กฎหมายไทยฯ/เล่ม 6
หน้าตา
กฎหมายไทย
คือ
พระราชบัญญัติและประกาศ
ซึ่งตั้งขึ้นในรัชกาลของ
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ผู้ทรงพระคุณธรรมอันประเสริฐ
เล่ม ๖
ขุนหลวงพระไกรสี สุภาวภักดีศรีมนธาตุราช อำมาตยคณาการ (เปล่ง) ภ,ม,ท,ช,ร,ต,ม, รัฐมนตรี ข้าหลวงพิเศษประจำการจัดการศาลยุติธรรมตามหัวเมืองทั้งปวง อธิบดีผู้พิพากษาศาลพระราชอาญา สนามสถิตย์ยุติธรรมกรุงเทพฯ เปนผู้รวบรวมเอามาลงพิมพ์ไว้เปนสมุดเล่มเดียวกัน เพื่อให้เปนประโยชน์แก่การพิจาราณาพิพากษาคดีทั้งปวง
ตีพิมพ์ที่โรงพิมพ์วิชากร บ้านหม้อ ถนนเฟื่องนคร กรุงเทพฯ
ราคาเล่มละ ๘ บาท
ปีรัตนโกสินทรศก ๑๑๗
สารบานน่า
๓๔๓ | ประกาศให้ใช้ตราสำหรับตำแหน่ง ร.ศ. ๑๑๔ | น่า | ๑๙๓๓ | |||
๓๔๔ | พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาความมีโทษสำหรับใช้ไปพลางก่อน ร.ศ. ๑๑๕ | น่า | ๑๙๓๔ | |||
หมวดที่ ๑ ว่าด้วยลักษณไต่สวนก่อนเวลาพิจารณา | ||||||
มาตรา๑ห้ามไม่ให้จับกุมกักขังโดยไม่มีหมายจับ ยกเสียแต่จับกุมกำลังทำผิดฤๅสงไสยว่าจะหนี | น่า | ๑๙๓๕ | ||||
มาตรา๒คนต้องจับกุมมาถึงที่ขังแล้ว ต้องจดบาญชีตามเหตุที่ต้องจับนั้น | น่า | ๑๙๓๖ | ||||
มาตรา๓ต้องไต่สวนใน ๔๘ ชั่วโมงตั้งแต่จับตัวมา ถ้าช้าไปด้วยเหตุใด ต้องจดหมายไว้ตามเหตุนั้น | น่า | ๑๙๓๗ | ||||
มาตรา๔ให้ไต่สวนพิเคราะห์ดูตามถ้อยคำที่สาบาลเปนหลักฐานว่าเปนพิรุธฤๅไม่ | น่า | ๑๙๓๗ | ||||
มาตรา๕คู่ความซักพยานได้ | น่า | ๑๙๓๘ | ||||
มาตรา๖ให้ผู้พิพากษามีคำสั่งตามคำพยานชั้นต้นที่พิรุธฤๅไม่ | น่า | ๑๙๓๘ | ||||
หมวดที่ ๒ ว่าด้วยการชำระเปนความแผ่นดิน | ||||||
มาตรา๗ความหลวงไม่มีโจทย์ ให้ชำระเปนความแผ่นดินตามคำพยาน | น่า | ๑๙๓๙ | ||||
มาตรา๘ให้เจ้าพนักงานกองตระเวรแลกองไต่สวนช่วยเสาะหาพยานให้ชำระ | น่า | ๑๙๔๐ | ||||
หมวดที่ ๓ ว่าด้วยลักษณพิจารณา | ||||||
มาตรา๙คู่ความแต่งทนายช่วยว่าความได้ | น่า | ๑๙๔๑ | ||||
มาตรา๑๐ถึงกำหนดชำระ โจทย์ไม่มา ก็ให้ยกฟ้องเสีย เว้นแต่มีเหตุที่ควรเลื่อนเวลาชำระต่อไป | น่า | ๑๙๔๑ | ||||
มาตรา๑๑โจทย์หา จำเลยให้การรับแล้ว ให้ตัดสินลงโทษ | น่า | ๑๙๔๒ | ||||
มาตรา๑๒ถ้าจำเลยไม่รับ ให้ศาลซักไซ้จำเลยและพยานทั้งสองฝ่าย | น่า | ๑๙๔๒ | ||||
มาตรา๑๓จำเลยให้การแก้ได้เต็มที่ และซักถามพยานได้ | น่า | ๑๙๔๒ | ||||
มาตรา๑๔พยานต้องให้การเรียงตัวกันโดยลำดับตามที่ศาลจะบังคับ | น่า | ๑๙๔๓ | ||||
มาตรา๑๕วิธีสืบพยาน ใช้ตามพระราชบัญญัติลักษณพยาน ร.ศ. ๑๑๓ | น่า | ๑๙๔๓ | ||||
มาตรา๑๖คู่ความจะขอให้พยานให้การอีกครั้งหนึ่ง ฤๅให้พยานไปจากศาล ๆ ก็สั่งได้ | น่า | ๑๙๔๓ | ||||
มาตรา๑๗ให้ศาลพิเคราะห์ดูว่าควรพิจารณาข้อหาข้อใดก่อนและหลัง | น่า | ๑๙๔๔ | ||||
มาตรา๑๘เริ่มชำระแล้ว ก็ให้ชำระต่อไปให้แล้ว อย่าให้ชักช้า | น่า | ๑๙๔๔ | ||||
มาตรา๑๙เมื่อฟังคำพยานและคำชี้แจงของคู่ความแล้ว ให้ศาลตัดสิน | น่า | ๑๙๔๔ | ||||
หมวดที่ ๔ ว่าด้วยลักษณพิพากษาตัดสิน | ||||||
มาตรา๒๐เมื่อชำระแล้ว ให้ตัดสินไม่ช้ากว่า ๓ วัน | น่า | ๑๙๔๕ | ||||
มาตรา๒๑คำตัดสินต้องเขียน | น่า | ๑๙๔๕ | ||||
มาตรา๒๒คำตัดสินต้องชี้ขาดในข้อต่าง ๆ คือ | ||||||
ข้อ๑จำเลยผิดดังฟ้องฤๅไม่ | ||||||
ข้อ๒จำเลยทำผิดโดยเหตุดังที่หาฤๅที่แก้นั้นฤๅไม่ | ||||||
ข้อ๓จำเลยทำผิดโดยเหตุดังที่แก้แล้ว มีบทกฎหมายยกเว้นฤๅไม่ ถ้าชี้ขาดว่าจำเลยไม่ผิด ก็ให้สั่งปล่อย ถ้าชี้ขาดว่าผิดโดยเหตุอย่างใด ก็ให้วางบทกฎหมายตามเหตุนั้น ให้มีกำหนดโทษด้วย | น่า | ๑๙๔๕ | ||||
มาตรา๒๓ให้ตัดสินโดยที่เห็นมากกว่า | น่า | ๑๙๔๗ | ||||
หมวดที่ ๕ ว่าด้วยลักษณอุทธรณ์ | ||||||
มาตรา๒๔คู่ความอุทธรณ์ได้ใน ๑๕ วัน | น่า | ๑๙๔๙ | ||||
มาตรา๒๕คำฟ้องอุทธรณ์ต้องให้เก็บใจความตามเหตุความจริงและตามบทกฎหมาย อย่าให้เรียกผู้พิพากษามาเปนจำเลย | น่า | ๑๙๔๙ | ||||
มาตรา๒๖ถ้าผู้อุทธรณ์ติดตรางอยู่ จะยื่นฟ้อง ให้ผู้คุมไปยื่นต่อศาลก็ได้ | น่า | ๑๙๕๐ | ||||
มาตรา๒๗ให้ศาลอันต้องอุทธรณ์ยื่นสำนวนแลคะำฟ้องต่อศาลอุทธรณ์ใน ๕ วัน | น่า | ๑๙๕๐ | ||||
มาตรา๒๘ให้ศาลอุทธรณ์กำหนดวันชำระใน ๑๕ วัน เว้นแต่มีเหตุขัดข้อง แต่อย่าให้ช้าเกินกว่า ๒ เดือน | น่า | ๑๙๕๐ | ||||
มาตรา๒๙ให้นัดคู่ความก่อน ๕ วัน | น่า | ๑๙๕๑ | ||||
