวงเจ้าภาษีเหนพร้อมกันว่า ภาษีรายนั้นยังอยู่อีกเท่านั้นเดือนจะสิ้นปีแล้ว ก็เปนเดือนที่จะเก็บภาษีได้น้อยด้วย ควรที่จะให้ผูกไปเปนเงินแต่เพียงเท่านั้น เหนว่าพอสมควร ถ้าพระหลวงเจ้าภาษีกะลงเหนว่าเปนเงินเพียงเท่านั้นแล้ว เปนต้นว่า พระหลวงเจ้าภาษีกะเงินเพียงร้อยชั่งที่จะทำได้ต่อไปจนตลอดครบจำนวนปี ก็ให้เจ้าพนักงานร้องประกาศลดเงินเสียสิบชั่ง ให้ร้องประกาศแต่เก้าสิบชั่ง ถ้ามีผู้ประมูลเงินขึ้นอิก ๑๐ ชั่ง ก็ให้เจ้าพนักงานร้องประกาศต่อไปว่า ผู้นั้นประมูลเงินขึ้นอิกสิบชั่งเปนร้อยชั่ง ถ้าจะมีผู้ใดประมูลเงินขึ้นอิกต่อไป ก็ให้เจ้าพนักงานรับเงินรายที่ผู้ประมูลนั้นร้องต่อไปจนไม่มีผู้ใดประมูลแล้ว จึ่งให้ภาษีรายนั้นตกอยู่กับผู้ที่ประมูลเงินสูงกว่าคนทั้งปวงรับทำต่อไปจนตลอดปี แลเงินในจำนวนปีที่เจ้าภาษีคนเก่ารับผูกขาดไปนั้นยังขาดจำนวนมากน้อยเท่าใด ให้เจ้าพนักงานเร่งเอาแต่เจ้าภาษีคนเก่า ถ้าแลพระหลวงเจ้าภาษีกะเงินลงแล้ว เจ้าพนักงานร้องประกาศถามคนทั้งปวง ไม่มีผู้ใดรับประมูลเงินขึ้นเลยแต่สักคนหนึ่ง ฤๅมีผู้รับประมูลเงินขึ้นตามที่ว่ามาแล้วนั้นก็ดี แลเงินหลวงที่ขาดจำนวนอยู่ในปีนั้นนั้นมากน้อยเท่าใด ให้เจ้าพนักงานเอาตัวเจ้าภาษีคนเก่าจำตรวนเร่งเงินซึ่งขาดจำนวนในปีนั้นให้จงครบตามจำนวนเงินมากแลน้อย ถ้าเจ้าภาษีคนเก่าจะไม่มีเงินให้ ก็ให้เจ้าพนักงานเก็บริบเอาบุตรภรรยาข้าทาษที่บ้านเรือนเรือแพสวนไร่นาแลทรัพย์สิ่งของสวิญญาณะกะทรัพย์อวิญญาณะกะทรัพย์มาเปนของหลวงให้สิ้นเชิง แล้วเอาตัวเจ้าภาษีจำคุกไว้ ๓ ปีจึ่งพ้นโทษ เพราะจีนเจ้าภาษีคนนั้นเก็บเงินภาษีได้แล้วไม่ส่งหลวง คิดฉ้อพระราชทรัพย์ของหลวง ไม่ซื่อตรงต่อแผ่นดิน ภาษีรายนี้เมื่อถึงกำหนดขึ้นปีใหม่ จึ่งให้เจ้าพนักงานบาญชีกลางแลเจ้าจำนวนนัดวันประชุมว่าประมูลภาษีรายนี้ใหม่ต่อไป
