คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ ๘๗/๒๕๕๗

จาก วิกิซอร์ซ
แม่แบบผิดพลาด: มีการลบช่องที่ไม่ได้ใช้ออก โปรดเติมกลับเข้าไป (โปรดดูเอกสารกำกับแม่แบบ)
คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ[1]
ที่ ๘๗/๒๕๕๗
เรื่อง การกําหนดตําแหน่งเพิ่มและการแต่งตั้งข้าราชการให้ดํารงตําแหน่ง




เพื่อให้การปฎิบัติงานของส่วนราชการต่างๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเหมาะสมยิ่งขึ้นหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคำสั่ง ดังนี้

ข้อ ๑ ให้กำหนดตำแหน่งข้าราชการเพิ่มขึ้นในส่วนราชการ ดังนี้

(๑) ตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงานในกระทรวงพลังงาน จำนวนสี่ตำแหน่ง
(๒) ตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวนสองตำแหน่ง

ข้อ ๒ ให้ นายชุมพล ฐิตยารักษ พ้นจากตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงพลังงานและให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน เป็นพิเศษเฉพาะราย

ข้อ ๓ ให้ นายทรงภพ พลจันทร์ พ้นจากตำแหน่ง อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติและให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน เป็นพิเศษเฉพาะราย

ข้อ ๔ ให้ นายสมนึก บำรุงสาลี พ้นจากตำแหน่ง อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน และให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน เป็นพิเศษเฉพาะราย

ข้อ ๕ ให้ นายประมวล จันทร์พงษ์ พ้นจากตำแหน่ง อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน และให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน เป็นพิเศษเฉพาะราย

ข้อ ๖ ให้ นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ พ้นจากตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน และให้ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงพลังงาน

ข้อ ๗ ให้ นายคุรุจิต นาครทรรพ พ้นจากตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงพลังงานและให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ

ข้อ ๘ ให้ นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ พ้นจากตำแหน่ง รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน และให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน

ข้อ ๙ ให้ นายวีระพล จิรประดิษฐกุล พ้นจากตำแหน่ง หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน และให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน

ข้อ ๑๐ ให้ นายชวลิต พิชาลัย พ้นจากตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน และให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน

ข้อ ๑๑ ให้ นายนพพล ศรีสุข พ้นจากตำแหน่ง อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นพิเศษเฉพาะราย

ข้อ ๑๒ ให้ นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ พ้นจากตำแหน่ง อธิบดีกรมป่าไม้ และให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นพิเศษเฉพาะราย

ข้อ ๑๓ ให้ นายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และให้ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ข้อ ๑๔ ให้ นายชลธิศ สุรัสวดี พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

ข้อ ๑๕ ให้ นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ พ้นจากตำแหน่ง รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช และให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมป่าไม้

ข้อ ๑๖ ให้ นายเกษมสันต์ จิณณวาโส พ้นจากตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และให้ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ข้อ ๑๗ ให้ข้าราชการซึ่งดำรงตำแหน่งข้างต้น ปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งตั้งแต่วันที่มีคำสั่งนี้เป็นต้นไป

ข้อ ๑๘ ให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สำนักงบประมาณและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการเกี่ยวกับตำแหน่งและอัตราเงินเดือนของข้าราชการดังกล่าว ให้เรียบร้อยโดยด่วน โดยจัดให้ดำรงตำแหน่งที่ไม่ต่ำกว่าตำแหน่งที่ข้าราชการผู้นั้นดำรงตำแหน่งอยู่เดิม

ข้อ ๑๙ เมื่อมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีแล้ว ให้นำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งตามคำสั่งนี้เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย

ข้อ ๒๐ เมื่อไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งตามข้อ ๒ ข้อ ๓ ข้อ ๔ ข้อ ๕ ข้อ ๑๑ และข้อ ๑๒ แล้ว ให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวเป็นอันยกเลิก

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป


สั่ง ณ วันที่ ๗ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ


เชิงอรรถ[แก้ไข]

  1. ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๑ /ตอนพิเศษ ๑๓๕ ง /หน้า ๑/๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗.



๘๖/๒๕๕๗ ขึ้น ๘๘/๒๕๕๗

งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตาม แม่แบบผิดพลาด: โปรดระบุประเภทของงานนี้ (ดูวิธีใช้) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า

"มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
(1)ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
(2)รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
(3)ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
(4)คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
(5)คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"