มาตรา๓๐ชำระความอุทธรณ์นั้น ให้อ่านสำนวนและฟังคำชี้แจงของคู่ความ | น่า | ๑๙๕๑ | ||||
มาตรา๓๑ศาลอุทธรณ์ฤๅคู่ความจะเรียกพยานเก่าใหม่สืบก็ได้ | น่า | ๑๙๕๑ | ||||
มาตรา๓๒ความในมาตรา ๑๒–๑๔–๑๕ และ ๑๖ ให้ชำระชั้นอุทธรณ์ด้วย | น่า | ๑๙๕๑ | ||||
มาตรา๓๓ศาลอุทธรณ์ชำระแล้ว ต้องตัดสินใน ๓ วัน | น่า | ๑๙๕๒ | ||||
มาตรา๓๔ศาลอุทธรณ์แก้คำตัดสินได้ตามความเห็น | น่า | ๑๙๕๓ | ||||
มาตรา๓๕ค่าธรรมเนียม | น่า | ๑๙๕๓ | ||||
หมวดที่ ๖ ว่าด้วยลักษณโทษตามคำพิพากษาตัดสิน | ||||||
มาตรา๓๖คำตัดสินความมีโทษเปนที่สุดเมื่อ (๑) ศาลชั้นแรกตัดสินแล้วไม่มีอุทธรณ์ (๒) และเมื่อศาลอุทธรณ์ได้ตัดสินแล้ว | น่า | ๑๙๕๓ | ||||
มาตรา๓๗คำตัดสินถึงที่สุดให้ปล่อยแล้ว จะกลับชำระทำโทษอีกไม่ได้ | น่า | ๑๙๕๔ | ||||
มาตรา๓๘คำตัดสินประหารชีวิตรศาลใด ๆ ต้องให้ศาลอุทธรณ์ตัดสินยืนด้วย จึงเปนที่สุด | น่า | ๑๙๕๕ | ||||
มาตรา๓๙คำตัดสินโทษประหารชีวิตร ริบ แลจำคุกจนตาย ต้องทูลเกล้าฯ ถวายพร้อมกับฎีกา | น่า | ๑๙๕๖ | ||||
มาตรา๔๐กำหนดให้ใช้ | น่า | ๑๙๕๖ | ||||
๓๔๕ | ประกาศให้ใช้พระราชกำหนดตั้งศาลรับสั่งพิเศษสำหรับชำระสะสางคะดีความมีโทษหลวงชั้นเก่าซึ่งค้างอยู่ณะศาลพระราชอาญาต่อไป ร.ศ. ๑๑๕ | น่า | ๑๙๕๖ | |||
๓๔๖ | ประกาศเปลี่ยนกรรมการศาลรับสั่งพิเศษสำหรับชำระสะสางคดีความมีโทษหลวงชั้นเก่าซึ่งค้างอยู่ณะศาลพระราชอาญา ร.ศ. ๑๑๕ | น่า | ๑๙๕๗ | |||
๓๔๗ | ประกาศว่าด้วยนัดพิจารณาความแพ่ง ร.ศ. ๑๑๕ | น่า | ๑๙๕๘ | |||
๓๔๘ | ประกาศขยายความแห่ง “พระราชบัญญัติอากรการพนัน ร.ศ. ๑๑๑” ร.ศ. ๑๑๕ | น่า | ๑๙๖๓ | |||
๓๔๙ | กฎข้อบังคับเสนาบดีกระทรวงยุติธรรม ร.ศ. ๑๑๕ | น่า | ๑๙๖๔ | |||
๓๕๐ | ประกาศเพิ่มอำนาจกรรมการตัดสินความนา ร.ศ. ๑๑๕ | น่า | ๑๙๖๖ | |||
๓๕๑ | ประกาศตั้งกรรมการศาลรับสั่งพิเศษสำหรับชำระสะสางคะดีความมีโทษหลวงชั้นเก่าที่ค้างอยู่ณะศาลพระราชอาญาเพิ่มขึ้น ร.ศ. ๑๑๕ | น่า | ๑๙๖๗ | |||
๓๕๒ | แจ้งความเปิดศาลกรรมการตรวจตัดสินที่นาในจังหวัดหมู่คลองบริษัท ร.ศ. ๑๑๕ | น่า | ๑๙๖๙ | |||
๓๕๓ | ประกาศเปลี่ยนตำแหน่งเสนาบดีสภา ร.ศ. ๑๑๕ | น่า | ๑๙๐๙ | |||
๓๕๔ | ประกาศตั้งตำแหน่งผู้แทนเสนาบดีกระทรวงวัง ร.ศ. ๑๑๕ | น่า | ๑๙๗๐ | |||
๓๕๕ | ประกาศเปลี่ยนกรรมการศาลรับสั่งพิเศษสำหรับชำระสะสางคะดีความมีโทษหลวงชั้นเก่า ร.ศ. ๑๑๕ | น่า | ๑๙๗๒ | |||
๓๕๖ | พระราชบัญญัติตั้งข้าหลวงพิเศษสำหรับจัดการแก้ไขธรรมเนียมศาลยุติธรรมหัวเมืองทั้งปวง ร.ศ. ๑๑๕ | น่า | ๑๙๗๓ | |||
๓๕๗ | ประกาศตั้งข้าหลวงพิเศษประจำการ ๓ นายเปนผู้จัดการแก้ไขธรรมเนียมศาลยุติธรรมหัวเมืองทั้งปวง ร.ศ. ๑๑๕ | น่า | ๑๙๗๘ | |||
๒๕๘ | ประกาศขยายอำนาจกรรมการพิเศษชำระความวิวาทเรื่องที่นา ร.ศ. ๑๑๕ | น่า | ๑๙๗๙ | |||
๓๕๙ | ประกาศยกเลิกตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงมุรธาธร ร.ศ. ๑๑๕ | น่า | ๑๙๘๑ | |||
๓๖๐ | ประกาศในการสถาปนาพระเกียรติยศ ร.ศ. ๑๑๕ | น่า | ๑๙๘๒ | |||
๓๖๑ | ประกาศแก้ไขบางมาตราในพระราชบัญญัติเครื่องราชอิศิริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรกรีบรมราชวงษ์ ร.ศ. ๑๑๕ | น่า | ๑๙๘๔ | |||
๓๖๒ | ประกาศยกกรมสุรัสวดีขึ้นกระทรวงกระลาโหม ร.ศ. ๑๑๕ | น่า | ๑๙๘๕ | |||
๓๖๓ | ประกาศให้ใช้พระราชกำหนดตั้งศาลรับสั่งพิเศษสำหรับสะสางคดีความมีโทษหลวงชั้นเก่าซึ่งค้างอยู่ศาลพระราชอาญาต่อไปเปนครั้งที่ ๒ ร.ศ. ๑๑๕ | น่า | ๑๙๘๖ | |||
๓๖๔ | พระราชบัญญัติกระบวนพิจารณาความแพ่ง ร.ศ. ๑๑๕ | |||||
พระราชดำริห์ | น่า | ๑๙๘๗ | ||||
หมวดที่ ๑ ว่าด้วยนามที่ใช้ ผู้รักษาพระราชบัญญัติ และอธิบายคำ | ||||||
มาตรา๑นามพระราชบัญญัติ | น่า | ๑๙๘๙ | ||||
มาตรา๒ใช้พระราชบัญญัติ | ” | |||||
มาตรา๓น่าที่ผู้รักษาพระราชบัญญัติ | ” | |||||
มาตรา๔อย่างไรจึงเรียกว่าความแพ่ง | ” | |||||
หมวดที่ ๒ ว่าด้วยอำนาจศาล | ||||||
มาตรา๕ศาลรับคะดีพิจารณาได้ตามพระธรรมนูญ | น่า | ๑๙๙๐ | ||||
มาตรา๖คะดีที่ตัดสินฤๅที่ยินยอมแล้ว ห้ามไม่ให้รับไว้พิจารณาอีก | ” | |||||
มาตรา๗ลำดับอำนาจศาล | น่า | ๑๙๙๑ | ||||
มาตรา๘ข้อห้ามผู้พิพากษาในคะดีที่ไม่ควรพิจารณา | ” | |||||
มาตรา๙น่าที่ผู้พิพากษาต้องเปนผู้พยานเปรียบเทียบคะดี | น่า | ๑๙๙๒ | ||||