ข้อ๑๑ถ้าเจ้าภาษีส่งเงินงวดเดือนเสมอทุกเดือนมิได้ขาดตามพิกัตท้องตราแล้ว ถ้าเจ้าภาษีส่งเงินเสมออยู่ทุกเดือนถึง ๙ เดือนแล้ว เดือนที่ ๑๐ ที่ ๑๑ ที่ ๑๒ อย่าให้เจ้าภาษีต้องส่งเงินจำนวนเดือนอิก ให้เจ้าพนักงานบาญชีกลางหักเงินล่วงน่า ๓ เดือนที่เจ้าภาษีส่งไว้นั้นส่งขึ้นพระคลังมหาสมบัติแทนงวดเดือนที่ ๑๐ เดือนหนึ่ง ที่ ๑๑ เดือนหนึ่ง ที่ ๑๒ เดือนหนึ่ง ครบจำนวนปีหนึ่ง ๑๒ เดือน ถ้าขึ้นปีใหม่ไม่มีผู้ใดประมูลเงินภาษีนั้นขึ้นอิก เจ้าภาษีคนเก่าได้รับทำต่อไป ก็ให้เจ้าพนักงานเรียกเงินงวดล่วงน่าต่อเจ้าภาษีคนเก่าไว้ให้ครบ ๓ งวดตามเดิม แล้วก็ให้เจ้าภาษีคนเก่ารับทำในจำนวนปีใหม่ต่อไป แต่อย่าให้เจ้าภาษีต้องเสียเงินค่าตราตั้งตรานำอิกซ้ำหนึ่ง
ข้อ๑๒เงินงวดเดือนซึ่งเจ้าภาษีส่งทุกเดือนนั้น ถึงกำหนดเดือนให้เจ้าจำนวนนำเจ้าภาษีมาส่งยังเจ้าพนักงานในออฟฟิศ ให้เจ้าพนักงานในออฟฟิศนำไปส่งยังพระคลังมหาสมบัติให้เสมอจงทุกครั้ง ห้ามมิให้เจ้าจำนวนแลเจ้าภาษีไปส่งเงินที่อื่นนอกจากออฟฟิศเปนอันขาด แต่เงินที่เจ้าภาษีส่งล่วงน่าไว้ ๓ เดือนทุกเดือนทุก ๆ ภาษีนั้น ให้เจ้าพนักงานบาญชีกลางเก็บรักษาไว้ที่ออฟฟิศ ถ้าเงินภาษีรายใดขาดไม่ส่งตามงวดเดือน จะได้เอาเงินล่วงน่าภาษีรายนั้นที่ส่งไว้ไปส่งยังเจ้าพนักงานพระคลังมหาสมบัติ อนึ่ง ภาษีอากรทั้งปวงซึ่งเจ้าภาษีนายอากรได้รับทำไปใหม่ตั้งแต่ออกพระราชบัญญัตินี้แล้วนั้น ให้ส่งตัวเงินทุกงวดทุกเดือนตามพระราชบัญญัติ ห้ามมิให้ส่งสิ่งของสิ่งไรสิ่งหนึ่งเปนอันขาด ฤๅเจ้าภาษีได้ส่งของไว้ในพระคลังต่าง ๆ แต่เดิมแล้ว จะมาฃอหักเงินงวดภาษีซึ่งทำไปใหม่นี้ ห้ามอย่าให้เจ้าพนักงานหักให้เปนอันขาด อนึ่ง ภาษีที่จะต้องจ่ายราชการ เหมือนหนึ่งภาษีน้ำมันเปนต้น ให้เจ้าภาษีส่งตัวเงินทุกงวด แล้วจึ่งให้ทำฎีกามาเบิกเอาตัวเงินในคลัง จะจ่ายให้ทุกเดือนไม่ให้ขัดข้อง
ข้อ๑๓ให้เจ้าพนักงานแลเจ้าจำนวนบังคับเจ้าภาษีนายอากรแทนเงินซึ่งได้รับทำภาษีไปนั้นให้เจ้าภาษีทำบาญชีรายชื่อผู้ซึ่งรับช่วงภาษีไปนั้นให้ไว้ต่อเจ้าจำนวนทุกภาษีว่าตำบลนั้นเจ้าภาษีได้แต่งให้ผู้นั้นไปเก็บให้เจ้าจำนวนรู้ไว้ด้วยจงทุกตำบลเจ้าภาษี ได้รับภาษีไปครบเดือนหนึ่งแล้ว จะให้ผู้ใดผูกช่วงไปเก็บภาษีในแขวงกรุงเทพฯ ก็ดี หัวเมืองก็ดี กำหนดให้เจ้าภาษีใหญ่ยืนบาญชีรายผูกช่วงต่อเจ้าจำนวนให้เสร็จในกำหนดเดือนหนึ่ง แล้วให้เจ้าจำนวนหมายประกาศให้ผู้ที่รับช่วงผูกภาษีไปนั้นให้รู้จงทั่วกันว่า