ข้ามไปเนื้อหา

งานแปล:ซินเดอเรลลา หรือรองเท้าแก้วใบน้อย

จาก วิกิซอร์ซ
ซินเดอเรลลา หรือรองเท้าแก้วใบน้อย (ค.ศ. 1865)
โดย พี่น้องดีเอล, แปลจากภาษาอังกฤษ โดย วิกิซอร์ซ

ซินเดอเรลลา
หรือ
รองเท้าแก้วใบน้อย

หลายปีก่อน มีสุภาพบุรุษคนหนึ่งซึ่งได้หญิงทรงเสน่ห์มาเป็นภริยา เขามีธิดาเพียงคนเดียว ซึ่งซื่อตรงในหน้าที่ต่อพ่อแม่ยิ่งนัก แต่ระหว่างที่เธอยังเล็กนักอยู่นั้นเอง มารดาเธอก็ถึงแก่กรรม นำความโศกาอาดูรมาสู่สองพ่อลูก ครั้นผ่านไประยะหนึ่ง บิดาของสาวน้อยจึงสมรสกับสตรีอีกคน ทีนี้ นางผู้นี้เป็นคนจองหองพองขน และมีลูกสาวโตแล้วสองคนซึ่งน่าชิงชังดุจดังนางเอง ฉะนั้น เด็กหญิงที่น่าสงสารจึงต้องพบว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่บ้านผันแปรไปในทางย่ำแย่

แต่เธอทนรับกับปัญหาทั้งหลายด้วยใจอดทน ไม่แม้กระทั่งพร่ำบ่นให้บิดาฟัง และแม้เธอต้องตรากตรำลำเค็ญ ก็ยิ่งเห็นเธอโตสวยสะพรั่งทั้งใบหน้าและร่างกายในทุกปี

บัดนี้ พระโอรสพระราชาจะทรงจัดงานเต้นรำอันโอฬาร และประทานบัตรเชิญไปถึงผู้ทรงศักดิ์ทั้งสิ้นทั้งมวล ส่วนแม่สองสาวของเราก็มิได้ถูกเขามองข้าม เรื่องที่พวกนางพล่ามในยามนี้จึงมีแต่ว่า มีเสื้อผ้าหรูหราชุดใดให้สวมใส่ไปงานบ้าง

ในที่สุด วันเปี่ยมสุขก็มาถึง สองศรีพี่น้องแสนจองหองออกเดินทางไปด้วยใจลำพอง ซินเดอเรลลาก็มองตามพวกนางไปจนรถม้าลาลับสายตา แล้วเธอจึงออกปากคร่ำครวญอย่างขมขื่น ขณะที่เธอสะอื้นสะอึกอยู่นั้นเอง แม่ทูนหัวของเธอ ซึ่งเป็นนางฟ้า ก็ปรากฏกายต่อหน้าเธอ

"ซินเดอเรลลา" นางฟ้าว่า "ข้าเป็นแม่ทูนหัวของเจ้า และข้ามาทำให้เจ้าเบิกบานขึ้นเพราะเห็นแก่แม่ผู้เป็นที่รักของเจ้า เอาล่ะ ซับน้ำตาเสีย เจ้าต้องไปงานเต้นรำครั้งใหญ่ในคืนนี้ แต่เจ้าต้องทำตามคำสั่งข้า เข้าไปในสวนแล้วเอาฟักทองมาให้ข้า" ซินเดอเรลลานำลูกที่งามที่สุดที่อยู่ในนั้นมา โดยไม่ชักช้านางฟ้าแม่ทูนหัวก็คว้านเนื้อมันออก และแล้ว ก็เอาคทาเคาะมัน ในบัดนั้น ฟักทองก็เปลี่ยนโฉมเป็นรถม้าแสนงาม เสร็จแล้ว นางฟ้าชราก็ส่องสายตาเข้าไปในรังหนู ซึ่งดูแล้วมีหนูอยู่หกตัว นางเอาคทาแตะพวกมันเบา ๆ และหนูแต่ละตัวเหล่านั้นก็พลันกลายเป็นอาชาสง่างาม รังหนูนั้นมีหนูยักษ์อยู่สองตัว นางแปลงตัวหนึ่งในกลุ่มนี้เป็นสารถี ส่วนอีกตัวนั้นให้เป็นนายท้าย แล้วแม่เฒ่าก็บอกซินเดอเรลลาให้เข้าไปในสวนและหากิ้งก่ามาสักครึ่งโหล นางแปรเปลี่ยนเจ้าพวกนี้เป็นคนประจำประตูรถหกนาย สวมใส่เสื้อสรรพสุดสดใส