หมวดที่ ๓ ว่าด้วยพิจารณาคะดีอันคู่ความ ทำสัญญากันกะข้อประเด็นลงให้ตัดสิน | ||||||
มาตรา๑๐คะดีที่สัญญากันให้ตัดสิน | น่า | ๑๙๙๒ | ||||
มาตรา๑๑ให้กำหนดราคาลงในคะดีด้วย | น่า | ๑๙๙๔ | ||||
มาตรา๑๒สัญญาต้องลงสารบบเหมือนฟ้องในคะดีอื่น | ” | |||||
มาตรา๑๓คู่ความอยู่ในอำนาจศาล | น่า | ๑๙๙๕ | ||||
มาตรา๑๔การพิจารณาและตัดสิน | ” | |||||
หมวดที่ ๔ ว่าด้วยลักษณฟ้องความ | ||||||
มาตรา๑๕ฟ้องคะดีตามชั้นศาลที่ควรแก่รูปความ | น่า | ๑๙๙๖ | ||||
มาตรา๑๖จะฟ้องคะดีต้องฟ้องในท้องแขวง เว้นแต่ศาลจะบังคับจำเลยทำได้ในที่อื่น จะฟ้องต่อศาลที่จำเลยอยู่ในแขวงนั้นก็ได้ | ” | |||||
มาตรา๑๗พัสดุที่เหลื่อมล้ำแขวงกัน ให้ศาลจดบันทึกไว้ และพิจารณาต่อไปไม่เปนเหตุอุทธรณ์ | น่า | ๑๙๙๘ | ||||
มาตรา๑๘คะดีนอกจากกำหนดในมาตราข้างบนนี้ จะฟ้องตามท้องที่ฤๅศาลอื่นก็ได้ | ” | |||||
มาตรา๑๙จำเลยอยู่เขตรศาลหนึ่ง คะดีเกิดขึ้นในศาลหนึ่ง โจทย์จะฟ้องศาลใดก็ได้ | น่า | ๑๙๙๙ | ||||
มาตรา๒๐ทรัพย์เคลื่อนที่ไม่ได้เกี่ยวอยู่ในเขตรของศาลใด ให้ฟ้องศาลนั้รน | ” | |||||
มาตรา๒๑จำเลยไม่ได้อยู่ในแขวงของศาล จะขอให้ยกคะดีเสียก็ได้ | ” | |||||
มาตรา๒๒ถ้าศาลหยุดพิจารณาไว้ โจทย์จะฟ้องศาลใหม่ ถ้าเสียค่าธรรมเนียมแล้ว ไม่ต้องเสียซ้ำอีก | น่า | ๒๐๐๐ | ||||
หมวดที่ ๕ ว่าด้วยลักษณพิจารณาความมะโนสาเร่ห์ | ||||||
มาตรา๒๓ทุนทรัพย์ต่ำกว่าสองร้อยบาท เรียกว่าความมะโนสาเร่ห์ | น่า | ๒๐๐๑ | ||||
มาตรา๒๔ความมะโนสาเร่ห์ โจทย์จะยื่นเรื่องราวฤๅข้อด้วยปากให้เรียกจำเลยมาก็ได้ | ” | |||||
มาตรา๒๕วิธีออกหมายเรียกจำเลย | น่า | ๒๐๐๒ | ||||
มาตรา๒๖จำเลยจะมาเองฤๅแต่งทนายมาแทนก็ได้ | ” | |||||
มาตรา๒๗ความมะโนสาเร่ห์ นอกจากกำหนดไว้ในหมวดนี้ ให้ใช้ตามวิธีความแพ่งสามัญ | น่า | ๒๐๐๓ | ||||
หมวดที่ ๖ วิธีฟ้องคะดีเกี่ยวด้วยตั๋วผัดใช้เงินและตั๋วผัดส่งเงิน | ||||||
มาตรา๒๘อธิบายคำที่ว่าตั๋วผัด | น่า | ๒๐๐๓ | ||||
มาตรา๒๙จำเลยจะต่อสู้ ต้องวางเงินไว้เปนกลางฤๅมีพยาน | น่า | ๒๐๐๔ | ||||
มาตรา๓๐ถ้าจำเลยไม่มาขออนุญาตต่อสู้ ให้ตัดสินเปนแพ้และอุทธรณ์ไม่ได้ | น่า | ๒๐๐๕ | ||||
มาตรา๓๑ถ้ามีเหตุพิเศษ ศาลจะยกคำตัดสินฤๅงดเร่งตามคำตัดสินและอนุญาตให้จำเลยสู้คะดีต่อไปก็ได้ | น่า | ๒๐๐๕ | ||||
มาตรา๓๒ศาลจะเรียกตั๋วไว้เปนกลางและเรียกประกันโจทย์ได้ | น่า | ๒๐๐๖ | ||||
มาตรา๓๓ผู้ถือตั๋วผัดจะฟ้องเอาค่าใช้สอยก็ได้ | น่า | ๒๐๐๖ | ||||
มาตรา๓๔ผู้ถือตั๋วผัดจะฟ้องจำเลยคนเดียวฤๅหลายคนก็ได้ แต่ต้องแยกจำนวนเงินเปนส่วน ๆ | น่า | ๒๐๐๖ | ||||
หมวดที่ ๗ ว่าด้วยวิธีพิจารณาความแพ่งสามัญ | ||||||
มาตรา๓๕อย่างไรจึงเรียกว่าความแพ่งสามัญ | น่า | ๒๐๐๗ | ||||
มาตรา๓๖ให้จำเลยทำคำให้การมายื่นตามกำหนด ไม่ให้มีคำตัดฟ้อง | น่า | ๒๐๐๗ | ||||
มาตรา๓๗จำเลยหลายคน ให้หมายเรียงตัว | น่า | ๒๐๐๘ | ||||
มาตรา๓๘จำเลยเปนบริษัท ให้หมายถึงที่ทำการของบริษัท | น่า | ๒๐๐๘ | ||||
มาตรา๓๙จำเลยเข้าหุ้นส่วน แต่ไม่ได้โฆษนาการเปนบริษัท ให้หมายเรียงตัว | น่า | ๒๐๐๙ | ||||
มาตรา๔๐ยื่นฟ้องฤๅคำให้การเพิ่มเติม | น่า | ๒๐๐๙ | ||||
มาตรา๔๑ถึงวันนัดชี้สองสฐาน ให้โจทย์จำเลยมายังศาล ไม่ต้องหาพยานมาด้วย | น่า | ๒๐๑๐ | ||||
มาตรา๔๒ฟ้องแย้ง | น่า | ๒๐๑๐ | ||||
มาตรา๔๓ให้ศาลมีบาญชีฟ้องและบาญชีสำนวนไว้ | น่า | ๒๐๑๑ | ||||
มาตรา๔๔ถ้าไม่ตกลงในชั้นชี้สองสฐาน ให้ยกความเรื่องนั้นเข้าในบาญชีพิจารณา | น่า | ๒๐๑๑ | ||||
มาตรา๔๕หมายนัดให้คู่ความทราบก่อนไม่น้อยกว่า ๕ วัน | น่า | ๒๐๑๑ | ||||
มาตรา๔๖ให้คู่ความนำสิ่งสำคัญมาพร้อมกัน | น่า | ๒๐๑๒ | ||||
มาตรา๔๗หมายเรียกพยาน | น่า | ๒๐๑๒ | ||||
มาตรา๔๘หมายเรียกพยานให้พยานรู้ก่อนวันนัดสองวัน | น่า | ๒๐๑๒ | ||||
มาตรา๔๙สืบพยานจำเพาะแต่ประเด็นแล้วตัดสิน | น่า | ๒๐๑๓ | ||||
มาตรา๕๐ถ้าพยานสำคัญมี ให้พักความเรื่องนั้นไว้ | น่า | ๒๐๑๓ | ||||
มาตรา๕๑ตรวจอาการของคู่ความที่ป่วย | น่า | ๒๐๑๔ | ||||
มาตรา๕๒คู่ความท้าให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งสาบาลฤๅปัฏิญาณตนเปนการตัดสินแพ้ชะนะกันได้ | น่า | ๒๐๑๕ | ||||
มาตรา๕๓ศาลเปิดว่าความตามกำหนดนัด ต่อมีเหตุจึงเลื่อนเวลาได้ | น่า | ๒๐๑๕ | ||||
