ซ้องกั๋ง/เล่ม ๑/ตอน ๕

จาก วิกิซอร์ซ
แม่แบบผิดพลาด: มีการลบช่องที่ไม่ได้ใช้ออก โปรดเติมกลับเข้าไป (โปรดดูเอกสารกำกับแม่แบบ)

หน้า ๔๘–๖๐ สารบัญ



หลวงจีนตีจินว่า เมื่อครั้งก่อน เราก็งดไว้เห็นแก่เตียอวนเงยเศรษฐี ครั้งนี้ เจ้ามาทำเหลือเกินต่อไปอีก เห็นจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ ศิษย์ทั้งหลายได้ฟังอาจารย์ว่ากล่าวกับหลวงจีนลูตีซิมดังนั้นก็ชวนกับเก็บสิ่งของจะไปอยู่ที่อื่น ท่านอาจารย์อ้วนวอนศิษย์ทั้งปวงไว้ว่า เจ้าอย่าวุ่นวายไปเลย จะจัดแจงให้หลวงจีนลูตีซิมไปเสียให้พ้น ศิษย์เหล่านั้นได้ฟังก็งดรออยู่ หลวงจีนตีจินเจ้าวัดเขียนหนังสือไปถึงเตียอวนเงยว่า หลวงจีนลูตีซิมเสพสุราเมาทำข้าวของกับศาลาและรูปตุ๊กตาที่หน้าวัดหักพังแตกทำลาเสียสิ้น แต่ทำดังนี้เป็นหลายครั้ง ห้ามปรามเท่าไรก็ไม่ฟัง เหลือสติปัญญา จะต้องให้ไปอยู่ที่อื่น ขืนจะอยู่ที่วัดนี้ ศิษย์ทั้งหลายก็จะพากันไปเสียหมดสิ้น เขียนหนังสือแล้วให้ศิษย์ถือไปถึงเตียอวนเงย เตียอวนเงยรับหนังสือคลี่ออกอ่านแจ้งความแล้วก็เขียนหนังสือตอบมาว่า ซึ่งศาลากับสิ่งของทั้งหลายหักพังเสียไป ข้าพเจ้าจะใช้ให้ แต่หลวงจีนลูตีซิมนั้นท่านจะให้ไปอยู่ที่แห่งใดก็ตามแต่ท่านจะจัดแจงเถิด เขียนหนังสือแล้วมอบให้ศิษย์ถือมาถึงหลวงจีนตีจิน หลวงจีนตีจินแจ้งความในหนังสือตอบของเตียอวนเงยแล้วก็เรียกหลวงจีนลูตีซิมมาบอกว่า เจ้าทำวุ่นวายขึ้นหลายครั้ง ข้าวของหักพังเสียไปมาก ศิษย์ทั้งปวงเขาแค้นเคืองนัก เจ้าอยู่ที่เห็นจะไม่ได้ เรายังมีศิษย์อีกคนหนึ่งไปเป็นอาจารย์อยู่วัดไต้เซียงก๊กยี่ที่ตังเกียเมืองหลวง ชื่อ หลวงจีนติเช็งเซียนซือ เราจะมีหนังสือให้เจ้าไปอาศัยอยู่กับเขา หลวงจีนลูตีซิมว่า ตามแต่ท่านจะเมตตา ข้าพเจ้าจะปฏิบัติตามไม่ขัดขวาง หลวงจีนตีตินเจ้าวัดก็เขียนหนังสือไปถึงหลวงจีนติเช็ง แล้วเอาเงินสิบตำลึงกับเสื้อกางเกงสำหรับใส่หลวงจีนมาส่งให้ แล้วกำชับสั่งว่า เวลาคืนนี้ เรานั่งพิจารณามีความอยู่สี่ข้อ เจ้าจงจำไว้ ข้อหนึ่งว่า พบพุ่มไม้ให้ลุกขึ้น ข้อสองว่า ถ้าพบภูเขาจะมั่งมีทรัพย์สินเงินทอง ข้อสามว่า ถ้าพบบ้านเมืองและขุนนางจงคิดยักย้ายหนีไป ข้อสี่ว่า ถ้าพบถังเปรียบเหมือนแม่น้ำให้เป็นที่หยุดพักอยู่เพียงนั้น ซึ่งความสี่ข้อนี้เจ้าอย่าได้ลืมเลย หลวงจีนลูตีซิมจำได้ทั้งสี่ข้อแล้วก็รับหนังสือ กับเงิน เสื้อ กางเกง คำนับลาออกจากวัดเขาเงาไทซัว ไปหาช่างเหล็กเอาง้าวกับไม้เท้า แล้วเอาเงินให้ช่างเหล็กอีกเล็กน้อยพอสมควร ก็ออกเดินทางตรงไปตังเกียเมืองหลวง

