คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ ๘๘/๒๕๕๗

จาก วิกิซอร์ซ
แม่แบบผิดพลาด: มีการลบช่องที่ไม่ได้ใช้ออก โปรดเติมกลับเข้าไป (โปรดดูเอกสารกำกับแม่แบบ)
คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ[1]
ที่ ๘๙/๒๕๕๗
เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาความเหมาะสมการจัดสรรงบประมาณเงินอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๘





เพื่อให้การจัดสรรงบประมาณเงินอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นไปอย่างทั่วถึงเป็นธรรม และเป็นไปตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงออกคำสั่งดังนี้

๑.แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาความเหมาะสมการจัดสรรงบประมาณเงินอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๘

๑.๑ เสนาธิการทหาร เป็นประธานกรรมการ
๑.๒ รองเสนาธิการทหาร(๒) รองประธานกรรมการ(๑)
๑.๓ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา รองประธานกรรมการ(๒)
๑.๔ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรรมการ
๑.๕ ผู้อำนวยการสำนักจัดทำงบประมาณด้านความมั่นคง ๑ สำนักงบประมาณ กรรมการ
๑.๖ ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย กรมบัญชีกลาง กรรมการ
๑.๗ หัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรรมการ
๑.๘ ปลัดบัญชีทหาร กรรมการและเลขานุการ

๒.ให้คณะกรรมการตามข้อ ๑ มีอำนาจหน้าที่ดังนี้

๒.๑ พิจารณาความเหมาะสมการจัดสรรงบประมาณเงินอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๘
๒.๒ กำกับดูแลการดำเนินการ การจัดทำและบริหารงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๘ ให้เป็นไปตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
๒.๓ รายงานผลการดำเนินการและเสนอแนะความเห็นให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติทราบโดยเร็ว เพื่อพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
๒.๔ เชิญข้าราชการ บุคคล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงหรือส่งเอกสารให้ตามความเหมาะสม
๒.๕ แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อปฎิบัติการใดๆ ตามที่คณะกรรมการหรือคณะรักษาความสงบแห่งชาติมอบหมาย

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป


สั่ง ณ วันที่ ๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ


เชิงอรรถ[แก้ไข]

  1. ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๑ /ตอนพิเศษ ๑๓๕ ง /หน้า ๓/๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗.



๘๗/๒๕๕๗ ขึ้น ๘๙/๒๕๕๗

งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตาม แม่แบบผิดพลาด: โปรดระบุประเภทของงานนี้ (ดูวิธีใช้) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า

"มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
(1) ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
(2) รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
(3) ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
(4) คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
(5) คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"