มาตรา๕๔ให้ศาลพิจารณาความที่เสร็จสำนวนก่อน | น่า | ๒๐๑๕ | ||||
มาตรา๕๕ถ้าจะเลื่อนเวลาพิจารณา ให้เขียนวันนัดประกาศไว้ที่ศาล | น่า | ๒๐๑๕ | ||||
มาตรา๕๖ลงความเห็นในคำตักสิน ถ้าผู้พิพากษานั่งเปนคะณะ ให้ฟังเอาข้างเห็นมาก | น่า | ๒๐๑๖ | ||||
มาตรา๕๗ห้ามตัดสินไม่ให้เกินฟ้อง | น่า | ๒๐๑๖ | ||||
มาตรา๕๘งดพิจารณาไว้ ด้วยจะมีคำวินิจฉัยของเจ้าพนักงานฝ่ายธุระการ | น่า | ๒๐๑๗ | ||||
มาตรา๕๙งดพิจารณาคะดีไว้ ด้วยมีผู้ทำผิดมีโทษเปนอาญาหลวง | น่า | ๒๐๑๗ | ||||
หมวดที่ ๘ ว่าด้วยลักษณพยาน | ||||||
มาตรา๖๐สืบพยานตามพระราชบัญญัติลักษณพยาน ร,ศ, ๑๑๓ | น่า | ๒๐๑๗ | ||||
หมวดที่ ๙ ว่าด้วยลักษณขาดนัด และตัดสินคะดีที่คู่ความไม่พร้อมกัน | ||||||
มาตรา๖๑อย่างไรที่เรียกว่าขาดนัด | น่า | ๒๐๑๘ | ||||
มาตรา๖๒หมายนัด ให้คู่ความทราบล่วงน่าไม่ต่ำกว่า ๕ วัน คู่ความทราบแล้วให้ลงชื่อรับในคู่ฉบับหมายแล้วลงบาญชีไว้ | น่า | ๒๐๑๘ | ||||
มาตรา๖๓โจทย์จำเลยไม่มาฤๅไม่แต่งทนายให้มาตามนัด ให้เลิกความเสีย | น่า | ๒๐๑๙ | ||||
มาตรา๖๔โจทย์ไม่มาตามนัด แต่จำเลยมา ถ้าให้การปฏิเสธ ให้ยกฟ้องเสีย ถ้าให้การรับเพียงใด ให้ตัดสินเพียงที่รับนั้น ถ้ากลับกล่าวโทษโจทย์และจะว่ากล่าวต่อไป ให้ฟ้องเปนคะดีหนึ่งต่างหาก | น่า | ๒๐๑๙ | ||||
มาตรา๖๕จำเลยไม่มาตามนัด มาแต่โจทย์ ให้พิจารณาไปฝ่ายเดียวและตัดสินตามรูปความ | น่า | ๒๐๒๑ | ||||
มาตรา๖๖คู่ความขาดนัด ศาลยกฟ้องแล้ว คู่ความมาพิสูทธ์ใน ๑๕ วัน ศาลเห็นจริงด้วย ให้พิจารณาคนใหม่ แต่ต้องยกไปไว้ท้ายบาญชีตามลำดับ | น่า | ๒๐๒๐ | ||||
มาตรา๖๗เลื่อนวันพิจารณาได้ | น่า | ๒๐๒๒ | ||||
มาตรา๖๘คู่ความถูกไล่ออกจากศาล ให้พิจารณาคะดีนั้นต่อไป | น่า | ๒๐๒๒ | ||||
หมวดที่ ๑๐ ว่าด้วยบังคับในกระบวนพิจารณา | ||||||
มาตรา๖๙บัตรหมายทั้งปวงต้องให้พนักงานในศาลถือไป | น่า | ๒๐๒๒ | ||||
มาตรา๗๐พนักงานถือบัตรหมาย ต้องไปแต่กลางวัน | น่า | ๒๐๒๓ | ||||
มาตรา๗๑ผู้ที่จะรับหมายไม่อยู่ ให้ฝากผู้ที่อยู่แห่งเดียวกันซึ่งมีอายุ ๒๐ ปีขึ้นไปก็ได้ | น่า | ๒๐๒๓ | ||||
มาตรา๗๒ถ้าไม่ได้ตัวคนมาตามหมาย ศาลจะสั่งให้ทำอย่างอื่นก็ได้ | น่า | ๒๐๒๔ | ||||
มาตรา๗๓ห้ามไม่ให้เรียกประกันคู่ความ | น่า | ๒๐๒๔ | ||||
มาตรา๗๔ผู้แพ้ต้องเสียค่าธรรมเนียม เว้นแต่โจทย์ชะนะไม่เต็มข้อหา ศาลจะบังคับให้ช่วยกันเสียก็ได้ | น่า | ๒๐๒๕ | ||||
หมวดที่ ๑๑ ว่าด้วยวางเงินกลางศาล | ||||||
มาตรา๗๕จำเลยวางเงินกลางศาลได้ | น่า | ๒๐๒๖ | ||||
มาตรา๗๖บอกโจทย์ให้ทราบว่าวางเงิน | น่า | ๒๐๒๖ | ||||
มาตรา๗๗เมื่อบอกโจทย์แล้ว จำเลยไม่ต้องเสียดอกเบี้ยในเงินที่วาง | น่า | ๒๐๒๗ | ||||
มาตรา๗๘การพิจารณาเมื่อโจทย์รับเงินไปไม่ยอมเสร็จ | น่า | ๒๐๒๗ | ||||
มาตรา๗๙โจทย์รับเงินวางศาลเปนเสร็จ | น่า | ๒๐๒๗ | ||||
หมวดที่ ๑๒ ว่าด้วยถอนฟ้องและยอมความกัน | ||||||
มาตรา๘๐ศาลยอมให้โจทย์ถอนฟ้องและฟ้องใหม่ได้ | น่า | ๒๐๒๘ | ||||
มาตรา๘๑โจทย์ถอนฟ้องเอง ฟ้องใหม่อีกไม่ได้ | น่า | ๒๐๒๙ | ||||
มาตรา๘๒ฟ้องใหม่ต้องอยู่ในกำหนดความ | น่า | ๒๐๒๙ | ||||
มาตรา๘๓ยอมความกัน | น่า | ๒๐๒๙ | ||||
มาตรา๘๔การเร่งตามตัดสินไม่เกี่ยวหมวดนี้ | น่า | ๒๐๓๐ | ||||
หมวดที่ ๑๓ ลักษณจดถ้อยคำสำนวน | ||||||
มาตรา๘๕ให้เขียนถ้อยคำด้วยน้ำหมึก ไม่ให้ขูดแก้ ถ้ามีบุบฉลาย ให้มีสำคัญไว้ข้างท้าย | น่า | ๒๐๓๐ | ||||
มาตรา๘๖การรักษาสำนวนไม่ต้องตีตรา ถ้าโจทย์จำเลยฤๅพยานสงไสย ก็ให้คัดสำเนาให้ | น่า | ๒๐๓๑ | ||||
หมวดที่ ๑๔ ว่าด้วยหมายบังคับฤๅหมายสั่ง | ||||||
มาตรา๘๗หมายบังคับฤๅหมายสั่ง | น่า | ๒๐๓๑ | ||||
มาตรา๘๘หมายบังคับ หมายคำสั่ง ออกเมื่อคู่ความขอ | น่า | ๒๐๓๒ | ||||
มาตรา๘๙กำหนดวันให้ทำตามหมาย | น่า | ๒๐๓๒ | ||||
มาตรา๙๐จดหมายบันทึกในหมายให้ใช้เงิน | น่า | ๒๐๓๓ | ||||
มาตรา๙๑จดหมายบันทึกในหมายที่ให้ทำการอย่างอื่น | น่า | ๒๐๓๓ | ||||
มาตรา๙๒เร่งรัดคนที่มิใช่ตัวความตามหมายคำสั่ง | น่า | ๒๐๓๔ | ||||
หมวดที่ ๑๕ ว่าด้วยหมายเรียกผู้แพ้คะดีมาไต่สวน | ||||||
มาตรา๙๓ผู้ชะนะความขอให้หมายเรียกผู้แพ้มาไต่สวนได้ | น่า | ๒๐๓๔ | ||||
มาตรา๙๔ไต่สวนผู้แพ้คะดี | น่า | ๒๐๓๕ | ||||
มาตรา๙๕ผู้แพ้ไม่มาศาลสืบพยานตามที่เห็นสมควรได้ | น่า | ๒๐๓๕ | ||||
หมวดที่ ๑๖ ว่าด้วยการบังคับเร่งให้สำเร็จตามคำพิพากษา | ||||||