ครั้นทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว แม่ทูนหัวผู้ใจดีเอาคทาแตะเธอ เสกเสื้อผ้าอันคร่ำคร่าของเธอเป็นชุดเต้นรำงามล้ำเลิศ บรรเจิดด้วยไข่มุกและดิ้นเงิน แล้วนางจึงเชิญรองเท้าแก้วคู่หนึ่งมามอบให้ กล่าวคือ เป็นรองเท้าที่สานขึ้นจากใยแก้วสุดประณีต ละเอียดประหนึ่งใยแมงมุม

เมื่อจัดแจงแต่งตัวซินเดอเรลลาเช่นนั้นแล้ว แม่ทูนหัวก็ให้เธอเข้าสู่รถม้าอันโอ่อ่า พลางเตือนเธอว่า จงออกจากงานเต้นรำก่อนนาฬิกาตีที่เลขสิบสอง

พอเธอไปถึง ความงามซึ้งของเธอก็นำความพิศวงตรงเข้าสู่ทุกผู้ทุกคน เจ้าชายผู้งามสง่าทรงมาต้อนรับเธอด้วยไมตรี แล้วมีพระทัยนำพาเธอเข้าสู่ห้องเต้นรำ และพระราชากับพระราชินีก็ทรงตกสู่บ่วงเสน่ห์ของเธอเป็นอันมากเหมือนเจ้าชายที่ทรงพา

เธอไปยังโต๊ะอาหารค่ำ และทรงวุ่นอยู่กับการคอยปรนเปรอเธอเหลือเกินจนเพลินลืมเสวย ขณะนั่งอยู่นั้น ซินเดอเรลลาได้ยินนาฬิกาตีที่สิบเอ็ดนาฬิกา สี่สิบห้านาที เธอจึงลุกขึ้นเพื่อจะออกมา เจ้าชายก็ทรงคะยั้นคะยอให้เธอรับคำเชื้อเชิญมางานเต้นรำในค่ำถัดมาอีก

เมื่อถึงบ้าน แม่ทูนหัวก็ชื่นชมเธอที่ตรงต่อเวลา และรับคำว่า จะให้เธอไปงานเต้นรำในคืนต่อมาอีก

แม้เธอจะดูเหนื่อยล้า แต่แทนที่จะมาแสดงความเห็นใจ พี่สาวเธอก็มากระเซ้าเธอด้วยการถ่ายทอดเรื่องราวแพรวพราวเกี่ยวกับฉากอันเลิศเลอที่เธอ ๆ เพิ่งจากมา และพรรณนาอย่างเจาะจงถึงองค์หญิงแสนสวย ซินเดอเรลลาดีใจที่ได้ฟังเรื่องทั้งหมดนี้ และถามพี่ ๆ ถึงพระนามเจ้าหญิงองค์นั้น แต่พวกนางตอบกันว่า หามีผู้ใดรู้จักเจ้าหญิงนั้นไม่ พวกนางกล่าวยกย่องแม่หญิงผู้นั้นมากเสียจนซินเดอเรลลาแสดงความประสงค์จะใคร่ไปเห็นเจ้าหญิงองค์นั้นที่งานเต้นรำครั้งถัดไปบ้าง แต่การกล่าวเช่นนี้มีแต่ทำให้พวกนางยิ่งชิงชังซินเดอเรลลาผู้น่าสงสารขึ้นไปอีก และไม่มีทางให้เธอยืมชุดแม้เป็นตัวที่ทรามที่สุดก็ตาม

เย็นวันถัดมา สองพี่น้องไปงานเต้นรำ และซินเดอเรลลาก็เช่นกัน โดยอยู่ในชุดสุดวิจิตรยิ่งกว่าก่อน ความเพลิดเพลินของเธอก็ทวียิ่งกว่าที่งานครั้งแรก และเธอก็จมจ่อมอยู่ในวาจาอ่อนหวานของเจ้าชายเสียจนไม่ทันสังเกตเวลาที่รุดหน้าไป

