กฎหมายไทยฯ/เล่ม 1/เรื่อง 14
ให้บอกศักราชให้ถูกต้อง
๏มีพระบรมราชโองการมารพระบัณฑูรสุรสิงหนาทดำรัสเหนือเกล้าฯ สั่งว่า ให้ประกาศแก่พระราชาคณะผู้ใหญ่ผู้น้อยทั้งปวงว่า ปีที่มีอธิกมาศแลอธิกวารตามกำหนดโดยรอบคติดำเนิรแห่งพระสุริยมณฑลอันมีมาทุก ๆ ครั้งนั้น ปีใดที่มีอธิกมาศแลอธิกวารก็ดี พระสงฆ์สำแดงธรรมบอกพุทธศักราชนั้นหาถูกต้องกันไม่ ที่ใช้ข้างอดีดก็มี ที่ใช้ข้างอนาคตก็มี ผู้ที่ได้สดับฟังนั้นก็ไม่รู้ว่าจะแน่จะถูกอย่างไร เปนว่าไปแต่ตามใจตามรู้ของพระสงฆ์รูปนั้น ๆ บัดนี้ โปรดเกล้าฯ ให้ประกาศให้ทราบทั่วกันว่า ถ้าปีใดมีอธิกมาศ ให้บอกพุทธศักราชตามแบบนี้ไปจนสิ้นปีตามกำหนดในแบบอธิกมาศ
ในปีจอ ฉศก จุลศักราช ๑๒๓๖ นี้มีอธิกมาศ ให้ท่านผู้จะบอกพุทธศักราชรู้ทั่วกันว่า เมื่อยังไม่ถึงเดือนแปด บุรพาสาธ ฤๅถึงเข้าแต่ยังไม่ล่วงไป ให้บอกอธิกมาศวะเสนะไว้ส่วนอนาคต ครั้นสิ้นเดือนแปด บุรพาสาธแล้ว ตั้งแต่ขึ้นค่ำหนึ่ง เดือนแปด อุตราสาธไป ให้บอกอธิกมาศะวะเสนะไว้ส่วนอดีด วันเสาร์ เดือนหก แรมค่ำหนึ่ง เปนวันขึ้นพุทธศักราช ให้บอกว่าดังนี้ อุกาสะสิริศักยมุนีสัพพัญญูพุทธัสสะปรินิพพุทธิวะสะโตปัฏฐายะ สัตรสะสังวัจฉะรุตระ จะตุสตาธิกานิเทวสังวัจฉระ สหัสสานิอะเหสุง อิมัสมิงปัจจุปันนะกาเล โสณสังวัจฉะเร คิมหอุตุมหิ วิสาขมาเส กาฬปักเข ปาฏิปะเท โสรวาเร อนาคเตกาเล อธิกมาศะวะเสนะ เอกุนะติงสะทิวะสุตตระทวาทสมาสาธิก ทวาสีติสังวัจฉรุตตระปัญจะสตาธิกานิเทว สังวัจฉระสหัดสานิภวิสันติ
ศิริศุภมัสดุ พระพุทธสาสนากาล นับจำเดิมแต่วันสมเด็จพระบรมสักยมุนีศรีสรรเพชพุทธเจ้านั้นเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานมาล่วงแล้ว ๒๔๑๗ พรรษาถ้วน จะกล่าวกาลปัจจุบันวันหนึ่งบัดนี้ปีจอนักษัตร ฉศก เดือน ๖ แรมค่ำหนึ่ง วันเสาร์ เปนปัจจุบันวาร ยังพระพระพุทธสาสนกาล ส่วนอนาคตซึ่งกำหนดว่าจะมาจะเปนไปณเบื้องน่านั้นอีก ๒๕๘๒ พรรษาเสศ ก่อนกาลที่วันไพศาขปุรณมีจะมา ยังอีก ๑๒ เดือน ด้วยอำนาจปีอธิกมาศกับ ๒๙ วัน รวมพระพุทธสาสนกาลสามส่วน ประมวนณที่อันเดียวกัน จึ่งบันจบครบ ๕๐๐๐ พรรษา ตั้งแต่ณวันเสาร์ เดือนหก แรมสองค่ำไป ยกคำว่าถ้วนออกเสีย ครั้นถึงเดือนแปด บุรพาสาธ ซึ่งเปนเดือนอธิกมาศนั้น เพิ่มคำว่าอธิกมาสภูเตไว้น่าเดือนว่า อิมัศมิงปัจจุบันนกาเล โสณสังวัชฉเร คิมหอุตุมหิอธิกมาศภูเต บุพพาสาฬหะมาเส สุกกปักเข ปาฏิปะเท สสิวาเร อนาคเตกาเล ฯลฯ ภวิสสันติ ดังนี้
เมื่อถึงเดือนแปด อุตราสาธ ขึ้นค่ำหนึ่ง บอกว่า อุกาสะ ฯลฯ ปัฏฐายะ อธิกะมาสะวะเสนะ ปัณณระสะทิวะสุตตระทวิมาสาธิกะสัตรสสังวัจฉรรุตตระจตุสตาธิกานิเทวสังวัจฉระสหัดสานิอเหสุง อิมัศมิงปัจจุปันนกาเล ฯลฯ ภวิสันติ ๚ ไปกว่าจะถึงวันเดือนหก ขึ้นสิบห้าค่ำ ปีกุญ สัปตศก ให้ท่านผู้จะบอกพุทธศักราชบอกตามแบบนี้ในปีซึ่งมีอธิกมาศต่อ ๆ ไปจนทุกปีซึ่งมีอธิกมาศนั้นเทอญ
ถ้าปีใดมีอธิกวาร ก็ให้บอกพุทธศักราชตามแบบนี้ไปจนสิ้นปีตามมีกำหนดในแบบอธิกวารนี้
อนึ่ง ในปีมีอธิกวาร เดือน ๗ เปนเดือนถ้วน ให้ท่านผู้บอกพุทธศักราชเพิ่มอธิกวาระวะเสนะใว้เบื้องน่าเสศวันอธิกวาร ภูตายะไว้เบื้องน่าดิถีปัจจุบัน ต่อถึงเดือน ๘ แรมค่ำหนึ่ง จึ่งยกบทอธิกวาระวเสนะนั้นออกเสีย เพราะนับแรมเดือนเจด ๑๕ วัน ขึ้นเดือนแปด ๑๕ วันเปนเดือนหนึ่งแล้วเหมือนในปีชวด อัฐศก จุลศักราช ๑๒๓๘ พระพุทธสาสนายุกาลส่วนอดีตภาค ๒๔๑๙ พรรษา เมื่อถึงเดือนเจด แรมค่ำหนึ่ง บอกพุทธศักราชว่า อุกาสะสิริสักยมุนิสัพพัญญุพุทธัสสะปรินิพพุตทิวสโตปัฏฐายะเอกมาสาธิกะเอกูนาสีติสังวัจฉรุตตระจตุสตาธิกานิเทวสังวัจฉระสหัสสานิอเหสุง อิมัสมิงปัจจุบันนะกาเล มุสิกสังวัจฉเร คิมหอุตุมหิ เชฐมาเสกาฬปักเข ปาฏิปเท วุฒวาเร อนาคเตกาเล อธิกวาระวะเสนะ เอกุนะวีสติทิวสุตตระทสสมาสาธิกะสมาสีติสังวัจฉรุตตระ ปัญจะสตาธิกานิเทวสังวัจฉระสหัสสานิ ภวิสันติ
ศิริศุภมัศดุ ฯลฯ เปนปัจจุปันวาร ยังพระพุทธสาศนกาลส่วนอนาคตซึ่งกำหนดว่าจะมาจะเปนไปณเบื้องน่านั้นอีก ๒๕๘๐ พรรษาถ้วนเสศ ก่อนแต่กาลที่วันไพศาขบุรณมีจะมา ยังอีก ๑๐ เดือนกับ ๒๙ วัน ด้วยอำนาจเดือนมีอธิกวารรวม ฯลฯ ๕๐๐๐ พรรษา เมื่อถึงวันพุฒ เดือนเจด แรม ๑๕ ค่ำ ซึ่งเปนอธิกวารนั้น เพิ่มบทอธิกวารภูตายะน่าดิถีว่า อิมัสมิง ปัจจุปันกาเลนุสิกสังวัจฉเรคิมหอุตุมหิเชฐมาเสกาฬปักเขอธิกวารภูตายะปัณณริสยาติถียังวุฒวาเรอนาคเตกาเลอธิกวาระวเสนาปัณณรสะทิวสุตร ฯลฯ ภวิสสันติ
ศิริศุภมัสดุ ฯลฯ จะกล่าวกาลปัจจุบันวันหนึ่งบัดนี้ปีชวด อัฐศก คีมหฤดู เดือนเจด แรม ๑๕ ค่ำ อธิกวาร วันนี้วันพุฒ เปนปัจจุบันวาร ยังพระพุทธสาสน ฯลฯ ครบ ๕๐๐๐ พรรษา เมื่อถึงวันสุกร เดือนแปด แรมค่ำหนึ่ง ยกบทอธิกวารวเสนออกเสีย
ให้ท่านผู้จะบอกพระพุทธศักราชมาตแบบนี้ในปีซึ่งมีอธิกวารต่อไปจงทุกปีซึ่งมีอธิกวารนั้นเทอญ
ให้พระราชาคะณะผู้ใหญ่ผู้น้อยแจกหมายประกาศนี้ไปให้ทั่วในกรุงแลหัวเมืองเอกโทตรีจัตวาปากไต้ฝ่ายเหนือทั่วพระราชอาณาเฃตร ผู้ซึ่งจะสำแดงพุทธศักราชเมื่อใดแล้ว ให้สำแดงให้เหมือนกัน จะได้เปนที่เคารบนับถือในพระพุทธสาศนาว่า พระสงฆ์รู้แท้รู้จริงเหมือนกันหมด จะไม่เปนที่ติเตียนว่า เลอะเทอะ รู้มากรู้น้อยกว่ากัน ถ้าแลกกำหนดบอกถูกตามแบบนี้ทุก ๆ รูปแล้ว ก็จะเปนที่รุ่งเรืองพระพุทธสาศนาแลเปนที่เฉลิมพระเกียรติยศอย่างหนึ่งได้ ๚ะ
ประกาศมาณวันจันทร์ เดือน ๔ แรม ๑๔ ค่ำ ปีรกา เบญจศก ศักราช ๑๒๓๕