คำพิพากษาศาลจังหวัดชลบุรี ในคดีหมายเลขแดงที่ 1237/2550
คำพิพากษา | คดีหมายเลขดำที่ ๙๗๘/๒๕๕๐
คดีหมายเลขแดงที่ ๑๒๓๗/๒๕๕๐ |
วันที่ ๓ เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐
ระหว่าง | พนักงานอัยการจังหวัดชลบุรี | โจทก์ | |||
นายณัชกฤช จึงรุ่งฤทธิ์ | จำเลย | ||||
เรื่อง | หมิ่นประมาท |
โจทก์ฟ้อง จำเลยให้การรับสารภาพ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๔๘ เวลากลาง จำเลย ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้จัดรายการสถานีวิทยุชุมชน ชื่อรายการ "ช่วยกันคิดช่วยกันแก้" ที่คลื่นความถี่ ๙๓.๒๕ เม็กกะเฮิร์ต ได้บังอาจโฆษณาโดยการกระจายเสียงในรายการ "ช่วยกันคิดช่วยกันแก้" ที่คลื่นความ ๙๓.๒๕ เม็กกะเฮิร์ต มีข้อความว่า "ท่านผู้ฟังครับ ในรายการที่ช่วยกันคิดช่วยกันแก้ เบอร์โทรก็ ๐๓๘-๔๔๓๘๘๘ เมื่อสักครู่ มีเบอร์โทรเข้ามาหลังไมค์ มาสอบถามเรื่องว่า ทำไมคุณณัชกฤชสอบตก เพราะสาเหตุใด สาเหตุใด เราไม่ต้องพูดถึงหรอกครับ เอาว่า การที่เราสอบตกนั้นเนี้ยะ ทุกวันผมเดินด้วยความภาคภูมิใจในตัวเรานะครับว่า เราคงยึดอุดมการณ์ แล้วก็มีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ให้กับท่านผู้ฟังได้ทราบด้วยวว่า ทำไมละ คุณต้องลงสมัครแข่งกับเขา ท่านผู้ฟังครับ เดี๋ยวคุยกัน รับสายหนึ่งก่อน เอ สวัสดีครับ เอ สวัสดีครับ ถึงจะสอบตก แต่เป็นบุคคลที่สะอาดก็พอใจแล้วครับ เอ สวัสดีครับ ก็ขอขอบคุณครับ พี่น้องชาวเซิดน้อยนะครับ ที่ให้กำลังใจเรา เรามาพูดถึงว่าคนดีนะ ที่ท่านผู้ฟัง นักจัดรายการแถวเซิดน้อยบอกว่า คนดีอยู่หลังเขา เขาก็จะเอามา คุณสอบตกกี่ครั้งแล้ว ก็เหมือนกัน อยู่กลางสระ แต่ผมภูมิใจครับว่า ผมเนี้ยะ พูดอย่างเปิดอกเลยว่า ผมภูมิใจครับ ถ้าผมอยากเป็นสมาชิกอย่างท่าน ผมเป็นก่อนท่านแล้ว ผมเคยได้รับโอกาสนะครับ ชวนให้ไปเป็นสมาชิกเหมือนกับท่านที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ แต่ผมปฏิเสธ แต่ผมปฏิเสธครับ ท่านผู้ฟังครับ เพราะศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ในสิ่งใดที่เราคิดว่า เราไปแล้วเนี้ยะ ถ้าเราทำด้วยความอิสระ ทำด้วยความคิดเสรี เพื่อพี่น้องประชาชน เราไปครับ แต่ถ้าเราต้องไปแล้วต้องเป็นเหมือนกับรัชกาลที่ ๔ เราไม่เป็นครับท่าน ยุคนั้นหมดไปแล้ว แต่บ้านนี้เมืองนี้อาจจะมีอยู่บ้างบางส่วนนะครับ บางส่วนยังมีอยู่บ้าง ก็คือ ความภาคภูมิใจในตัวผม คิดถึงทีไร เราก็มีความภาคภูมิใจตลอด" ให้กับประชาชนโดยทั่วไปภายในเขตอำเภอบ้างบึง จังหวัดชลบุรี ซึ่งข้อความดังกล่าวมีความหมายเป็นการใส่ความ หมิ่นประมาท ดูหมิ่นรัชกาลที่ ๔ ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์ในอดีต เปรียบเทียบว่า ยุคของพระองค์เหมือนต้องไปเป็นทาส ไม่มีความเป็นอิสระ มีการปกครองที่ไม่ดี ทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะทำให้รัชกาลที่ ๔ เสื่อมเสียพระเกียรติ เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น และถูกเกลียดชัง โดยเจตนาทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา ไม่เคารพสักการะ เหตุเกิดที่ตำบลบ้านบึง อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี และรับว่า เป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ ๗๑๔/๒๕๕๐ ของศาลนี้
พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ จำคุก ๔ ปี จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๒ ปี พิเคราะห์รายงานการสืบเสาะและพินิจจำเลยแล้ว ไม่ปรากฏว่า จำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ มีกำหนด ๒ ปี โดยกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติ ให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติประจำศาลจังหวัดชลบุรีทุก ๔ เดือนต่อครั้ง มีกำหนด ๑ ปี กับให้จำเลยกระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติและจำเลยเห็นสมควร จำนวน ๑๒ ชั่วโมง ตามที่พนักงานคุมประพฤติและจำเลยเห็นสมควร ยกคำขอนับโทษต่อ./
นายณัฐกิตติ์ มฤคินทร์
บรรณานุกรม
[แก้ไข]- ศาลจังหวัดชลบุรี. (2550). คำพิพากษาศาลจังหวัดชลบุรี ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2550 ในคดีหมายเลขแดงที่ 1237/2550 ความอาญา ระหว่าง พนักงานอัยการจังหวัดชลบุรี โจทก์ นายณัชกฤช จึงรุ่งฤทธิ์ จำเลย เรื่อง หมิ่นประมาท. สืบค้นจาก http://www.enlightened-jurists.com/page/287.
งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตามมาตรา 7 (4) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า
- "มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
- (1)ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
- (2)รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
- (3)ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
- (4)คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
- (5)คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"