จึงเป็นความตระหนกตกใจเมื่อได้ยินนาฬิกาตีที่เลขสิบสอง เธอหลีกเร้นออกมาจากห้องเต้นรำ แต่ในบัดดล รถม้าก็กลับคืนเป็นฟักทอง ผองม้าคืนร่างเป็นหนู สารถีและนายท้ายก็กลายกลับเป็นหนู คนประจำประตูรถก็หดลงเป็นกิ้งก่า และเสื้อผ้า

งามตาของเธอก็กลับเป็นชุดมอซอชุดเดิม ด้วยความรีบ เธอทำรองเท้าแก้วหล่นไว้ข้างหนึ่ง แล้วรุดกลับบ้านจนแทบหายใจหายคอไม่ทัน โดยไม่เหลือของขวัญอันใดจากนางฟ้าแม่ทูนหัวเอาไว้ เว้นแต่รองเท้าแก้วอีกข้างหนึ่ง

เมื่อพี่สาวเธอมาบ้านหลังเลิกงานเต้ารำ ก็พร่ำพูดอย่างปลาบปลื้มถึงเจ้าหญิงนิรนามองค์นั้น และพรรณนาต่อซินเดอเรลลาถึงรองเท้าแก้วอันน้อยที่เจ้าหญิงทรงทำหล่นไว้ และว่า เจ้าชายทรงคว้าขึ้นมาได้อย่างไร เป็นที่ประจักษ์ชัดไปทั้งราชสำนักว่า เจ้าชายหมายพระทัยจะตามหาเจ้าของรองเท้า ถ้าจะพึงกระทำได้ และไม่กี่วันให้หลัง ผู้ประโคมข่าวหลวงก็ประโคมข่าวว่า พระโอรสจะเสกสมรสกับนางผู้ใดก็ตามที่พบว่า มีเท้าอันสวมรองเท้าแก้วได้เหมาะเจาะ

ประกาศนี้นำพามาซึ่งความตื่นเต้นเป็นการใหญ่ หญิงในทุกชั้นวรรณะรับพระราชานุญาตให้ลองรองเท้าได้ แต่ก็ไร้ประโยชน์ ทีนี้ ซินเดอเรลลาจึงกล่าวขึ้นว่า "ให้หนูได้ลองบ้าง บางทีอาจเหมาะกับหนู" รองเท้าสวมรับเข้ากับเท้าเธอโดยพลัน และพลันก็บังเกิดความงุ่นง่านจากสองพี่น้องที่ได้เห็นเช่นนี้ แต่สองนางก็ยิ่งงงใจที่ได้เห็นซินเดอเรลลาหยิบรองเท้าอีกข้างออกมาจากกระเป๋าเสื้อ!

ขณะนั้น แม่ทูนหัวปรากฏตัวขึ้น และใช้คทาสัมผัสเสื้อผ้าซินเดอเรลลา และแล้ว พี่น้องของเธอก็ได้เห็นว่า เธอนั่นเองคือหญิงงามที่พวกนางได้พบพานที่งานเต้นรำ แล้วจึงยอบตัวลงแทบเท้าเธอ พลางเพ้อพร่ำร่ำขอให้ยกโทษแก่ตน

ไม่นานหลังจากนั้น เธอก็ได้สมรสกับเจ้าชาย เป็นที่ชื่นใจยิ่งนักของราชสำนักทั้งมวล

บรรณานุกรม

[แก้ไข]
  • Brothers Dalziel (1865). Cinderella, or the Little Glass Slipper. New York: George Routledge and Sons. OCLC 32004688. 
  งานนี้เป็นงานแปล ซึ่งมีสถานะทางลิขสิทธิ์แยกต่างหากจากงานต้นฉบับ
งานต้นฉบับ:

งานนี้เป็นสาธารณสมบัติทั่วโลก เนื่องจากเผยแพร่ก่อนวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1929 หรือผู้สร้างสรรค์ถึงแก่ความตายมาแล้วอย่างน้อย 100 ปี

 
งานแปล:

ข้าพเจ้า ผู้ถือลิขสิทธิ์ในงานนี้ ให้งานนี้เป็นสาธารณสมบัติ คำประกาศนี้ให้มีผลทั่วโลก
ถ้าคำประกาศดังกล่าวไม่อาจเป็นไปได้ในทางกฎหมาย ข้าพเจ้าก็ให้ทุกคนมีสิทธิใช้งานนี้ได้ในทุกกรณี โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ เว้นแต่ที่กฎหมายกำหนด