ฝ่ายศิษย์ในวัดเขาเงาไทซัว ครั้นหลวงจีนลูตีซิมไปจากวัดแล้ว ก็พากันชื่นชมยินดี เตียอวนเงยเศรษฐีก็จ้างช่างทำศาลาและสิ่งของทั้งปวงที่หักพังให้งดงามดีตามเดิมแล้วก็กลับไป ตั้งแต่นั้นมา ศิษย์ทั้งหลายก็มีความสุขเหมือนแต่เดิม

ฝ่ายหลวงจีนลูตีซิมมือถือไม้เท้าเอาง้าวแบกห้อยห่อสิ่งของเดินไปได้ครึ่งเดือนเศษ ครั้นเวลาเย็นก็เข้าสำนักที่โรงเตี๊ยม วัดมีตามทางก็ไม่เข้าอาศัย เวลาวันหนึ่ง เดินไปชมเขาชมป่าก็เพลิดเพลิน ไม่ทันเข้าอาศัยโรงเตี๊ยม พ้นระยะทางไปไม่มีโรงเตี๊ยมอาศัย เวลาก็จวนค่ำ รีบเดินไป มีแสงไฟสว่างอยู่ข้างหน้าก็ตรงเข้าไป เห็นมีบ้านเรือนอยู่เป็นหมู่ผู้คนขนของสับสนกัน หลวงจีนลูตีซิมเดินไปยืนอยู่ที่ประตูบ้าน ชายเจ้าของบ้านเห็นก็ถามว่า หลวงจีนนี้จะไปข้างไหนจนมืดค่ำ หลวงจีนลูตีซิมบอกว่า เราเดินทางเกินระยะมา จะขออาศัยหยุดพักสักคืนหนึ่งก็จะลาไป ชายนั้นว่า ค่ำวันนี้เขาวุ่นวายกันอยู่ จงไปเสียเถิด ถ้าอยู่ที่นี่เขาคงจับท่านมัดไว้ หลวงจีนลูตีซิมว่า เหตุการณ์อย่างไรจึงจะมาจับ เราไม่กลัว หลวงจีนลูตีซิมกับชายเจ้าของบ้านก็ทุ่มเถียงกันอื้ออึงขึ้น มีผู้เฒ่าคนหนึ่งเดินออกมาถามว่า ทะเลาะวิวาทกันอื้ออึงด้วยเหตุอันใด หลวงจีนลูตีซิมบอกว่า เรามาแต่วัดเขาเงาไทซัว จะขออาศัยสักคืนหนึ่ง พอรุ่งเช้าก็จะลาไป ชายเหล่านี้ว่า จะจับเรามัดไว้ จึงได้ทุ่มเถียงกัน ผู้เฒ่าได้ฟังว่ามาแต่วัดเขาเงาไทซัวก็เชิญเข้าไปข้างใน จัดที่ให้นั่ง แล้วพูดว่า พวกข้าพเจ้าเหล่านี้ไม่รู้จักอะไรจึงได้วิวาทกับท่าน อย่าได้ถือโทษเลย ในบ้านข้าพเจ้าเวลาค่ำวันนี้มีธุระอยู่สิ่งหนึ่ง แต่ท่านจะพักสักคืนเดียวนั้นไม่เป็นไร หลวงจีนลูตีซิมมีความยินดี ตอบว่า ขอบใจท่านหนักหนา แต่ท่านแซ่ไร ชื่อใด จงบอกให้เราทราบ ผู้เฒ่านั้นบอกว่า แซ่เล่า ชาวบ้านเรียกว่า เล่าไทก๋ง ตำบลบ้านนี้เรียกว่า ถอฮวยชวน ซึ่งตัวของท่านแซ่ใด ชื่อไร หลวงตีนลูตีซิมบอกว่า เราแซ่ลู ท่านอาจารย์วัดเขาเงาไทซัวให้ชื่อ ตีซิม เล่าไทก๋งก็ยินดีจึงถามว่า ท่านกินของสดคาวหรือกินบวช หลวงจีนลูตีซิมว่า เรากินได้ทุกอย่างสดคาว สุรานั้นเป็นของชอบใจ เล่าไทก๋งสั่งให้จัดโต๊ะและสุรามาเลี้ยงหลวงจีนลูตีซิม แล้วเล่าไทก๋งจึงบอกว่า เวลาค่ำวันนี้เขาอื้ออึงกันท่านอย่าออกไปดู นอนนิ่งอยู่แต่ในห้อง หลวงจีนลูตีซิมถามว่า เหตุการณ์อันใดจึงดูไม่ได้ เล่าไทก๋งว่า บุตรสาวข้าพเจ้าจะมีผัว จึงมีความวิตกนัก หลวงจีนลูตีซิมว่า การอันนี้ก็เป็นมงคล เหตุไฉนท่านจึงได้มีความวิตกด้วยข้อใด เล่าไทก๋งว่า การมงคลอันนี้มิใช่ข้าพเจ้ายอม เป็นการข่มขืนกัน