มาตรา๙๖ผู้เสียเงินไม่ยอม ผู้ได้จะขอให้ศาลบังคับเอาทรัพย์สมบัติมาตีใช้ให้ก็ได้ แต่ต้องเสียค่าธรรมเนียม | น่า | ๒๐๓๖ | ||||
มาตรา๙๗ผู้ถูกเร่งร้องขอทุเลา | น่า | ๒๐๓๖ | ||||
มาตรา๙๘ศาลมีอำนาจที่จะยึดทรัพย์ของผู้แพ้ได้ | น่า | ๒๐๓๗ | ||||
มาตรา๙๙ทรัพย์สมบัติที่ยึดไว้นั้นต้องรักษาไว้ ๕ วันก่อน จึงขายทอดตลาดได้ | น่า | ๒๐๓๗ | ||||
มาตรา๑๐๐ยึดหนังสือหลักทรัพย์ไว้เปนประกันเงินที่ค้างผู้ถูกเร่ง | น่า | ๒๐๓๘ | ||||
มาตรา๑๐๑ในระหว่างที่ยึดทรัพย์สมบัติไว้ ถ้าผู้ต้องเสียนำเงินมาไถ่ก็ให้คืนให้ | น่า | ๒๐๓๘ | ||||
มาตรา๑๐๒ให้ยึดทรัพย์สมบัติแต่พอกับราคาเงินในคำตัดสิน | น่า | ๒๐๓๙ | ||||
มาตรา๑๐๓การขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดไว้ ต้องให้ผู้ขอให้เร่งมาร้องขอยืนให้ขาย | น่า | ๒๐๓๙ | ||||
มาตรา๑๐๔การขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดไว้ ต้องมีหลักถานว่าเปนของผู้ถูกเร่ง ถ้าผู้อื่นมาร้องว่าเปนของตน ให้ศาลไต่สวนในระหว่างผู้ร้องกับผู้ขอให้ออกหมาย | น่า | ๒๐๓๙ | ||||
มาตรา๑๐๕ถ้าขายทอดตลาดทรัพย์สมบัติได้เงินเกินกว่าที่ตัดสินไว้ ให้คืนแก่เจ้าของทรัพย์ | น่า | ๒๐๔๐ | ||||
มาตรา๑๐๖เจ้าพนักงานไม่ยึดทรัพย์ในเวลาที่ควร ต้องใช้เงินที่ขาดไป | น่า | ๒๐๔๐ | ||||
มาตรา๑๐๗ออกหมายข้ามแขวง | น่า | ๒๐๔๑ | ||||
หมวดที่ ๑๗ ว่าด้วยลงโทษผู้ที่ไม่ทำตามคำบังคับ | ||||||
มาตรา๑๐๘ผู้ไม่ทำตามหมายบังคับฤๅหมายคำสั่ง | น่า | ๒๐๔๑ | ||||
มาตรา๑๐๙ไม่มาชี้แจงเหตุฤๅไม่มีเหตุแก้ตัว | น่า | ๒๐๔๒ | ||||
มาตรา๑๑๐ลงโทษผู้ไม่ทำตามหมาย | น่า | ๒๐๔๓ | ||||
หมวดที่ ๑๘ ว่าด้วยลักษณอุทธรณ์ | ||||||
มาตรา๑๑๑กระบวนอุทธรณ์ | น่า | ๒๐๔๔ | ||||
มาตรา๑๑๒จำเลยได้ยื่นคำแก้อุทธรณ์แล้ว ให้ศาลส่งสำนวนทั้งหมดในกำหนด ๗ วัน และคู่ความไม่ต้องไปยังศาลก็ได้ | น่า | ๒๐๔๕ | ||||
มาตรา๑๑๓ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาความเปนลำดับ และให้ปิดประกาศวันนัดไว้ยังศาล | น่า | ๒๐๔๖ | ||||
มาตรา๑๑๔ศาลอุทธรณ์พิพากษาได้ต่างกัน ๕ สฐาน และให้ชี้แจงไปยังศาลเดิมด้วย | น่า | ๒๐๔๗ | ||||
มาตรา๑๑๕คู่ความอุทธรณ์ได้เปนลำดับศาลขึ้นไป ถ้าจะถวายฎีกา ให้ถวายในกำหนดเดือนหนึ่ง | น่า | ๒๐๔๗ | ||||
หมวดที่ ๑๙ อนุญาโตตุลาการ | ||||||
มาตรา๑๑๖คู่ความจะขอผู้ใดให้เปนอนุญาโตตุลาการตัดสินก็ได้ | น่า | ๒๐๔๘ | ||||
มาตรา๑๑๗ศาลจะมีหมายเชิญผู้ที่คู่ความขอให้เปนอนุญาโตตุลาการไม่ได้ ฤๅผู้นั้นไม่รับ จะขอผู้อื่นต่อไปก็ได้ | น่า | ๒๐๔๘ | ||||
มาตรา๑๑๘ถ้าอนุญาโตตุลาการทราบความเห็นแตกต่างกัน ให้เลือกอนุญาโตตุลาการคนหนึ่งเปนประธาน | น่า | ๒๐๔๙ | ||||
มาตรา๑๑๙อนุญาโตตุลาการจะตรวจถ้อยคำสำนวนฤๅจะเรียกพยานมาด้วย ให้ศาลเปนธุระ | น่า | ๒๐๔๙ | ||||
มาตรา๑๒๐ศาลตัดสินตามความเห็นของอนุญาโตตุลาการ และค่าฤชาธรรมเนียม และค่าป่วยการ | น่า | ๒๐๔๙ | ||||
มาตรา๑๒๑ศาลตัดสินแล้ว คู่ความจะอุทธรณ์ไม่ได้ เว้นแต่คำตัดสินไม่ถูกกับคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ | น่า | ๒๐๕๐ | ||||
หมวดที่ ๒๐ ว่าด้วยคนอนาถา | ||||||
มาตรา๑๒๒คนอนาถาฟ้องความได้ | น่า | ๒๐๕๐ | ||||
มาตรา๑๒๓จำเลยยากจน ศาลยอมให้ว่าความอย่างคนอนาถาได้ | น่า | ๒๐๕๑ | ||||
มาตรา๑๒๔ผู้ใดจะว่าความอย่างคนอนาถา ต้องสาบาลก่อน | น่า | ๒๐๕๑ | ||||
มาตรา๑๒๕ไม่ให้เรียกค่าธรรมเนียมจากคู่ความอนาถา | น่า | ๒๐๕๑ | ||||
มาตรา๑๒๖คู่ความเปนคนอนาถา ภายหลังมีทรัพย์สมบัติ ฤๅตัดสินให้ฝ่ายหนึ่งใช้แทน ศาลเรียกค่าธรรมเนียมได้ | น่า | ๒๐๕๒ | ||||
มาตรา๑๒๗คู่ความละเมิดศาลฤๅประวิงความ ศาลจะถอนอนุญาตเสีก็ได้ | น่า | ๒๐๕๒ | ||||
มาตรา๑๒๘โจทย์แกล้งกล่าวหาโดยความเท็จ ต้องขังไม่เกิน ๖ เดือน | น่า | ๒๐๕๒ | ||||
มาตรา๑๒๙ปรับโทษทนสาบาล | น่า | ๒๐๕๓ | ||||
หมวดที่ ๒๑ ว่าต่างแก้ต่าง | ||||||
มาตรา๑๓๐คู่ความจะแต่งทนายได้ แต่ถ้าศาลจะให้ตัวมาเองก็ได้ | น่า | ๒๐๕๒ | ||||
มาตรา๑๓๑คู่ความหลายคนจะแต่งทนายรวมกันฤๅแยกกันก็ได้ แต่ทนายคนเดียวจะว่าความทั้งสองฝ่ายไม่ได้ | น่า | ๒๐๕๔ | ||||
มาตรา๑๓๒หนังสือไว้ความจะทำที่ศาลใดฤๅทำต่อเจ้าพนักงานก็ได้ แต่อย่าให้เปนที่สงไสย | น่า | ๒๐๕๔ | ||||
