นิทานโบรานคดี/นิทานที่ 8
เมื่อสมเด็ดกรมพระยาเทวะวงส์วโรปการซงเปนตำแหน่งเสนาบดีกะซวงการต่างประเทสแต่ยังเปนกรมหมื่น แรกได้มิสเตอร์เฮนรี อาลบาสเตอร์ ซึ่งเคยเปนข้าราชการอังกริดแล้วลาออกจากตำแหน่งมารับราชการหยู่กับไทยเปนที่ปรึกสากดหมายนานาประเทสมาหลายปี ครั้นมิสเตอร์อาลบาสเตอร์ถึงแก่กัม ซงพระดำหริว่า การที่มีฝรั่งผู้ชำนาญกดหมายนานาประเทสไว้เปนที่ปรึกสาไนกะซวงการต่างประเทสเปนประโยชน์มาก มีพระประสงค์จะหาตัวแทนมิสเตอร์อาลบาสเตอร์ เมื่อหมอเคาแวนซึ่งเปนราชแพทย์ประจำพระองค์ทูนลาไปยุโรปชั่วคราว สมเด็ดกรมพระยาเทวะวงส์ฯ จึงตรัดสั่งหมอเคาแวนไห้ไปสืบหาผู้ชำนาญกดหมายนานาประเทสถวาย หมอเคาแวนไปหาได้เนติบันดิตอังกริดคนหนึ่งชื่อ มิสเตอร์มิตเชล เข้ามารับราชการเปนที่ปรึกสากดหมายไนกะซวงการต่างประเทส แต่มิสเตอร์มิตเชลเปนผู้มีอัชชาสัยก้าวร้าว มิไคร่มีไครชอบ แม้สมเด็ดกรมพระยาเทวะวงส์ฯ ก็ไม่โปรด เมื่อฉันออกไปยุโรปไน พ.ส. 2434 มิสเตอร์มิตเชลยังรับราชการหยู่ ฉันไปถึงกรุงลอนดอน พักหยู่ที่สถานทูตไทย ได้ข่าวว่า มิสเตอร์มิตเชลลาออกจากราชการ ก็ไม่ประหลาดไจอันได แต่คิดถึงสมเด็ดกรมพระยาเทวะวงส์ฯ ว่า จะซงลำบากด้วยต้องหาคนเปนที่ปรึกสาไหม่ นึกขึ้นว่า เวลานั้นตัวฉันหยู่ไนลอนดอน ได้เข้าสมาคมชั้นสูง มีโอกาสจะสืบหาที่ปรึกสาถวายได้ดีกว่าคนอื่นเช่นหมอเคาแวนเคยหาถวาย จึงปรารภกับมิสเตอร์เฟรเดอริควิลเลียมเวอนี ผู้เปนที่ปรึกสาไนสถานทูต มิสเตอร์เวอนีก็เห็นเช่นเดียวกัน บอกว่า เพื่อนของเขาคนหนึ่งมีสักดิ์เปนลอร์ดชื่อ เร เคยรับราชการไนตำแหน่งสูง รู้จักผู้คนมาก จะคิดอ่านไห้พบกับฉัน ถ้าลองวานไห้ลอร์ดเรช่วยสืบหา เห็นจะได้คนดีดังประสงค์ ต่อมามิสเตอรเวอนีนัดเลี้ยงอาหารเย็นที่คลับ (สโมสร) แห่งหนึ่ง เชินลอร์ดเรกับตัวฉันไปกินเลี้ยงด้วยกันที่นั่น เมื่อได้สนทนาปราสัยมีไมตรีจิตต่อกันแล้ว ฉันเล่าถึงที่จะไคร่ได้ผู้ชำนาญกดหมายนานาประเทสมารับราชการเมืองไทยสักคนหนึ่ง ถามลอดร์เรว่า จะช่วยสืบหาผู้ที่สมควนแก่ตำแหน่งไห้ได้หรือไม่ ลอร์ดเรรับว่า จะช่วยหาดู ถ้าพบตัวคนเหมาะกับที่ฉันต้องการเมื่อได จะบอกมาไห้ซาบ ฉันได้พบลอร์ดเรเมื่อจวนจะออกจากประเทสอังกริดหยู่แล้ว ยังไม่แน่ไจว่าลอร์ดเรจะหาคนไห้ได้หรือไม่ จนฉันไปราชการตามประเทสต่าง ๆ ไนยุโรปเส็ดแล้ว ขากลับแวะดูกิจการต่าง ๆ ที่ประเทสอียิปต์ เมื่อพักหยู่นะเมืองไกโร