ข้ามไปเนื้อหา

คำพิพากษาศาลอาญา ในคดีหมายเลขแดงที่ 1858/2500

จาก วิกิซอร์ซ
  • คดีหมายเลขดำที่ ๑๗๑๓/๒๕๐๐
  • คดีหมายเลขแดงที่ ๑๘๕๘/๒๕๐๐
  • ในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์
  • ศาลอาญา
  • วันที่ ๓๐ เดือนตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๐๐
  • ความอาญา
ระหว่าง พนักงานอัยการ กรมอัยการ โจทก์
นายสง่า เนื่องนิยม จำเลย
เรื่อง หมิ่นประมาทและดูหมิ่นพระมหากษัตริย์

โจทก์ฟ้อง จำเลยรับสารภาพ คดีฟังได้ว่า เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๐๐ เวลากลางวัน จำเลยนี้ได้บังอาจกระทำความผิดต่อกฎหมาย กล่าวคือ จำเลยได้บังอาจดูหมิ่นและหมิ่นประมาทพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์แห่งประเทศไทย โดยจำเลยได้พูดโฆษณาในที่ประชุมสาธารณะบริเวณท้องสนามหลวงต่อหน้าประชาชนผู้ฟังประมาณ ๖,๐๐๐–๗,๐๐๐ คน โดยจำเลยพูดเรื่องกรณีสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลว่า จะเปิดเผยชื่อผู้ลอบปลงพระชนม์ และเมื่อจำเลยได้พูดมาถึงตอนเปิดเผยชื่อผู้ลอบปลงพระชนม์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล (พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๘) แล้ว จำเลยได้แสดงท่าทางโดยเอาแว่นตาสีขาวมาสวม แล้วจำเลยยกมือทั้งสองข้างชี้ที่แว่นตาพร้อมกับพูดว่า "แว่นตา ผมไม่เคยใส่ นี่ดูเอาซิ ฟังเอาไปคิดว่าเป็นใคร" แล้วทันใดนั้น จำเลยก็กระโดดขึ้นสูง ๆ หลายครั้งและพูดต่อไปว่า "ผู้ลอบปลงพระชนม์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๘ อายุไม่เกิน ๓๐ ปี" พร้อมกับใช้มือชี้ไปที่แว่นตาซึ่งจำเลยสวมอยู่ซ้ำอีก ทั้งนี้ โดยท่าทางของจำเลยที่แสดงประกอบคำพูดนั้น จำเลยมีเจตนาใส่ความองค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชต่อประชาชนผู้มาฟัง เพื่อให้ประชาชนผู้มาฟังทั้งหมดเข้าใจว่า ผู้ลอบปลงพระชนม์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๘ คือ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อันเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่นพระบรมเดชานุภาพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช องค์พระมหากษัตริย์รัชกาลปัจจุบัน ซึ่งการกระทำของจำเลยดังกล่าวแล้วเป็นไปโดยประการที่น่าจะทำให้องค์พระมหากษัตริย์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสื่อมเสียพระบรมเดชานุภาพ ชื่อเสียง และเกียรติคุณของพระองค์ ในฐานะที่พระองค์ทรงเป็นที่เคารพสักการะของประชาชนทั่วทั้งประเทศ และพระองค์อาจถูกดูหมิ่นจากประชาชนได้

เหตุเกิดที่ท้องสนามหลวง ซึ่งเป็นที่สาธารณสถาน ตำบลพระบรมมหาราชวัง อำเภอพระนคร จังหวัดพระนคร

โดยที่องค์พระมหากษัตริย์ดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ การกระทำของจำเลยเป็นผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒

จึงพร้อมกันพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ ให้จำคุกจำเลยมีกำหนด ๕ ปี จำเลยรับสารภาพโดยดี เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงให้ลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด ๒ ปี ๖ เดือน และให้นับโทษต่อจากโทษของจำเลยในเรื่องละเมิดอำนาจศาลในคดีนี้

นายศริ มลิลา ผู้พิพากษา
นายสมบูรณ์ ภิบาลกุล ผู้พิพากษา

บรรณานุกรม

[แก้ไข]
  • ศาลอาญา. (2544). "คำพิพากษา ในคดีหมายเลขแดงที่ 1858/2500 ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2500 ความอาญา ระหว่าง พนักงานอัยกรม กรมอัยการ โจทก์ นายสง่า เนื่องนิยม จำเลย เรื่อง หมิ่นประมาทและดูหมิ่นพระมหากษัตริย์". ใน สุพจน์ ด่านตระกูล (ผู้รวบรวม), ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีสวรรคต (น. 303–304). (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: สุขภาพใจ. ISBN 9744090413.

งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตามมาตรา 7 (4) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า

"มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
(1)ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
(2)รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
(3)ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
(4)คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
(5)คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"