มาตรา๑๓๓ถ้าตัวความเปนเด็กฤๅสติฟั่นเฟือน ให้ศาลตั้งผู้รับไว้ความ | น่า | ๒๐๕๔ | ||||
หมวดที่ ๒๒ ว่าด้วยตัวความตายในระหว่างพิจารณา | ||||||
มาตรา๑๓๔ตัวความตายฝ่ายหนึ่ง ขอให้เรียกผู้รับมรฎกมาว่าต่อไปก็ได้ | น่า | ๒๐๕๕ | ||||
มาตรา๑๓๕คำร้องขอให้เรียกผู้รับมรฎกของตัวความที่ตายมาว่าคะดี ถ้าศาลเห็นควร ก็ให้ออกหมาย | น่า | ๒๐๕๕ | ||||
มาตรา๑๓๖ผู้รับมรฎกจะมีคำตัดได้ใน ๘ วัน | น่า | ๒๐๕๖ | ||||
มาตรา๑๓๗ถ้าศาลเห็นชอบด้วยคำตัดแล้ว ให้ยกคำร้องเสีย | น่า | ๒๐๕๖ | ||||
มาตรา๑๓๘ผู้ที่ต้องว่าที่ตัวความตายนั้นจะว่าเองฤๅแต่งทนายว่าก็ได้ | น่า | ๒๐๕๗ | ||||
หมวดที่ ๒๓ ว่าด้วยละเมิดอำนาจศาล | ||||||
มาตรา๑๓๙โทษผู้ปลอมเข้ามาว่าความ | น่า | ๒๐๕๗ | ||||
มาตรา๑๔๐โทษผู้หมิ่นประมาทผู้พิพากษาและศาล | น่า | ๒๐๕๗ | ||||
มาตรา๑๔๑ผู้พิพากษาจะสั่งให้จับผู้หมิ่นประมาทคุมขังไว้ได้ | น่า | ๒๐๕๘ | ||||
หมวดที่ ๒๔ ว่าด้วยพระราชกำหนดกฎหมายเดิม | ||||||
มาตรา๑๔๒ยกเลิกกฎหมายเดิม | น่า | ๒๐๕๘ | ||||
๓๖๕ | ประกาศสำหรับข้าหลวงพิเศษจัดตั้งศาลหัวเมืองจะกำหนดโทษผู้แพ้คดีมีโทษหลวง ร,ศ, ๑๑๕ | น่า | ๒๐๗๔ | |||
๓๖๖ | ประกาศตั้งกรรมการพิเศษ ๒ นายให้สระสางล้างความเก่าในหัวเมือง | น่า | ๒๐๗๕ | |||
๓๖๗ | พระราชบัญญัติว่าด้วยไม้ซุงและไม้ท่อนที่ดวงตราลบเลือน ร,ศ, ๑๑๕ รวม ๑๑ มาตรา | น่า | ๒๐๗๘ | |||
๓๖๘ | ประกาศพระราชบัญญัติสัตว์พาหะนะ แก้ไขใหม่ ร,ศ, ๑๑๕ | น่า | ๒๐๘๕ | |||
๓๖๙ | พระราชบัญญัติชั่วสมัยสำหรับป้องกันโรคสัตว์พาหะนะ ร,ศ, ๑๑๕ รวม ๑๓ มาตรา | น่า | ๒๐๘๖ | |||
๓๗๐ | พระราชบัญญัติยกเลิกวิธีพิจารณาโจรผู้ร้ายตามจารีตนครบาล ร,ศ, ๑๑๕ รวม ๓ มาตรา | น่า | ๒๐๘๙ | |||
๓๗๑ | ประกาศเปลี่ยนตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงยุติธรรม ร,ศ, ๑๑๕ | น่า | ๒๐๙๒ | |||
๓๗๒ | ประกาศสำหรับสนามสถิตย์ยุติธรรมจะกำหนดโทษผู้แพ้คะดีมีโทษหลวง ร,ศ, ๑๑๕ | น่า | ๒๐๙๓ | |||
๓๗๓ | พระราชกำหนดผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ร,ศ, ๑๑๕ รวม ๓๐ มาตรา | น่า | ๒๐๙๔ | |||
๓๗๔ | ประกาศในการเสด็จพระราชดำเนินประพาศณะประเทศยุโรป ร,ศ, ๑๑๕ | น่า | ๒๑๐๗ | |||
๓๗๕ | ประกาศเปลี่ยนผู้บัญชาการกรมยุทธนาธิการ ร,ศ, ๑๑๕ | น่า | ๒๑๑๐ | |||
๓๗๖ | ประกาศเจ้าพระยาสุริศักดิ์มนตรีกราบถวายบังคมลาออกจากตำแหน่ง ร,ศ, ๑๑๕ | น่า | ๒๑๑๒ | |||
๓๗๗ | ประกาศเงินค่าราชการขุนหมื่นและไพร่หลวง ร,ศ, ๑๑๕ | น่า | ๒๑๑๓ | |||
๓๗๘ | ประกาศเลิกกรรมการพิเศษชำระความนา ร,ศ, ๑๑๕ | น่า | ๒๑๑๔ | |||
๓๗๙ | พระราชบัญญัติการขายฝากและการจำนำที่ดิน ร,ศ, ๑๑๕ รวม ๓ มาตรา | น่า | ๒๑๑๖ | |||
๓๘๐ | ประกาศตั้งผู้แทนเสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ ร,ศ, ๑๑๖ | น่า | ๒๑๒๐ | |||
๓๘๑ | พระราชบัญญัติว่าด้วยน่าที่ราชการซึ่งเกี่ยวข้องกันอยู่ในระหว่างกระทรวงนครบาลและกระทรวงยุติธรรม ร,ศ, ๑๑๖ รวม ๕ มาตรา | น่า | ๒๑๒๑ | |||
๓๘๒ | ประกาศในการที่จะออกพระนามสมเด็จพระบรมราชินีนราถ ร,ศ, ๑๑๖ | น่า | ๒๑๒๕ | |||
๓๘๓ | ประกาศตราตำแหน่งราชเลขานุการแห่งสมเด็จพระบรมราชินีนารถซึ่งสำเร็จราชการแผ่นดินต่างพระองค์ ร,ศ, ๑๑๖ | น่า | ๒๑๒๗ | |||
๓๘๔ | พระราชบัญญัติธง ร,ศ, ๑๑๖ รวม ๕ มาตรา | น่า | ๒๑๒๗ | |||
๓๘๕ | ประกาศแก้ไขเพิ่มเติมเรื่องห้ามเรื่องมาจากซัวเถา ร,ศ, ๑๑๖ | น่า | ๒๑๓๗ | |||
๓๘๖ | พระราชบัญญัติลักษณปกครองท้องที่ ร,ศ, ๑๑๖ | น่า | ๒๑๓๙ | |||
หมวดที่ ๑ ว่าด้วยนามและการที่ใช้และรักษาพระราชบัญญัติ | ||||||
มาตรา๑นามพระราชบัญญัติ | น่า | ๒๑๓๙ | ||||
มาตรา๒ใช้พระราชบัญญัติ | น่า | ๒๑๔๐ | ||||
มาตรา๓เสนาบดีกระทรวงมหาดไทยเปนผู้รักษาพระราชบัญญัติ | น่า | ๒๑๔๐ | ||||
มาตรา๔เสนาบดีกระทรวงมหาดไทยและข้าหลวงเทศาภิบาลมีอำนาจที่จะตั้งกฎสำหรับพนักงาน | น่า | ๒๑๔๐ | ||||
มาตรา๕กำหนดเขตร์ที่ | น่า | ๒๑๔๐ | ||||
มาตรา๖ยกเลิกกฎหมายเก่า | น่า | ๒๑๔๑ | ||||
หมวดที่ ๒ ว่าด้วยอธิบายศัพท์ที่ใช้ในพระราชบัญญัติ | ||||||
มาตรา๗อธิบายศัพท์ | น่า | ๒๑๔๑ | ||||
หมวดที่ ๓ ว่าด้วยลักษณปกครองหมู่บ้าน | ||||||
มาตรา๘กำหนดหมู่บ้าน | น่า | ๒๑๔๒ | ||||
มาตรา๙เลือกผู้ใหญ่บ้าน | น่า | ๒๑๔๒ | ||||