หลวงจีนลูตีซิมว่า จะมาข่มขืนเช่นนั้นไม่ได้ เหตุผลประการใด ท่านจงเล่าให้เราฟังเถิด เล่าไทก๋งบอกว่า ที่เขาถอฮวยซัวนี้มีนายโจรอยู่สองคน ไพร่พลทหารประมาณห้าหกร้อยคน คอยตีปล้นราษฎรอยู่เนือง ๆ เวลาวันหนึ่ง นายโจรทั้งสองมาตีปล้นที่ตำบลนี้ ครั้นมาเห็นบุตรสาวของข้าพเจ้า นายโจรชอบใจ จะเอาไปเป็นภรรยา เอาทองหนักยี่สิบตำลึงกับแพรม้วนหนึ่งข่มขืนให้แก่ข้าพเจ้าว่า ค่ำวันนี้จะมาแต่งงานอยู่กินด้วยกันกับบุตรสาวของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ยอม นายโจรจะจับพวกข้าพเจ้าฆ่าเสีย ข้าพเจ้ากลัวตายก็ต้องจำใจให้ หลวงจีนลูตีซิมได้ฟังก็โกรธจึงพูดว่า ท่านอย่าวิตกเลย ถ้านายโรมา เราจะว่ากล่าวไม่ให้อยู่กับบุตรสาวท่าน เล่าไทก๋งว่า นายโจรใจทมิฬดุร้าย เห็นจะไม่ฟัง หลวงจีนลูตีซิมว่า เราเรียนวิชามาแต่ท่านอาจารย์ นายโจรนั้นจะดุร้ายอย่างไรก็ไม่กลัว เวลาค่ำวันนี้ ท่านจงพาบุตรของท่านไปซ่อนไว้ที่ห้องอื่น ห้องนั้นเราจะเข้าอยู่ ถ้านายโจรมา เราจะว่ากล่าวให้กลับเสียจงได้ ท่านจงวางใจ เป็นธุระของเราเอง เล่าไทก๋งว่า ท่านอย่าพูดเล่น ถ้าไม่สำเร็จ ชีวิตข้าพเจ้าก็คงตาย หลวงจีนลูตีซิมจึงตอบว่า ข้าพเจ้ารับอาสาท่านแล้ว มิให้ท่านเป็นอันตรายได้ ถึงมาตรแม้นเสียทีก็จะพาท่านหนีไปให้พ้นภัย ห้องบุตรสาวท่านอยู่ที่ไหน จงพาเราไปอยู่ในนั้นเถิด เล่าไทก๋งก็จัดยักย้ายบุตรสาวไปอยู่ห้องอื่น แล้วก็พาหลวงจีนลูตีซิมไปอยู่ห้องนั้น หลวงจีนลูตีซิมเข้าไปในห้อง สั่งเล่าไทก๋งว่า ท่านจงไปจัดสิ่งของไว้รับนายโจรให้ดี สั่งแล้วก็เอาง้าวกับไม้เท้าวางไว้ริมเตียงข้างมุ้งตัว หลวงจีนลูตีซิมก็เข้าไปในมุ้งปิดประตูมุ้งเสียนอนคอยอยู่ในนั้น เล่าไทก๋งออกมาจากห้องปิดประตูห้องดีแล้วสั่งคนใช้ให้จัดการมงคลไว้คอยท่านายโจร บ่าวไพร่ก็ชวนกันจัดการไว้พรักพร้อม

ครั้นเวลาค่ำ ได้ยินเสียงปี่พาทย์ครึกครื้นโห่ร้องมา ผู้คนที่ตำบลนั้นก็ชวนกันออกไปดูที่หน้าบ้าน เห็นทหารจุดคบไฟเดินเป็นแถวมา นายโจรที่สองขี่ม้าอยู่ข้างหลัง ครั้นมาถึง เล่าไทก๋งก็ออกไปคุกเข่าคำนับนายโจรแล้วพูดว่า เชิญท่านเข้าไปข้างในเถิด นายโจรที่สองเห็นเล่าก๋งมาคุกเข่าคำนับจึงพูดว่า ท่านเป็นพ่อตาข้าพเจ้าแล้ว หาควรจะมาคำนับไม่ และท่านจัดการงานไว้รับโตใหญ่ชอบใจนัก เชิญท่านลุกขึ้นเถิด เล่าไทก๋งนั้นคิดวุ่นวายใจไม่แจ้งว่าหลวงจีนลูตีซิมจะคิดอ่านประการใด ก็แข็งใจพูดว่า ข้าพเจ้ากับพวกเหล่านี้ได้พึ่งบุญท่านพากันชื่นชมยินดี จึงได้จัดการไว้คอยท่า นายโจรได้ฟังก็ดีใจลงจากม้าเข้าไปในบ้าน เห็นเล่าไทก๋งตั้งโต๊ะบูชา