ข้ามไปเนื้อหา

งานแปล:โดนจับ

จาก วิกิซอร์ซ
โดนจับ (พ.ศ. 2452)
โดย แอมโบรส เบียร์ซ, แปลจากภาษาอังกฤษ โดย วิกิซอร์ซ
An Arrest
โดนจับ
Having murdered his brother-in-law, Orrin Brower of Kentucky was a fugitive from justice. From the county jail where he had been confined to await his trial he had escaped by knocking down his jailer with an iron bar, robbing him of his keys and, opening the outer door, walking out into the night. The jailer being unarmed, Brower got no weapon with which to defend his recovered liberty. As soon as he was out of the town he had the folly to enter a forest; this was many years ago, when that region was wilder than it is now. ออร์ริน บราวเวอร์ แห่งเคนทักกี กลายเป็นคนหนีคดีหลังฆ่าพี่เขยตาย เขาหลบหนีจากเรือนจำเทศมณฑลที่ซึ่งเขาถูกขังระหว่างรอไต่สวน โดยใช้แท่งเหล็กตีพัศดีสลบ ลักกุญแจไป แล้วไขประตูบานนอกเดินออกไปในยามวิกาล เพราะพัศดีไม่พกอาวุธ บราวเวอร์จึงไม่ได้อาวุธอันใดมาใช้คุ้มกันเสรีภาพที่ตนได้รับคืนมา ทันทีที่เขาพ้นเขตเมือง เขาทำเรื่องโง่เขลาโดยเดินเข้าป่า เรื่องนี้ก็หลายปีมาแล้ว สมัยที่แถบนี้ยังดิบเถื่อนกว่าตอนนี้มาก
The night was pretty dark, with neither moon nor stars visible, and as Brower had never dwelt thereabout, and knew nothing of the lay of the land, he was, naturally, not long in losing himself. He could not have said if he were getting farther away from the town or going back to it—a most important matter to Orrin Brower. He knew that in either case a posse of citizens with a pack of bloodhounds would soon be on his track and his chance of escape was very slender; but he did not wish to assist in his own pursuit. Even an added hour of freedom was worth having. ค่ำคืนมืดมิดเหลือใจ ไร้เดือนไร้ดาวใด ๆ ให้เห็น และเนื่องจากบราวเวอร์ไม่เคยพำนักอยู่แถวนั้น ทั้งไม่รู้เรื่องรู้ราวอันใดในตำแหน่งแห่งหน ก็เป็นธรรมดาที่เขาจะทำตนเองหลงทางในไม่ช้า เขาบอกไม่ถูกว่า ตนกำลังห่างไกลออกไปจากเมือง หรือกำลังวกกลับเข้าเมือง ซึ่งเป็นเรื่องสุดแสนสำคัญเรื่องหนึ่งสำหรับออร์ริน บราวเวอร์ เขารู้อยู่แก่ใจ ไม่ว่ากรณีไหน อีกเดี๋ยวเหล่าชาวบ้านชาวเมืองพร้อมฝูงหมาบลัดฮาวด์ก็จะออกตามรอยเขา แล้วโอกาสที่เขาจะหนีรอดก็คงริบหรี่ แต่เขาไม่ได้อยากสงเคราะห์ให้ตนถูกตามเจอ ได้มีอิสรภาพขึ้นอีกสักชั่วโมงก็ยังคุ้ม
Suddenly he emerged from the forest into an old road, and there before him saw, indistinctly, the figure of a man, motionless in the gloom. It was too late to retreat: the fugitive felt that at the first movement back toward the wood he would be, as he afterward explained, "filled with buckshot." So the two stood there like trees, Brower nearly suffocated by the activity of his own heart; the other—the emotions of the other are not recorded. ทันใด เขาโผล่พรวดออกจากป่าเข้าสู่ถนนสายเก่าแก่ และที่ตรงนั้น เขาเห็นร่างชายผู้หนึ่งปรากฏต่อหน้าเขาอย่างรางเลือน นิ่งงันอยู่ในความมืดมัว จะถอยหนีก็ไม่ทันเสียแล้ว เขารู้สึกเช่นนั้น ณ ก้าวแรกที่จะถอยกลับเข้าป่า ทั้งนี้ เพราะเขาคงจะ "ถูกลูกตะกั่วฝังทั่วร่าง" เขาอธิบายไว้อย่างนั้นในภายหลัง ดังนั้น ทั้งสองจึงยืนอยู่ตรงนั้นเหมือนไม้ยืนต้น บราวเวอร์ใจหายใจคว่ำจนแทบหอบ ส่วนอีกผู้หนึ่งนั้น—อารมณ์เขาผู้นั้นจะเป็นเช่นไรก็มิได้บันทึกไว้