มาตรา๑๐วุฒิผู้ใหญ่บ้าน | น่า | ๒๑๔๓ | ||||
มาตรา๑๑ตั้งผู้ใหญ่บ้าน | น่า | ๒๑๔๔ | ||||
มาตรา๑๒น่าที่ผู้ใหญ่บ้านรักษาความเรียบร้อย | น่า | ๒๑๔๔ | ||||
มาตรา๑๓โทษลูกบ้านไม่ช่วยจับโจรและดับไฟ | น่า | ๒๑๔๖ | ||||
มาตรา๑๔โทษลูกบ้านละเมิดผู้ใหญ่บ้าน | น่า | ๒๑๔๗ | ||||
มาตรา๑๕โทษผู้ใหญ่บ้านละเมิดน่าที่ | น่า | ๒๑๔๗ | ||||
มาตรา๑๖เหตุที่ผู้ใหญ่บ้านต้องออก | น่า | ๒๑๔๗ | ||||
มาตรา๑๗เหตุต้องตั้งผู้ใหญ่บ้าน | น่า | ๒๑๔๘ | ||||
มาตรา๑๘กำนันมอบทะเบียนแลเปลี่ยนหมายตั้งสำหรับผู้ใหญ่บ้าน | น่า | ๒๑๔๙ | ||||
มาตรา๑๙ผู้ใหญ่บ้านทำการแทนกัน | น่า | ๒๑๕๐ | ||||
มาตรา๒๐ผู้ใหญ่บ้านต้องถือน้ำ | น่า | ๒๑๕๐ | ||||
มาตรา๒๑ยกราชการอย่างอื่นพระราชทานให้ผู้ใหญ่บ้าน | น่า | ๒๑๕๐ | ||||
หมวดที่ ๔ ว่าด้วยลักษณปกครองตำบล | ||||||
มาตรา๒๒กำหนดตำบล | น่า | ๒๑๕๑ | ||||
มาตรา๒๓ผู้ใหญ่บ้านเลือกกำนัน | น่า | ๒๑๕๑ | ||||
มาตรา๒๔การปกครองตำบลที่อยู่ในน่าที่กำนันกับผู้ใหญ่บ้าน | น่า | ๒๑๕๑ | ||||
มาตรา๒๕เหตุซึ่งกำนันควรเรียกผู้ใหญ่บ้านประชุมกัน | น่า | ๒๑๕๒ | ||||
มาตรา๒๖น่าที่กำนัน | น่า | ๒๑๕๖ | ||||
มาตรา๒๗อำนาจกำนัน | น่า | ๒๑๕๙ | ||||
มาตรา๒๘โทษกำนันละเมิดน่าที่ | น่า | ๒๑๖๑ | ||||
มาตรา๒๙เหตุที่ต้องเปลี่ยนกำนัน | น่า | ๒๑๖๑ | ||||
มาตรา๓๐ตั้งกำนัน | น่า | ๒๑๖๒ | ||||
มาตรา๓๑ผู้ใหญ่บ้านทำการแทนกำนัน | น่า | ๒๑๖๓ | ||||
มาตรา๓๒สารวัตตำบล | น่า | ๒๑๖๓ | ||||
หมวดที่ ๕ ว่าด้วยลักษณปกครองอำเภอและเมืองขึ้น | ||||||
มาตรา๓๓กำนันอำเภอ | น่า | ๒๑๖๔ | ||||
มาตรา๓๔ตำแหน่งกรมการอำเภอ | น่า | ๒๑๖๔ | ||||
มาตรา๓๕วิธีเลือกนายอำเภอและวุฒินายอำเภอ | น่า | ๒๑๖๔ | ||||
มาตรา๓๖วิธีเลือกปลัดและสมุห์บาญชีอำเภอ | น่า | ๒๑๖๕ | ||||
มาตรา๓๗ข้าหลวงเทศาภิบาลและสมุห์บาญชีอำเภอ | น่า | ๒๑๖๖ | ||||
มาตรา๓๘ตราตำแหน่งนายอำเภอ | น่า | ๒๑๖๖ | ||||
มาตรา๓๙ข้าหลวงเทศาภิบาลมีอำนาจเปลี่ยนกรมการอำเภอ | น่า | ๒๑๖๖ | ||||
มาตรา๔๐น่าที่กรมการอำเภอ | น่า | ๒๑๖๗ | ||||
มาตรา๔๑น่าที่รักษาความเรียบร้อยในท้องที่ | น่า | ๒๑๖๗ | ||||
มาตรา๔๒น่าที่จัดการปกครอง | น่า | ๒๑๖๘ | ||||
มาตรา๔๓น่าที่ตรวจท้องที่ | น่า | ๒๑๗๐ | ||||
มาตรา๔๔น่าที่สืบจับโจรผู้ร้าย | น่า | ๒๑๗๑ | ||||
มาตรา๔๕น่าที่คุมขังนักโทษ | น่า | ๒๑๗๒ | ||||
มาตรา๔๖น่าที่เรียกตัวคนส่ง | น่า | ๒๑๗๓ | ||||
มาตรา๔๗น่าที่รับอายัติทำชัณสูตรแลตราสิน | น่า | ๒๑๗๔ | ||||
มาตรา๔๘น่าที่ทำบริคณห์สัญญาและหนังสือสำคัญ | น่า | ๒๑๗๖ | ||||
มาตรา๔๙น่าที่ทำทะเบียน | น่า | ๒๑๗๘ | ||||
มาตรา๕๐น่าที่รักษาผลประโยชน์ | น่า | ๒๑๗๙ | ||||
มาตรา๕๑น่าที่ประกาศข้อราชการ | น่า | ๒๑๘๐ | ||||
มาตรา๕๒น่าที่เพิ่มเติม | น่า | ๒๑๘๐ | ||||
มาตรา๕๓น่าที่ช่วยการอำเภออื่น | น่า | ๒๑๘๑ | ||||
มาตรา๕๔น่าที่ทำรายงาน | น่า | ๒๑๘๒ | ||||
มาตรา๕๕อำนาจกรมการอำเภอ | น่า | ๒๑๘๒ | ||||
มาตรา๕๖กรมการอำเภอต้องกระทำสัตย์ เมื่อแรกรับตำแหน่งต้องถือน้ำ และจัดการที่กำนันผู้ใหญ่บ้านถือน้ำ | น่า | ๒๑๘๕ | ||||
๓๘๗ | ประกาศขอบใจข้าราชการ ร.ศ. ๑๑๖ | น่า | ๒๑๘๕ | |||
๓๘๘ | ประกาศว่าด้วยเรียกค่าธรรมเนียมฎีกา ร.ศ. ๑๑๖ | น่า | ๒๑๘๗ | |||
๓๘๙ | ประกาศลักษณปกครองท้องที่สำหรับมณฑลกรุงเทพฯ ร.ศ. ๑๑๖ | น่า | ๒๑๘๘ | |||
๓๙๙ | ประกาศตั้งศาลมณฑลกรุงเก่า ร.ศ. ๑๑๖ | น่า | ๒๑๘๙ | |||
๔๐๐ | พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพิกัดภาษีภายใน ร.ศ. ๑๑๖ | น่า | ๒๑๙๑ | |||
๔๐๑ | ประกาศแก้พระธรรมนูญศาลหัวเมือง ร.ศ. ๑๑๖ | น่า | ๒๑๙๒ | |||
๔๐๒ | ประกาศตั้งข้าหลวงพิเศษจัดการศาลยุติธรรมมณฑลปาจิณบูรี ร.ศ. ๑๑๖ | น่า | ๒๑๙๔ | |||
๔๐๓ | ประกาศจัดการป้องกันกาฬโรคเพิ่มเติม ร.ศ. ๑๑๖ | น่า | ๒๑๙๕ | |||
๔๐๔ | ประกาศตั้งศาลเมืองเมืองสระบุรี ร.ศ. ๑๑๖ | น่า | ๒๒๐๐ | |||
๔๐๖ | พระราชกำหนดแก้ความในพระราชบัญญัติกรมกระสาปน์สิทธิการ ร.ศ. ๑๑๖ | น่า | ๒๒๐๐ | |||
๔๐๗ | ประกาศกระทรวงนครบาล เรื่อง กำหนดผูกปี้จน จำนวนปีรัตนโกสินทรศก ๑๑๖ | น่า | ๒๒๐๑ | |||
๔๐๘ | พระราชกำหนดไปรสนีย์ ร.ศ. ๑๑๖ | น่า | ๒๒๐๖ | |||
พระราชดำริห์ | น่า | ๒๒๐๗ | ||||
ภาคที่ ๑ ว่าด้วยข้อบังคับทั่วไปในกรมไปรสนีย์ | ||||||