ไฟโคมสว่าง ข้าวของที่ใช้สอยต่าง ๆ นั้นก็เอาของใหม่สีแดงทั้งสิ้น นายโจรก็ตรงเข้านั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะ เล่าไทก๋งสั่งคนใช้ให้ยกโต๊ะและสุราเลี้ยงนายโจร แล้วนายโจรถามเล่าไทก๋งว่า บุตรสาวท่านอยู่ห้องไหน ไม่เห็นออกมาปฏิบัติเลย เล่าไทก๋งว่า บุตรสาวข้าพเจ้าเป็นคนขี้อาย อยู่แต่ในห้อง นายโจรกินอาหารพอเป็นทีแล้วจึงว่า บุตรหญิงท่านอยู่ที่ไหน จงพาเราไปเถิด เล่าไทก๋งก็พาไปถึงห้องแล้วบอกว่า ห้องนี้แหละบุตรสาวข้าพเจ้าอยู่ เล่าไทก๋งกลับออกมามีความวิตกคิดจะหนีไป

ฝ่ายนายโจรที่สองผลักประตูห้องเข้าไปเห็นไม่มีไฟจึงพูดว่า พ่อตาเรานี้เหนียวแน่นนัก แต่ชั้นไฟก็ไม่จุดไว้ หรือไม่มีน้ำมัน พรุ่งนี้เราจะให้บ่าวไพร่หามน้ำมันนั้นมาสักถึงหนึ่ง พูดแล้วก็คลำเข้าไปร้องเรียกนางนั้นว่า เจ้ามารับด้วย พรุ่งนี้จะตั้งให้เป็นฮูหยิน หลวงจีนลูตีซิมได้ฟังดังนั้นก็สู้กลั้นหัวเราะไว้กลัวนายโจรจะรู้ ก็นอนนิ่งฟังอยู่ นายโจรคลำเข้าไปถึงก็เปิดมุ้งขึ้นแล้วพูดว่า ยังไม่ทันไรก็หลับ ไม่ออกมารับเราด้วย ก็เอามือคลำถูกท้องหลวงจีนลูตีซิม หลวงจีนลูตีซิมกอดตัวนายโจรไว้ พอนายโจรจะร้อง หลวงจีนลูตีซิมก็เอามือทุบนายโจรล้มลง เอาเท้าเหยียบไว้ แล้วพูดว่า เจ้ามาเที่ยวข่มเหงกดขี่เอาตามอำเภอใจ ถือดีอย่างไร ไม่กลัวความตายหรือ นายโจรถูกตีเจ็บป่วยก็ร้องเรียกให้พวกโจรช่วย เล่าไทก๋งได้ฟังนายโจรร้องก็ตกใจคิดว่า หลวงจีนลูตีซิมจะพูดจากับนายโจรประการใด กลับไปทุบตีกัน เห็นจะเกิดความใหญ่เป็นแน่ จึงพูดว่า หลวงจีนลูตีซิมมาทำกรรมให้เราแล้ว ก็จุดไฟเข้าไปดูเห็นหลวงจีนลูตีซิมเหยียบนายโจรไว้ นายโจรก็ร้องให้พวกโจรช่วย พวกโจรเข้าไปดูเห็นดังนั้นก็วิ่งออกมาเอาเครื่องศัสตราวุธเข้าไปช่วย หลวงจีนลูตีซิมเห็นพวกโจรมาก็ฉวยเอาไม้เท้าเข้าสู้รบกับโจร โจรสู้รบฝีมือหลวงจีนลูตีซิมไม่ได้ ถูกตีเจ็บป่วย ก็แตกหนีไป นายโจรที่สองนั้นถูกตีเจ็บป่วย หนีออกไปได้ก็ตรงขึ้นม้าร้องว่า เล่าไทก๋งดีแล้วคงเห็นฝีมือกัน ก็ขับม้าหนีกลับไปเขา เล่าไทก๋งกลัวจนตัวสั่นร้องว่า ท่านมาทำกรรมให้ข้าพเจ้าแล้ว หลวงจีนลูตีซิมว่า ท่านอย่าวิตกเลย เรานี้เป็นขุนนางนายทหารอยู่กับเล่าชองเก็งเลียดเซียงก๋ง ณ เมืองเอียนอันฮู้ เพราะด้วยเราตีคนตาย จึงได้มาบวชเป็นหลวงจีน ถึงนายโจรจะยกมาสักเท่าใดก็อย่าได้ตกใจ เราจะสู้รบคนเดียว พูดแล้วก็ให้พวกเล่าไทก๋งไปเอาง้าวในห้อง พวกเล่าไทก๋งยกง้าวไม่ขึ้น หลวงจีนลูตีซิมก็เข้าไปเอาง้าวออกมารำเพลงอาวุธให้ดู เล่าไทก๋งเห็นกำลังและฝีมือเข้มแข็งก็วางใจหายทุกข์ จึงพูดว่า ท่านช่วยชีวิตพวกข้าพเจ้าไว้เถิด หลวงจีนลูตีซิมว่า เราเมาสุรายิ่งมีกำลังมาก ท่านจงจัดหาสุรามากินให้เมา เราจะช่วยให้พ้นภัยจงได้ เล่าไทก๋งก็จัดหาโต๊ะและสุรามาเลี้ยงหลวงจีนลูตีซิม แล้วก็นั่งคอยพวกโจรอยู่