A moment later—it may have been an hour the moon sailed into a patch of unclouded sky and the hunted man saw that visible embodiment of Law lift an arm and point significantly toward and beyond him. He understood. Turning his back to his captor, he walked submissively away in the direction indicated, looking to neither the right nor the left; hardly daring to breathe, his head and back actually aching with a prophecy of buckshot. ครู่ถัดมา—อาจเป็นชั่วโมงเลยก็ได้ ดวงเดือนลอยเลื่อนเข้าไปในผืนฟ้าไร้เมฆหมอก คนผู้ถูกล่ามองเห็นชายผู้เป็นดังตัวตนอันแจ่มแจ้งแห่งกฎหมายยกอาวุธขึ้นจ่อมาที่เขาและจ่อข้ามหัวเขาอย่างเป็นนัย เขาเข้าใจ เขาจึงหันหลังให้ผู้จับกุมเขา แล้วเดินอย่างจำนนออกไปในทางที่บอก จะซ้ายหรือขวาก็มิได้เหลียวไปมอง แม้จะหายใจก็ยังแทบไม่กล้า ความเป็นไปได้ที่จะถูกลูกตะกั่วนั้นสร้างความหวั่นกลัวไปทั่วหัวและแผ่นหลังของเขาโดยแท้
Brower was as courageous a criminal as ever lived to be hanged; that was shown by the conditions of awful personal peril in which he had coolly killed his brother-in-law. It is needless to relate them here; they came out at his trial, and the revelation of his calmness in confronting them came near to saving his neck. But what would you have?—when a brave man is beaten, he submits. บราวเวอร์เป็นโจรที่ไม่กลัวโดนแขวนคอที่สุดที่เคยมี นี่เห็นได้จากสภาพของการเอาตนเองไปเสี่ยงภัยอันน่าสะพรึงในการซึ่งเขาฆ่าพี่เขยตนเองอย่างเลือดเย็น เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องเจียระไนกันที่นี่ เพราะปรากฏจากการไต่สวนแล้ว และความไม่สะทกสะท้านที่เขาเผยออกมาเมื่อเผชิญเรื่องดังกล่าวก็แทบไม่ทำให้เขาเสียชื่อ แต่จะให้ทำอย่างไร ใจกล้าบ้าบิ่นแค่ไหนก็ต้องยอม—เมื่อโดนซ้อม
So they pursued their journey jailward along the old road through the woods. Only once did Brower venture a turn of the head: just once, when he was in deep shadow and he knew that the other was in moonlight, he looked backward. His captor was Burton Duff, the jailer, as white as death and bearing upon his brow the livid mark of the iron bar. Orrin Brower had no further curiosity. ฉะนั้น พวกเขาจึงออกเดินทางไปยังเรือนจำตามถนนสายเก่าแก่เส้นนั้นผ่านทะลุป่าเข้าไป บราวเวอร์ลองหันกลับไปมองสักครั้ง แค่ครั้งเดียว ตอนที่เขาอยู่ในเงามืด และรู้ว่า อีกผู้หนึ่งอยู่ท่ามกลางแสงจันทร์ เขาหันมองไปข้างหลัง ผู้มาจับเขาคือพัศดีเบอร์ตัน ดัฟฟ์ นั่นเอง รอยแผลฟกช้ำจากแท่งเหล็กอันปรากฏอยู่บนหน้าผากพัศดีนั้นมันซีดเซียวดุจมัจจุราช ออร์ริน บราวเวอร์ ก็สิ้นสงสัย
Eventually they entered the town, which was all alight, but deserted; only the women and children remained, and they were off the streets. Straight toward the jail the criminal held his way. Straight up to the main entrance he walked, laid his hand upon the knob of the heavy iron door, pushed it open without command, entered and found himself in the presence of a half-dozen armed men. Then he turned. Nobody else entered. ในที่สุด พวกเขาก็เข้าสู่ตัวเมือง ซึ่งสว่างแสงไปทุกแห่งหน แต่ไร้ผู้คน เว้นแต่หญิงกับเด็กที่ยังอยู่ หากแต่มิได้อยู่ในถนน อาชญากรผู้นี้จึงมุ่งตรงไปสู่เรือนจำ เขาเดินตรงขึ้นไปยังปากทางหลัก วางมือลงบนลูกบิดประตูเหล็กอันหนักอึ้ง หมุนเปิดโดยไม่รอให้ใครสั่ง ก้าวเข้าไป และพบว่า ตนเองกำลังอยู่ท่ามกลางบุรุษอาวุธครบมือ มากสักครึ่งโหลได้ และแล้ว เขาหันกลับไป จะมีใครเดินตามเข้ามาอีกก็หาไม่
On a table in the corridor lay the dead body of Burton Duff. ร่างไร้วิญญาณของเบอร์ตัน ดัฟฟ์ นอนกองอยู่บนโต๊ะตรงระเบียง

บรรณานุกรม

[แก้ไข]
  งานนี้เป็นงานแปล ซึ่งมีสถานะทางลิขสิทธิ์แยกต่างหากจากงานต้นฉบับ
งานต้นฉบับ:

งานนี้เป็นสาธารณสมบัติทั่วโลก เนื่องจากเผยแพร่ก่อนวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1929 หรือผู้สร้างสรรค์ถึงแก่ความตายมาแล้วอย่างน้อย 100 ปี

 
งานแปล:

ข้าพเจ้า ผู้ถือลิขสิทธิ์ในงานนี้ ให้งานนี้เป็นสาธารณสมบัติ คำประกาศนี้ให้มีผลทั่วโลก
ถ้าคำประกาศดังกล่าวไม่อาจเป็นไปได้ในทางกฎหมาย ข้าพเจ้าก็ให้ทุกคนมีสิทธิใช้งานนี้ได้ในทุกกรณี โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ เว้นแต่ที่กฎหมายกำหนด