หมวดที่๑ว่าด้วยนามและกำหนดใช้ | น่า | ๒๒๐๘ | ||||
หมวดที่๒ว่าด้วยรัฐบาลสยามมีอำนาจฝ่ายเดียวในการถือสรรพหนังสือฝากส่งไปในที่ต่าง ๆ | น่า | ๒๒๐๘ | ||||
หมวดที่๓บังคับนายเรือและเจ้าของเรือ | น่า | ๒๒๐๒ | ||||
หมวดที่๔ว่าด้วยความรับประกัน | น่า | ๒๒๑๓ | ||||
หมวดที่๕ว่าด้วยอำนาจพิเศษในประโยชน์ของกรมไปรสนีย์ | น่า | ๒๒๑๖ | ||||
ภาคที่ ๒ ว่าด้วยโทษานุโทษ | ||||||
หมวดที่๖สำหรับมหาชน | น่า | ๒๒๑๙ | ||||
หมวดที่๗สำหรับนายเรือกำปั่น | น่า | ๒๒๒๑ | ||||
หมวดที่๘สำหรับเจ้าพนักงาน | น่า | ๒๒๒๒ | ||||
หมวดที่๙ว่าด้วยแสตมป์ไปรสนีย์ปลอม | น่า | ๒๒๒๔ | ||||
ภาคที่ ๓ ว่าด้วยข้อบังคับพิเศษ | ||||||
หมวดที่๑๐ว่าด้วยการทำโทษและฟ้องร้อง | น่า | ๒๒๒๕ | ||||
๔๐๙ | ประกาศอัตราค่าธรรมเนียม ร.ศ. ๑๑๖ | น่า | ๒๒๒๖ | |||
๔๑๐ | พระราชกำหนดว่าด้วยภาษีน้ำตาล ร.ศ. ๑๑๖ แก้ความในพระราชบัญญัติพิกัดภาษีภายใน ร.ศ. ๑๑๑ | น่า | ๒๒๓๐ | |||
๔๑๑ | ประกาศว่าด้วยผู้ซึ่งจะทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา ร.ศ. ๑๑๖ | น่า | ๒๒๓๑ | |||
๔๑๒ | ประกาศแก้ไขข้อบังคับสำหรับการป้องกันผู้ร้ายลักช้าง ร.ศ. ๑๑๖ | น่า | ๒๒๓๒ | |||
๔๑๓ | ประกาศการรักษาป่าไม้ ร.ศ. ๑๑๖ รวม ๖ มาตรา | น่า | ๒๒๓๓ | |||
๔๑๔ | พระราชบัญญัติว่าด้วยอั้งยี่ ร.ศ. ๑๑๖ รวม ๑๘ มาตรา | น่า | ๒๒๓๖ | |||
๔๑๕ | ประกาศเรื่องจัดศาลยุติธรรมในมณฑลปาจิณบุรี ร.ศ. ๑๑๖ | น่า | ๒๒๔๔ | |||
๔๑๖ | ประกาศเรื่องจัดศาลยุติธรรมในมณฑลนครศรีธรรมราช ร.ศ. ๑๑๖ | น่า | ๒๒๔๕ | |||
๔๑๗ | ข้อบังคับของทางรถไฟสยาม ร.ศ. ๑๑๖ รวม ๓๒ ข้อ | น่า | ๒๒๔๗ | |||
๔๑๘ | ประกาศตั้งเจ้าพนักงานผู้จดทะเบียนอั้งยี่ ร.ศ. ๑๑๖ | น่า | ๒๒๖๒ | |||
๔๑๙ | พระราชกำหนดศุขาภิบาล ร.ศ. ๑๑๖ รวม ๒๓ มาตรา | น่า | ๒๒๖๒ | |||
หมวดที่๑ว่าด้วยตั้งเจ้าพนักงานแพทย์สำหรับตรวจโรคกับช่างใหญ่ | น่า | ๒๒๖๕ | ||||
หมวดที่๒ว่าด้วยการศุขาภิบาลที่กำหนดให้จัดให้ดีขึ้น | น่า | ๒๒๖๙ | ||||
หมวดที่๓ว่าด้วยกฎข้อบังคับที่จะขยายจังหวัดการศุขาภิบาลให้กว้างขวางต่อไป | น่า | ๒๒๗๗ | ||||
หมวดที่๔ว่าด้วยข้อความเบ็ดเตล็ด | น่า | ๒๒๗๙ | ||||
๔๒๐ | ประกาศตั้งเจ้าพนักงานกรมศุขาภิบาล ร.ศ. ๑๑๖ | น่า | ๒๒๘๐ | |||
๔๒๑ | พระราชบัญญัติรักษาต้นไม้สัก ร.ศ. ๑๑๖ | น่า | ๒๒๘๐ | |||
๔๒๒ | ประกาศเลิกพระราชบัญญัติจัดการป้องกันกาฬโรค ร.ศ. ๑๑๖ | น่า | ๒๒๘๒ | |||
๔๒๓ | พระราชบัญญัติสำหรับแต่งงานคนต่างประเทศในกรุงสยาม ร.ศ. ๑๑๖ รวม ๔ มาตรา | น่า | ๒๒๘๓ | |||
๔๒๔ | ประกาศกระทรวงนครบาล เตือนให้จีนที่ยังไม่ได้ผูกปี้เร่งมาผูกปี้ ร.ศ. ๑๑๖ | น่า | ๒๒๘๖ | |||
๔๒๕ | พระราชกำหนดเครื่องแต่งตัวทหารราบ ร.ศ. ๑๑๖ | น่า | ๒๒๙๘ | |||
๔๒๖ | ประกาศตั้งผู้บัญชาการกรมศุขาภิบาล ร.ศ. ๑๑๖ | น่า | ๒๒๙๔ | |||
๔๒๗ | ประกาศห้ามมิให้คู่ความเก็บเอาคะดีที่ศาลโบริสภาตัดสินแล้วมาฟ้องต่อศาลแพ่ง ศาลอาญา ก่อนได้รับอนุญาตของศาลสูงนั้น ร.ศ. ๑๑๖ | น่า | ๒๒๙๖ | |||
๔๒๘ | พระราชหัดถเลขาเรียกปล่อยและงดโทษนักโทษ ร.ศ. ๑๑๖ | น่า | ๒๒๙๘ | |||
๔๒๙ | ประกาศตั้งศาลยุติธรรมในมณฑลพิศณุโลกย์ ร.ศ. ๑๑๖ | น่า | ๒๓๐๐ | |||
๔๓๐ | ประกาศขับไล่ ร.ศ. ๑๑๖ | น่า | ๒๓๐๑ |
งานนี้ ปัจจุบันเป็นสาธารณสมบัติแล้ว เพราะลิขสิทธิ์ได้หมดอายุตามมาตรา 19 และมาตรา 20 ของพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ซึ่งระบุว่า
- ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นบุคคลธรรมดา
- ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ถึงแก่ความตาย
- ถ้ามีผู้สร้างสรรค์ร่วม ลิขสิทธิ์หมดอายุ
- เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายถึงแก่ความตาย หรือ
- เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก ในกรณีที่ไม่เคยโฆษณางานนั้นเลยก่อนที่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายจะถึงแก่ความตาย
- ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นนิติบุคคล หรือถ้าไม่รู้ตัวผู้สร้างสรรค์
- ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้สร้างสรรค์งานนั้นขึ้น
- แต่ถ้าได้โฆษณางานนั้นในระหว่าง 50 ปีข้างต้น ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก