ข้ามไปเนื้อหา

กฎหมายไทยฯ/เล่ม 1/เรื่อง 27

จาก วิกิซอร์ซ
ประกาศเด็ก
ห้ามมิให้เล่นการพนันต่าง ๆ

มีพระบรมราชโองการมารพระบัณฑูรสุรสิงหนาทในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้ากรุงสยาม ให้ประกาศแก่พระบรมวงษานุวงษ์แลข้าทูลอองธุลีพระบาทผู้ใหญ่ผู้น้อยแลทวยราษฎรในแขวงจังหวัดกรุงเทพฯ ให้ทราบทั่วกันว่า ในพื้นบ้านพื้นเมืองสยามนี้ การเล่นซึ่งจะชักจูงใจเด็กให้เปนนักเลงแลให้เพลีดเพลีนเสียเวลาซึ่งจะร่ำเรียนศึกษาหาวิชาใส่ตัวนั้นมีมากหลายประการ คือ การเล่น พนันมีผู้ใหญ่เปนเจ้ามือชักโยงให้เด็กเล่น คือ ไม้สามอัน ๑ ไม้ดำไม้แดง ๑ ไม้หมุน ๑ ดีดควง ๑ อีโปงปั่น ๑ อีโปงกำ ๑ อีโปงซัต ๑ ปั่นอีแปะ ๑ ขลุกฃลิก ๑ น้ำเต้าฬ่อ ๆ ๑ กรอกแกรก ๑ สี่เหง่าลัก ๑ รวม ๑๒ สิ่งนี้ห้ามมีให้ใครเปนเจ้ามือเล่นในที่บ้าน แลที่ถนนหนทาง แลที่อื่นทั่วทั้งกรุงเทพฯ เปนอันขาต ถ้าผู้หนึ่งผู้ใดยังขืนคิดการฬ่อลวงเปนเจ้ามือชักชวนให้เด็กเล่นการพนันตามถนนหนทางที่ใด ๆ อย่างที่กล่าวมาทั้ง ๑๒ สิ่งนี้ ก็ให้ทหารโปลิศกำนันอำเภอแลคนอื่น ๆ จับผู้เปนเจ้ามือแลเครื่องมือที่เล่นมาส่งยังโรงทหารโรงโปลิศ ชำระเปนสัตย์จะปรับเจ้ามือผู้เล่นเปนเงินสิบตำลึงให้เปนค่าสินบนแก่ผู้จับ แล้วให้ลงพระราชอาญาเฆี่ยนเจ้ามือผู้เล่นยกหนึ่ง ๓๐ ที แล้วให้เจ้าหมู่มุลนายรับเอาตัวไป ถ้าเล่นในที่เรือนที่บ้าน ก็ให้ปรับไหมเจ้ามือเงินสืบตำลึงเปนค่าสินบน แลให้ทำโทษตามเช่นกล่าวมาแล้วนั้น ส่วนเจ้าฃองเรือนเจ้าของบ้านยอมให้เจ้ามือไปเล่น ให้ปรับไหมเงินห้าตำลึงไว้สำหรับซ่อมแซมบำรุงถนน อนึ่ง ถ้าทหารโปลิศก็ดี ผู้รับสินบนจับก็ดี จับได้ไม่เอาตัวมาส่งเจ้าพนักงานลงเอาเงินกันมาก ๆ น้อย แลปล่อยตัวผู้ทำละเมิดพระราชบัญญัตินี้เสีย มีผู้มาร้องฟ้องว่ากล่าว ชำระได้ความจรีง ให้ลงพระราชอาญาเฆี่ยนที่ปล่อยคนผิดจากพระราชบัญญัตินั้น ๓๐ ที ถอดเสียจากที่ ไม่ไห้ทำการต่อไป แล้วปรับไหมเงินสิบตำลึงให้แก่ผู้มาฟ้องร้องว่ากล่าวนั้น อนึ่ง ถ้าตัวเด็กอายุเพียง ๑๕ ปีลงมา จะเข้าไปเล่นเบี้ยบ่อนถั่วบ่อนโปการพนันแลอื่น ๆ ในบ่อนใด ๆ ให้เจ้าของบ่อนห้ามปรามขับไล่เสิย อย่าให้เล่น ถ้านายบ่อนยอมให้เด็กเล่น เด็กจะเสียเปนเงินมากน้อยเท่าใด นายบ่อนจะเอาใช้แก่ตัวเด็กไม่ได้ ต้องตัดสินให้เปนภัพแก่นายบ่อน เพราะนายบ่อนะเมิดจากพระราชบัญญัตินี้ อนึ่ง การเล่นเปนแต่เด็กเล่นกันตามภาษาเด็กนั้นให้เปนที่กีดขวางถนนหนทางซอกกรอกลำบากแก่คนเดีนไปมาแลคนฃี่ม้าขี่รถทั่วกันนั้น คือ เล่นลูกข่าง ๑ ช่วงไชย ๑ จ้องเต ๑ ทอยเทศ ๑ ทอยกอง ๑ อยู่โยง ๑ ส้อนหา ๑ กู้ลาส้อนผ้า ๑ เล่นตี่ ๑ เล่นว่าว ๑ เล่นตกร้อ ๑ จุดดอกประทัด ๑ จุดดอกไม้เพลิง ๑ ทั้ง ๑๓ สิ่งนี้ ให้บิดามารดาพี่ป้าน้าอาแลนายเงินของเด็กห้ามปรามเด็กอย่าให้ออกมาเล่นให้กีดถนนหนทางเปนอันขาด ถ้าเด็กยังขืนออกมาเล่นผิดจากพระราชบัญญัตินี้ ก็ให้ทหารโปลิศอำเภอจับตัวเด็กไปมอบไว้ยังโรงโปลิศโรงทหารให้เจ้าพนักงานโปลิศเจ้าพนักงานทหารจตบาญชีชื่อเด็กแลบิดามารดาญาติฤๅนายเงินตำบนบ้านไว้สำหรับโรงทหารโปลิศ แล้วให้บิดามารดาฤๅญาติมารับตัวไปแต่ใน ๒๔ ชั่วโมง ถ้าพ้น ๒๔ ชั่วโมงแล้ว ก็ให้ทหารโปลิสนำตัวเด็กไปส่งแก่บิดามารดาญาติฤๅนายเงิน แล้วเรียกเอาเงินค่าส่งคนละสลึง แลเมื่อจะส่งตัวเด็กนั้น ต้องบังคับแก่บิดามารดาญาติฤๅนายเงินให้กดขี่เด็กอย่าให้เล่นเปนการคนองต่าง ๆ ในกลางถนนซอกกรอกอย่างที่ว่ามาแล้ว ถ้าบิดามารดาญาติฤๅนายเงินไม่เอาใจใส่ระวังห้ามปรามเด็กปล่อยให้เด็กมาเล่นในกลางถนนหนทางอิก ถ้าจับตัวเด็กได้ในครั้งหนึ่สองครั้ง จะยอมปลอยให้เด็กไปโดยดี ไม่ต้องเสียอะไร ถ้าจับตัวเด็กซ้ำถึง ๓ ครั้ง ให้ทหารโปลิศเรียกเอาค่าจับปรับแก่บิดามารดาญาติฤๅนายเงินของเดิกตามตัวเด็กเปนเงินคนละตำลึงหนึ่ง แล้วจึงมอบตัวเด็กให้แก่บิดามารดาญาตีฤๅนายเงิน ส่วนเงินค่าจับนั้นให้เก็บไว้สำหรับซ่อมแซมถนน ถ้าเด็กเข้าไปเล่นในบ้านในถิ่นไม่เปนการกีดถนนหนทางแล้ว อย่าให้ทหารโปลิศจับเลย อนึ่ง การซึ่งเด็กเล่นตามลำพังเด็ก ทำให้เสียเวลาที่จะฝึกหัดวิชาความรู้นั้น คือ เล่นควักลงหลุม ๑ เสือตกถัง ๑ เสือกินวัว ๑ คู่คี่ ๑ เกรียก ๑ กำตัด ๑ อีขีดอีเขียน ๑ หมากเก็บ ๑ แลการเล่นต่าง ๆ ซึ่งกล่าวมาแต่ต้นนั้น ทรงพระราชดำริห์เหนวา เปนเครื่องจูงใจให้เด็กเพลีดเพลีนเอีบอาบเลยลามไปจนเล่นการพนันใหญ่ ๆ คือ ไพ่ต่าง ๆ ๑ ดวด ๑ ถั่ว ๑ โป ๑ จนเด็กยับเยีนหนี้เปนทาษแลภาบิดามารดาเปนหนี้เปนทาษเข้าด้วยก็มีเปนอันมาก เพราะเด็กฝึกใจมาตั้งแต่เล็กจนคุ้มใหญ่ จะฝึกหัดดัดแปลงเมื่อโตก็ดัดเปนอันยาก จึงโปรดเกล้าฯ ว่า ตั้งแต่นี้สืบไปภายน่าให้บิดามารดาญาติฤๅนายเงินของเด็กห้ามปรามเด็กอย่าให้ประพฤติการเล่นอย่างที่ว่ามาแล้ว ให้เอาใจใส่ฝึกสอนเด็กให้รู้จักธรรมเนียมที่ดื คือ ให้เรียนหนังสือ ให้เรียนเลข การศิลปสาตร วิชาช่างต่าง ๆ แลการวิชาค้าขายทำมาหากินตามนิไสของเด็กที่จะชอบฝึกหัดสิ่งใด ให้ได้วิชาสำหรับตัวเด็กไว้อย่างหนึ่ง จะได้เปนที่พึ่งของเด็กต่อไปภายน่า อย่าให้ผู้ใหญ่ทอดธุระให้เด็กเล่นในการที่ไม่เปนประโยชน์เหมือนอย่างแต่ก่อนเปนอันขาด ให้คอยเอาใจใส่ระวังคอยเกียดกันข่มขู่อย่าให้เด็กเล่นจงได้ อนึ่ง ให้กองกระเวรซ้ายกองกระเวรขวาแลนายอำเภอนายกำนันทั้งปวงเป่าร้องราษฎรให้รู้ทั่วกันก่อนทุกบ้านทุกเรือนว่า กำหนดจะให้ลงมือจับตั้งแต่ณวันอังคาร เดือนสิบเบ็ด ขึ้นสามค่ำ ปีจอฉอศกไป ให้ทหารให้โปลิศนายแขวงนายอำเภอนายกำนันทั้งปวงประพฤติให้ต้องตามพระราชบัญญัติหมายประกาศนี้จงทุกประการ อนึ่ง ห้ามมิให้ทหารโปลิศแลนายแขวงนายอำเภอนายกำนันฤๅผู้หนึ่งผู้ใดแก้ลงใส่โทษจับเดกให้ราษฎรได้ความเดือดร้อนเปนอันขาด ถ้าผู้ใดแก้ลงจับเด็กที่มิได้ผิดดังนี้ มีผู้มาฟ้องร้องชำระได้ความเปนสัตย์ จะให้ลงโทษตามโทษานุโทษ ประกาศมาณวันอาทิตย เดือนสิบ แรมเก้าค่ำ ปีจอฉศก ศักราช ๑๒๓๖ เปนปีที่ ๗ ในรัชการปัตยุบันนี้ ๚ะ