เจ้าภาษีใหญ่รับผูกขาดภาษีสิ่งนี้มาต่อเจ้าพนักงานปีหนึ่งเปนเงินเท่านั้น เจ้าภาษีใหญ่ต้องส่งเงินหลวงเดือนละเท่านั้นเสมอทุกเดือน ปีหนึ่ง ๑๒ เดือนเปนเงินเท่านั้น ผู้ที่ได้รับช่วงตัดตอนมาจากเจ้าภาษีใหญ่มาเก็บภาษีนี้ ถ้าจะส่งเงินต่อเจ้าภาษีใหญ่ ก็ให้แบ่งเงินของตัวที่ได้รับช่วงตัดตอนมาจากเจ้าภาษีใหญ่นั้นออกเปน ๑๒ งวดให้เหมือนเจ้าภาษีใหญ่ได้ส่งต่อเจ้าพนักงานในออฟฟิศหลวงเสมอจงทุกเดือน ถ้าเจ้าภาษีใหญ่จะเรียกเงินล่วงน่า ก็ให้ผู้ที่ผูกช่วงให้เงินล่วงน่าต่อเจ้าภาษีใหญ่เพียง ๓ เดือน แล้วบอกแก่เจ้าจำนวนให้รู้ไว้เปนพยาน ถ้าเจ้าภาษีใหญ่จะทิ้งภาษีเสีย ไม่ส่งเงินหลวงในระหว่าง ๓ เดือน ๔ เดือน มีเจ้าภาษีคนใหม่รับทำต่อไปแล้ว เจ้าภาษีคนใหม่จะเรียกเอาเงินภาษีกับผู้ที่รับช่วงตัดตอนไปจากเจ้าภาษีคนเก่าในระหว่างที่เปนเดือนของเจ้าภาษีคนใหม่รับทำนั้น ลูกช่วงจะร้องว่า เจ้าภาษีคนเก่าได้เรียกเงินล่วงน่าไปเท่านั้นเดือนแล้ว เจ้าพนักงานแลเจ้าจำนวนก็จะต้องหาตัวเจ้าภาษีคนเก่าเวลามาชำระเปนความลำบากยืดยาวเสียเวลามาก จึ่งได้ประกาศให้ผู้ที่รับช่วงตัดตอนภาษีมาจากเจ้าภาษีใหญ่ให้รู้ทั่วกันไว้ดังนี้ ถึงจะเปลี่ยนเจ้าภาษีใหญ่ในเดือนไร ๆ ก็จะไม่ได้เปนการลำบาก เพราะตัวได้ส่งเงินไว้เปนงวดเดือนทุก ๆ เดือน เมื่อเปลี่ยนเจ้าภาษีใหญ่เดือนไร ก็จะได้ส่งเงินต่อเจ้าภาษีคนใหม่ ๆ ตามจำนวนเดือนให้ครบปีตามที่ได้ผูกไปต่อเจ้าภาษีคนเก่านั้น ถ้าผู้ที่รับผูกช่วงภาษีช่วงภาษีให้เงินต่อเจ้าภาษีใหญ่ล่วงน่าไปหลายเดือน ถึงเวลาที่จะต้องการเปลี่ยนเจ้าภาษีใหญ่แล้ว จะร้องว่าได้ส่งเงินให้เจ้าภาษีใหญ่ไปเท่านั้นเดือนแล้วนั้นไม่ได้ ถ้าเจ้าพนักงานและเจ้าจำนวนจะให้ตราตั้งให้เจ้าภาษีใหญ่ไปเก็บภาษี ก็ให้มีข้อบังคับในพิกัตท้องตราว่า ถ้าเจ้าภาษีใหญ่จะตัดตอนให้ให้ผู้รับมีผู้รับช่วงไปเรียกภาษีตำบลไรเปนเงินมากน้อยเท่าไร ก็ให้เจ้าภาษีใหญ่คิดกะเงินแบ่งออกเปน ๑๒ งวดเหมือนให้ผู้รับช่วงส่งเช่นงวดเหมือนอย่างเจ้าภาษีใหญ่ส่งเงินต่อเจ้าพนักงาน ห้ามอย่าให้เจ้าภาษีใหญ่เรียกเงินล่วงน่าต่อผู้รับช่วงให้เสร็จฤๅครึ่งหนึ่งเปนอันขาด
ข้อ๑๔ให้เจ้าพนักงานบาญชีกลางทำบาญชีรายเดือนทุก ๆ เดือนว่า เงินภาษีอากรรายนั้นผู้นั้นรับทำตั้งแต่วันนั้นถึงวันขึ้นค่ำหนึ่งเดือนนั้นเปนงวดทีหนึ่ง เจ้าภาษีได้ส่งเงินภาษีรายนั้นงวดที่หนึ่งเปนเงินเท่านั้นทุก ๆ ภาษี ถ้าภาษีรายใดไม่ได้ส่งเงินงวดตามพิกัตท้องตรา ก็ให้ตั้งบาญชีว่า ภาษีรายนั้นไม่ได้ส่งเงินงวดในเดือนนั้น เจ้าพนักงานต้องหักเงินล่วงน่าภาษีรายนั้นส่งพระคลังมหาสมบัติงวดหนึ่งในจำนวนเดือนนั้น ให้เจ้าพนักงานคัดบาญชีนำขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาแล้วให้มีไว้สำหรับในออฟฟิศด้วยฉบับหนึ่งเสมอจงทุกเดือนในเวลาที่ได้ตั้งเจ้าภาษีนายอากรไปเสร็จสิ้นทุกรายในจำนวนปีนั้น แล้วให้เจ้าพนักงานบาญชีกลางเก็บบาญชีเงินภาษีอากรซึ่งได้ตั้งให้ผูกไปแล้วนั้นทุก ๆ ราย คิดรวมเงินที่จะได้ส่งในพระคลังมหาสมบัติในปีนั้นเปนเงินมากน้อยเท่าใด แล้วให้คิดตามงวดเดือนซึ่แบ่งไว้ว่า เงินภาษีทุกรายจะได้ส่งพระคลังมหาสมบัติเดือนละมากน้อยเท่าไร แล้วให้คิดบาญชีนำขึ้นกราบบังโคมทูลพระกรุณาฉบับหนึ่ง แลให้เจ้าจำนวนที่ได้บังคับภาษีทุก ๆ รายทำบาญชีรวมจำนวนเงินในภาษีของตัวที่ได้ว่ากล่าวอยู่นั้นให้ถูกกับบาญชีเจ้าพนักงานกลางจงทุกเจ้าจำนวน ให้เจ้าพนักงานบาญชีกลางรวมบาญชีเงินภาษีอากรทั้งหมดให้รู้ชัดว่า ปีหนึ่งจะได้เงินขึ้นในพระคลังมหาสมบัติจะเปนเงินมากน้อยเท่าใด ให้เสมอจงทุกอย่าให้คลาศเคลื่อนได้
ข้อ๑๕เจ้าจำนวนผู้ซึ่งได้ว่าภาษีอากรทุก ๆ รายให้ระวังรักษาภาษีอากรซึ่งตัวได้ว่าอยู่นั้นจงดี ถ้าเจ้าภายจะมีถ้อยความเกี่ยวข้องสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เปนธุระของเจ้าจำนวนแล้ว ให้เจ้าจำนวนว่ากล่าวตัดรอนให้แล้วโดยเร็ว อย่าให้เจ้าจำนวนทำหน่วงเหนี่ยวชักช้าหาประโยชน์ทำให้เจ้าภาษีได้ความเดือดร้อนเพราะเจ้าจำนวนเบียดเบียนแต่สิ่งหนึ่งสิ่งใดได้เปนอันขาด ถ้าเจ้าภาษีจะมีถ้อยความเกี่ยวข้องในการภาษีรายนั้น ถ้าเปนความเกินอำนาจที่เจ้าจำนวนจะว่ากล่าวเปรียบเทียบได้ ก็ให้เจ้าจำนวนนำความมากราบทูลต่อสมเด็จเจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระบำราบปรปักษ์ จะได้ทรงตัดสินให้ ถ้าเปนความใหญ่ควรจะกราบบังคมทูลพระกรุณา สมเด็จเจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระบำราบปรปักษ์ จะได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาให้ทรงทราบฝ่าลออง จะได้ทรงตัดสินให้ไว้เปนแบบฉบับสำหรับออฟฟิศต่อไป อย่าให้เจ้าจำนวนละเลยเพิกเฉยในกิจธุระของเจ้าภาษีซึ่งขึ้นอยู่ในจำนวนของตัว ให้ระวังเอาใจใส่ในการที่จะรักษาภาษีให้จงมาก ถ้าถึงเดือนที่เจ้าภาษีจะต้องส่งเงินงวด ก็ให้เจ้าจำนวนคอยระวังตักเตือนเร่งรัตอย่าให้เงินงวดภาษีขาดค้างข้ามเดือนไปได้ ถ้าภาษีอากรรายใดไม่ได้ส่งเงินงวดตามพิกัตท้องตราถึง ๒ เดือน ต้องเปลี่ยนเจ้าภาษีคนนั้น มีภาษีคนใหม่เข้ารับทำภาษีอากรรายนั้นแล้ว เจ้าภาษีคนใหม่กับเจ้าภาษีคนเก่าจะเกี่ยวข้องกันด้วยลูกช่วงที่เจ้าภาษีคนเก่าให้ผูกตัดตอนไปเก็บภาษีทุกตำบลนั้น ก็ให้เจ้าจำนวนดูตามบาญชีของผู้ที่ได้รับช่วงตัดตอนไปเก็บภาษีนั้นที่ได้ยื่นบาญชีส่งเงินแก่เจ้าภาษีใหญ่ไว้ต่อเจ้าจำนวน ถ้าเงินรายเดือนของลูกช่วงที่รับผูกไปได้ส่งไว้ต่อเจ้าภาษีคนเก่าเปนเดือนที่เจ้าภาษีคนเก่าจะต้องออกจริง ก็ให้เจ้าจำนวนเร่งเงินที่ลูกช่วงได้ส่งไว้ต่อเจ้าภาษีคนเก่าที่เกินเดือนให้เจ้าภาษีคนใหม่ให้ครบตามจำนวนเดือนที่เกินซึ่งเจ้าภาษีคนเก่าได้เรียกไว้ แลลูกช่วงที่ได้ผูกไปต่อเข้าภาษีคนเก่าแล้วนั้นก็ให้เจ้าภาษีคนใหม่รับเปนลูกช่วงของตัวต่อไป เมื่อสิ้นจำนวนปีนั้นแล้ว เจ้าภาษีได้ทำภาษีรายนี้อิกต่อไปลูกช่วงของเจ้าภาษีคนเท่านั้น เจ้าภาษีคนใหม่จะให้รับผูกต่อไปก็ตามฤๅจะผลัดเปลี่ยนเสียก็ตามแต่ใจของเจ้าภาษีคนใหม่ แต่ในระหว่างที่เจ้าภาษีคนใหม่รับเปลี่ยนภาษีมานั้นเปนกลางงวดกลางปีเปลี่ยนเจ้าภาษีแล้ว จะเปลี่ยนลูกช่วงของเจ้าภาษีคนเก่าให้หมด ก็จะเปนการลำบากมากไป เพราะเจ้าภาษีใหญ่ได้รับภาษีกันในกลางงวดกลางปี ข้อความเหล่านี้เปนธุระของเจ้าจำนวนจะต้องเปนผู้เปรียบเทียบตัดสิน ให้เจ้าจำนวนดูกฎหมายสำหรับออฟฟิศนี้ให้ถี่ถ้วน แล้วให้ชำระเปรียบเทียบตัดสินให้แล้วแก่กันโดยเร็ว อย่าให้เนิ่นช้าได้ ถ้าเจ้าจำนวนใดละเลยเพิกเฉยไม่เอาธุระถ้อยความเกี่ยวข้องในการภาษีของตัวซึ่งได้ว่ากล่าวอยู่นั้นโดยยุติธรรม แลพูดจาเปนอุบายถ่ายเทหมายจะหาผลหาประโยชน์ในการซึ่งไม่เปนยาธรรมนั้น ถ้าเจ้าภาษีร้องฟ้องว่ากล่าวว่าเจ้าจำนวนไม่เอาธุระแลแลตัดสินความไม่เปนยุติธรรม หมายแต่จะเบียดเบียนหาผลประโยชน์ฝ่ายเดียว ถ้าชำระได้ความจริงดังนั้นแล้ว จะให้ถอดเจ้าจำนวนผู้นั้นออกเสียจากที่เจ้าจำนวน แล้วจะลงพระราชอาญาตามโทษานุโทษผู้ซึ่งล่วงพระราชบัญญัติ จะได้เปนแบบอย่างแก่ข้าราชการผู้ซึ่งจะทำราชการฉลองพระเดชพระคุณในแผ่นดินต่อไปภายน่า
ข้อ๑๖แลการภาษีอากรทุกอย่างซึ่งสมเด็จเจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระบำราบปรปักษ์ รับพระบรมราชโองการเปนผู้จัดการรวบรวมจำนวนเงินภาษีทุกอย่าง ให้รู้จำนวนเงินซึ่งได้ขึ้นในพระคลังมหาสมบัติทุกเดือนทุกปีเปนเงินมากน้อยเท่าใดนั้น ก็เพราะมีพระราชประสงค์ที่จะได้ทรงจัดการบ้านเมืองให้มีความเจริญยิ่งขึ้นไป แลเงินที่จะจำหน่ายใช้ราชการในแผ่นดินนั้นก็จะได้รู้กำหนดมากแลน้อย แลเงินภาษีอากรซึ่งเก็บรวบรวมเข้าได้ดังนี้ก็เปนประโยชน์แก่แผ่นดินบ้านเมือง มิได้เปนประโยชน์แก่ท่านผู้ใด เจ้าพนักงานผู้ใหญ่ผู้น้อยในบาญชีกลางก็ดี แลผู้ซึ่งเปนเจ้าจำนวนได้ว่าภาษีทุกอย่างนั้นก็ดี ฤๅข้าราชการซึ่งได้รับราชการในการภาษีอากรทำราชการอยู่ในออฟฟิศบาญชีกลางนี้ จงตั้งในประพฤดิ์ตามพระราชบัญญัติแลกฎหมายที่มีอยู่แล้วแลจะมีต่อไปเบื้องน่าจงทุกข้อทุกประการ พระราชบัญญัติแลกฎหมายสำหรับการออฟฟิศนี้เปนการตัดผลตัดประโยชน์ของเจ้าพนักงานทั้งปวง ถ้าเจ้าพนักงานทั้งปวงจะประพฤดิ์ตามพระราชบัญญัติแลกฎหมายนี้ ผลประโยชน์เหมือนอย่างเช่นแต่ก่อนซึ่งเคยได้เปนอาณาประโยชน์ของตนนั้นก็จะขาดสูญไป การอันนี้ก็ได้ทรงทราบใต้ฝ่าลอองทุกประการแล้ว แลข้าราชการซึ่งได้รับราชการอยู่ในออฟฟิศนี้จะทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานเงินเดือนเงินปีให้ภอสมกับการที่ตนได้รับราชการนั้นจงทุกนาย แต่อย่าให้คิดหาประโยชน์ให้เกินกว่าราชการของตนที่ได้ทำนั้น ให้อุส่าห์ประพฤดิ์ตามพระราชบัญญัติแลกฎหมายที่มีอยู่แล้วแลที่จะมีต่อไปภายน่าจงทุกประการ ๚ะ