ฝ่ายนายโจรที่หนึ่งนั่งอยู่ที่เขาถอฮวยซัวคิดว่าจะมาดูนายโจรที่สองแต่งงาน พอพวกโจรที่แตกหนีมาเข้าไปแจ้งว่า นายโจรที่สองนั้นเขาทุบตีจนยับเยิน พอนายโจรที่สองไปถึงก็แจ้งความซึ่งหลวงจีนทุบตีให้ฟังทุกประการ แล้วจึงพูดว่า พี่ช่วยแก้แค้นสักครั้งเถิด ข้าพเจ้าถูกตีเจ็บป่วยนัก นายโจรที่หนึ่งได้ฟังก็โกรธจึงพูดว่า น้องอยู่รักษาตัวเสียก่อน พี่จะไปจับตัวหลวงจีนมาฆ่าแก้แค้นเสียให้ได้ พูดแล้วก็สั่งพวกบริวารเตรียมเครื่องศัสตราวุธไว้พร้อมเสร็จ นายโจรที่หนึ่งก็แต่งตัวถือทวนขึ้นม้าคุมไพร่พลออกจากเขาถอฮวยซัวตรงมาตำบลบ้านถอฮวยชวน

ฝ่ายหลวงจีนลูตีซิมนั่งพูดอยู่กับเล่าไทก๋ง พอพวกพ้องของเล่าไทก๋งเข้าไปบอกว่า นายโจรที่หนึ่งคุมทหารมาเป็นอันมาก หลวงจีนลูตีซิมได้ฟังจึงพูดกับเล่าไทก๋งและคนเหล่านั้นมา ท่านทั้งหลายอย่าตกใจ เราจะออกไปสู้รบเอง ถ้าเราตีนายโจรล้มลง พวกท่านจงตรูกันเข้าจับมัดไว้ จะได้ตัวไปส่งตามกระทรวง พูดแล้วก็แต่งตัวถือง้าวออกมานอกบ้าน เห็นพวกโจรถือคบไฟสว่างตรงมา หลวงจีนลูตีซิมยืนดูอยู่

ฝ่ายนายโจรที่หนึ่งคุมไพร่พลมาถึงจึงร้องตวาดว่า หลวงจีนอยู่ที่ไหนให้เร่งออกมาโดยเร็ว หลวงจีนลูตีซิมได้ฟังก็โกรธยิ่งนัก ร้องตวาดว่า เจ้าไม่รู้จักเราหรือ ก็เอาง้าวฟันไป นายโจรเอาทวนป้องกันไว้ คิดสงสัยว่า หลวงจีนรูปนี้เหมือนกับได้พบกันทีหนึ่ง นายโจรจึงพูดว่า อย่าเพิ่งสู้รบก่อน ข้าพเจ้ากับท่านเคยได้พบกันที่ตำบลไหนก็ลืมไปเสียแล้ว ท่านแซ่ไร ชื่อใด หลวงจีนลูตีซิมว่า ท่านไม่รู้จักหรือ เราเป็นขุนนางนายทหารของเล่าชองเก็งเลียดเซียงก๋ง ณ เมืองเอียนอันฮู้ ชื่อ ลูตัด ต้องไปบวชเพราะมีความใหญ่ อาจารย์ให้ชื่อ ลูตีซิม นายโจรที่หนึ่งได้ฟังก็หัวเราะ ลงจากม้าวางทวนเข้าไปคำนับแล้วเรียกว่า พี่ตีเอาน้องที่สองเกือบตาย หลวงจีนลูตีซิมได้ฟังดังนั้นก็สงสัย ถอยห่างออกไปพิเคราะห์ดูเหมือนจะเป็นลีตง นึกได้จึงคิดว่า ลีตงคนนี้พบกันที่เมืองอุยจิว คิดแล้วก็วางง้าวลง ลีตงเข้าไปใกล้ถามว่า เหตุไฉนจึงมาบวช หลวงจีนลูตีซิมว่า มาข้างในเถิด จะเล่าให้ฟัง แล้วชวนกันมาเข้าไปข้างใน เล่าไทก๋งเห็นดังนั้นก็ตกใจจึงคิดว่า หลวงจีนลูตีซิมนี้เราสำคัญว่าเป็นคนดี กลับมาเป็นพวกโจร พวกเราจะพากันยับเยินเสียดอกกระมัง คิดแล้วก็มีความวิตกนักนิ่งดูอยู่ หลวงจีนลูตีซิมเห็นเล่าไทก๋งไม่สบายใจก็ร้องเรียกเล่าไทก๋งให้มานั่งด้วยกันแล้วพูดว่า ท่านอย่าวิตกเลย ลีตงนายโจรนี้เป็นพวกพ้องของเรา หลวงจีนลูตีซิมก็เล่าความตั้งแต่ให้เงินกิมโล้ พ่อของนางชุยเหลียน แล้วตีแต้โต๋วตาย หนีไปเมืองไต้จิว พบกิมโล้กับบุตรสาว จนได้บวชเป็นหลวงจีน ให้ลีตงนายโจรฟังทุกประการ แล้วว่า บัดนี้ เราจะไปตังเกียเมืองหลวง มาอาศัยอยู่ที่นี่ นายโจรที่เราตีนั้นคือผู้ใด และวันเมื่อจะจากกัน เจ้าไปอยู่ที่ไหนจึงได้มาเป็นโจรอยู่เขานี้ ลีตงบอกว่า เวลานั้น พี่ กับข้าพเจ้า และซือจิน กินโต๊ะเสพสุราอยู่ที่โรงเกาเหลา ณ เมืองอุยจิว ที่ให้เงินกับกิมโล้แล้วก็จากกันไป ข้าพเจ้าอาศัยอยู่ที่โรงเตี๊ยมคืนหนึ่ง ครั้นรุ่งเช้า ได้ข่าวว่า พี่ตีแต้โต๋วตาย ผู้รักษาเมืองอุยจิวให้ทหารเที่ยวหาจะจับพี่อยู่วุ่นวาย ข้าพเจ้าจึงเก็บเครื่องยาที่ค้างขายพอสมควรใส่หีบหนีมา ครั้นถึงเขาถอฮวยซัว นายโจรที่ท่านตีนั้นคุมไพร่พลมาจะเอาเงินค่าทางกับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ยอมให้ จึงได้สู้รบกัน นายโจรสู้ข้าพเจ้าไม่ได้ ยกข้าพเจ้าขึ้นเป็นไต้อ๋อง จึงได้อยู่ที่เขานี้ นายโจรที่พี่ทุบตีนั้นชื่อ จิวทอง ไพร่พลเรียกว่า เซียวปาอ๋อง หลวงจีนลูตีซิมได้ฟังจึงว่า เราจากกันมาช้านานหนักหนาแล้ว และจิวทองซึ่งเป็นเซียวปาอ๋องนั้นพี่ไม่รู้จักจึงได้ทุบตี เจ้าจงไปห้ามเสีย อย่าให้วุ่นวายความเรื่องบุตรสาวเล่าไทก๋งต่อไป ด้วยเล่าไทก๋งมีบุตรหญิงคนเดียว ตัวก็แก่แล้ว หมายจะพึ่งบุตร แล้วมาทำให้เขาเดือดร้อนดังนี้ไม่ควร เล่าไทก๋งได้ฟังก็ดีใจ จัดโต๊ะและสุรามาเลี้ยงหลวงจีนลูตีซิมกับลีตงนายโร แล้วเล่าไทก๋งก็เอาทองคำหนักยี่สิบตำลึงกับแพรสี่ม้วนมาวางไว้ที่หน้าโต๊ะ หลวงจีนลูตีซิมจึงพูดกับลีตงว่า ท่านเป็นใหญ่ จงเอาของสิ่งนี้ไปคืนให้จิวทองเถิด ลีตงก็รับทองคำกับแพรไว้แล้วพูดว่า พี่กับเล่าไทก๋งอย่าวิตก ข้าพเจ้าจะว่ากล่าวจัดแจงให้เรียบร้อยจงได้ เล่าไทก๋งมีความยินดีนัก พูดปรึกษาข้อราชการกันอยู่จนเวลารุ่งสว่าง ลีตงจึงพูดกับหลวงจีนลูตีซิมว่า ขอเชิญพี่ไปเที่ยวเล่นที่เขาสักสองเวลาเถิด หลวงจีนลูตีซิมจึงเชิญเล่าไทก๋งไปเที่ยวด้วย ลีตงสั่งให้พวกโจรจัดเกี้ยวมาหามหลวงจีนลูตีซิมกับเล่าไทก๋งไปเขาถอฮวยซัว เล่าไทก๋ง กับหลวงจีนลูตีซิม ลีตง ก็ขึ้นเกี้ยวไปด้วยกันทั้งสามนาย ครั้นไปถึงเขาถอฮวยซัว ลีตงเชิญหลวงจีนลูตีซิม เล่าไทก๋ง เข้าไปข้างใน จัดที่ให้นั่งสมควร แล้วลีตงก็ให้คนใช้ไปเชิญจิวทองนายโจรที่สองออกมา จิวทองเห็นหลวงจีนลูตีซิมกับเล่าไทก๋งก็โกรธพูดว่า พี่ลีตงหาช่วยแก้แค้นแทนเราไม่ กลับไปพาหลวงจีนลูตีซิมกับเล่าไทก๋งมาให้เห็นหน้าอีกเล่า ลีตงว่า เจ้าไม่รู้จักหรือ ชื่อ ลูตัด ที่ตีแต้โต๋วตาย จึงได้มาบวชเป็นหลวงจีนชื่อว่า ลูตีซิม จิวทองได้ฟังก็สะดุ้งใจคิดว่า ลูตัดคนนี้มีฝีมือเข้มแข็ง ชื่อเสียงก็ปรากฏ นี่หากว่าบุญของเราจึงได้รอดชีวิตอยู่ ถ้าหลวงจีนลูตีซิมตีเราตาย จะสู้รบว่ากล่าวอะไรได้ คิดแล้วก็เข้าไปคำนับหลวงจีนลูตีซิมพูดว่า ข้าพเจ้าไม่รู้จัก จึงได้วิวาทกัน ขอท่านอย่าได้ถือโทษเลย หลวงจีนลูตีซิมรับคำนับเชิญให้นั่งแล้วพูดกับจิวทองว่า เราไม่ใช่ผู้อื่น เหมือนพี่น้องร่วมมารดาเดียวกัน ซึ่งเรื่องความของเล่าไทก๋งนั้นเราขอเสีย อย่าได้ไปวุ่นวายเลย เล่าไทก๋งก็มีบุตรอยู่คนเดียว ถ้าเจ้าไปเอามาเป็นภรรยา เล่าไทก๋งก็ไม่มีใครปฏิบัติและเป็นที่ไว้วางใจ ซึ่งภรรยานั้นนานไปคงหาได้ เจ้าจะยอมหรือไม่ประการใด พูดแล้วก็เอาทองคำหนักยี่สิบตำลึงกับแพรม้วนหนึ่งซึ่งเป็นของสินสอดนั้นวางไว้ที่โต๊ะ จิวทองได้ฟังกับเห็นของของตัวจึงพูดว่า พี่ห้ามปรามว่ากล่าวแล้ว ข้าพเจ้าก็ยอมยกให้ไม่ขัดขวาง ตั้งแต่วันนี้ไปไม่รบกวนอีกเลย หลวงจีนลูตีซิมได้ฟังก็ยินดี พูดว่า เกิดมาเป็นชายชาติทหาร พูดจาสิ่งใดออกไปแล้ว อย่าได้กลับถ้อยคืนคำ จิวทองว่า ถ้าพี่ไม่เชื่อ น้องจะสาบานให้ จิวทองก็หยิบลูกเกาทัณฑ์มาหักเป็นสองท่อน สาบานว่า ถ้าข้าพเจ้ากลับถ้อยคืนคำไปรบกวนเล่าไทก๋งอีก ก็ขอให้ตัวขาดสองท่อนเหมือนลูกเกาทัณฑ์หักนี้เถิด เล่าไทก๋งได้ยินก็ดีใจ คุกเข่าลงคำนับหลวงจีนลูตีซิมกับนายโจรทั้งสอง แล้วก็ลากลับมาบ้านตำบลถอฮวยซึง ลีตงสั่งให้จัดโต๊ะและสุรามาเลี้ยงหลวงจีน แล้วหลวงจีนลูตีซิมอยู่กับลีตง จิวทอง นายโจร ที่เขาถอฮวยซัวประมาณสิบวัน หลวงจีนลูตีซิมบอกกับลีตง จิวทอง ว่า จะลาไปก่อน ลีตง จิวทอง หน่วงเหนี่ยวไว้ไม่ให้ไป หลวงจีนลูตีซิมพูดว่า บวชเป็นพระแล้วอยู่กับท่านที่เขานี้ไม่ได้ จะต้องลาไปก่อน ลีตง จิวทอง ว่า ถ้าเวลาพรุ่งนี้ข้าพเจ้าไปเที่ยวตีปล้นได้เงินทองมากน้อยเท่าไร จะให้พี่ไปใช้สอยตามทางทั้งสิ้น หลวงจีนลูตีซิมจึงคิดว่า เงินทองข้าวของมีอยู่ถมไป ทำไมไม่ให้เรา จำเพาะแต่ไปตีชิงมาได้จึงจะให้ ลีตงกับจิวทองใจคอไม่กว้างขวาง นานไปข้างหน้าจะตั้งตัวให้มียศใหญ่ขึ้นไปอีกเห็นจะไม่ได้ คิดแล้วก็นิ่งอยู่

ครั้นรุ่งเช้า ลีตงกับจิวทองให้จัดโต๊ะและเสพสุรา เอาเครื่องเงินออกมาใช้สอยเลี้ยงหลวงจีนลูตีซิม สามนายนั่งกินโต๊ะเสพสุราอยู่ หลวงจีนลูตีซิมเห็นเครื่องเงินที่ใช้สอยจึงคิดว่า ลีตงกับจิวทองเที่ยวตีปล้นราษฎรได้เงินทองของต่าง ๆ เป็นอันมาก ครั้นจะลาไปก็บอกว่า พรุ่งนี้ตีปล้นได้เงินทองจะให้เอาไปใช้สอย ก็เงินทองถมไปแกล้งไม่ให้ สองคนนี้ใจคอไม่ดี คิดโกรธอยู่แต่ในใจ ขณะนั้น พวกโจรเข้าบอกกับลีตง จิวทอง ว่า มีราษฎรคุมเกวียนเดินมาทางนี้ เห็นจะมีเงินทองมาก ลีตง จิวทอง ได้ฟังก็ยินดี สั่งให้คนใช้อยู่กับหลวงจีนลูตีซิมสองคนสำหรับจะได้ใช้สอย แล้วลีตง จิวทอง ก็คุมไพร่พลออกจากเขาไป หลวงจีนลูตีซิมจึงนึกว่า ลีตง จิวทอง ไปเที่ยวตีปล้นเงินทองของราษฎรมาให้ เราไม่อยากได้ ของใช้สอยอยู่ที่นี่ก็เป็นเครื่องเงินทั้งนั้นแกล้งไม่ให้ จำจะทำเสียให้เจ็บใจด้วยเป็นคนไม่ดี แล้วก็นึกเรียกคนทั้งสองที่สำหรับใช้มาพูดว่า นายเจ้าใจไม่ดี แล้วก็จับมัดเอาผ้าจุกปากไว้มิให้ร้องขึ้นได้ แล้วเก็บเอาเครื่องโต๊ะทำด้วยเงินมาทุบเสียให้แบนแล้วเอาใส่ห่อผ้า จับไม้เท้ากับง้าวสะพายห่อผ้าออกจากเขาไป ครั้นจะเดินทางหน้าเขากลับลีตงกับจิวทองมาพบ จึงหลบหลีกลัดมาทางหลักเขา เห็นเขาชันก็เอาห่อผ้ากับง้าวและไม้เท้าผูกติดกันกลิ้งลงไปก่อน พอจัดแจงแต่งตัวแล้วก็ค่อยถัดลงมาจากเขาจนถึงดิน ถือไม้เท้ากับง้าวสะพายห่อผ้าเดินต่อไป

ฝ่ายลีตงกับจิวทองคุมไพร่พลมาถึงที่แห่งหนึ่ง เห็นพ่อค้าขับเกวียนมา ลีตงร้องตวาดว่า จงเอาเงินค่าทางมาให้เราก่อนจึงจะปล่อยไป พ่อค้าเกวียนไม่ให้ก็เข้าสู้รบกัน จิวทองก็คุมพวกโจรบุกรุกเข้าไป พ่อค้าเกวียนต้านทานไม่ได้ก็ทิ้งเกวียนสิ่งของเสียหนีไป ลีตง จิวทอง สั่งให้พวกโจรขนทรัพย์สิ่งของเงินทองขึ้นไปบนเขา ไม่เห็นหลวงจีนลูตีซิม เห็นคนใช้ทั้งสองถูกมัดผ้าจุกปากไว้ ลีตงแก้มัดออกแล้วถามว่า เหตุผลประการใดจึงต้องมัดอยู่ดังนี้ คนใช้ทั้งสองแจ้งความตามซึ่งหลวงจีนลูตีซิมทำให้ฟังทุกประการ ลีตงว่า เหตุไฉนหลวงจีนลูตีซิมจึงมาทำดังนี้ไม่ควร เราชวนกันไปติดตามเถิด ยังไปไม่พ้นดอก จิวทองว่า อย่าไปเลย ถึงตามไปทัน เราสองคนสู้หลวงจีนไม่ได้ ลีตงว่า มาเอาเงินทองกงสีไปเป็นอันมาก พูดแล้วก็เอาเงินกับสิ่งของที่ตีปล้นได้มานั้นปันเป็นสามส่วน ส่วนหนึ่งของลีตง ส่วนหนึ่งของจิวทอง ส่วนหนึ่งของพวกโจรบริวารเหล่านั้นแบ่งปันกัน แล้วลีตงจึงพูดว่า เราพาหลวงจีนลูตีซิมมา หลวงจีนลูตีซิมลักเอาของกงสีหนีไป ของเราส่วนนี้จะใช้ให้กงสีแทนที่หลวงจีนลูตีซิมเอาไป จิวทองว่า ทำดังนั้นไม่ถูก เราคู่ชีวิตกัน ทำไมกับของเท่านั้น ชีวิตไม่ตายก็หาได้ ส่วนของพี่เอาไปเถิด จะใช้แทนกงสีนั้นไม่ควร ลีตงก็ยินดี สองนายอยู่ที่เขาถอฮวยซัวคอยตีปล้นคนเดินทางต่อไป




ตอน ๔ ขึ้น ตอน ๖