ประจวบเวลาลอร์ดเรแปรสถานไปเที่ยวประเทสอียิปต์ และผเอินไปพักหยู่ที่โฮเต็ลเดียวกัน พอลอร์ดเรรู้ว่าฉันไปถึง ก็ตรงมาหา บอกว่า คนที่ฉันไห้ช่วยหานั้นพบตัวแล้ว เปนชาวเบลเยียมชื่อ โรลังยัคมนส เปนผู้ชำนาญกดหมายนานาประเทสจนขึ้นชื่อนับถือกันทั่วไปไนยุโรป ถึงได้เคยไปรับเลือกเปนนายกของสภากดหมายนานาประเทส และได้เคยเปนเสนาบดีไนประเทสเบลเยียมด้วย แต่เวลานั้นมองสิเออโรลังยัคมินสต้องตกยากโดยมิไช่ความผิดของตนเอง เพราะน้องชายคนหนึ่งทำการค้าขาย ขอไห้มองสิเออโรลังยัคมินสค้ำประกันเงินที่กู้เขาไปทำการ ผเอินน้องชายคนนั้นล้มละลาย มองสิเออโรลังยัคมินสต้องเอาทรัพย์สมบัติของตนจำหน่ายไช้หนี้แทนน้องชายจนแทบสิ้นเนื้อประดาตัว จะหยู่ไนประเทสเบลเยียมต่อไป ไม่มีกำลังจะรักสาสักดิ์ได้ รู้ข่าวว่า ลอร์ดโครเมอกำลังแสวงหาชาวยุโรปที่มีวิชาความรู้เข้าเปนตำแหน่งไนรัถบาลอียิปต์ มองสิเออโรลังยัคมินสจึงออกมาเมืองไกโร ลอร์ดโครเมอก็หยากได้ไว้ แต่ไนเวลานั้นตำแหน่งชั้นสูงอันสมกับสักดิ์และคุนวิเสสของมองสิเออโรลังยัคมินสยังไม่ว่าง ตัวมองสิเออโรลังยัคมินสยังหยู่ที่เมืองไกโร (ชรอยลอร์ดเรจะได้ไปพูดทาบทามแล้ว) ถ้าฉันชวนไปรับราชการเปนที่ปรึกสากดหมายไนประเทสไทย เห็นจะไป ฉันจึ่งขอไห้ลอร์ดเรเชินมองสิเออโรลังยัคมินสมากินอาหารเย็นด้วยกันกับฉันไนค่ำวันนั้น สังเกตดูกิริยาเรียบร้อยหย่างเปนผู้หลักผู้ไหย่ อายุเห็นจะเกือบ 60 ปีแล้ว พอได้สนทนากัน ฉันก็ตระหนักไจว่าซงคุนวิเสสชั้นสูงสมดังลอร์ดเรบอก ฉันจึงถามมองสิเออโรลังยัคมินสว่า ตำแหน่งที่ปรึกสากดหมายนานาประเทสไนประเทสไทยยังว่างหยู่ ถ้ารัถบาลไห้ท่านเปนตำแหน่งนั้น จะรับหรือไม่ มองสิเออโรลังยัคมินสนิ่งหยู่สักประเดี๋ยวตอบว่า ถ้ารัถบาลไทยปราถนา ก็จะยอมไป ฉันบอกว่า จะโทรเลขถามรัถบาลไปไนทันที แล้วจึงมีโทรเลขทูนสมเด็ดกรมพระยาเทววงส์ฯ ไนค่ำวันนั้นว่า ฉันพบเนติบันดิตเบลเยียมอันมีชื่อเสียงไนยุโรปและเคยเปนเสนาบดีไนประเทสของตนด้วยคนหนึ่งซึ่งอาดจะเอามารับราชการเปนที่ปรึกสากดหมายได้ จะต้องพระประสงค์หรือไม่ ขอไห้ซงตอบโดยเร็ว พอรุ่งขึ้นก็ได้รับพระโทรเลขตอบว่า ไห้ฉันตกลงรับมองสิเออโรลังยัคมินสทีเดียว เมื่อตกลงกันแล้ว มองสิเออโรลังยิคมินสขอกลับไปจัดการบ้านเรือนและรับครอบครัวที่ประเทสเบลเยียมก่อน แล้วจะตามมาไห้ถึงกรุงเทพฯ พายไน 3 เดือน ส่วนตัวฉันก็ออกจากเมืองไกโรมาไนวันที่ตกลงกันนั้น เลยไปอินเดียและเมืองพม่า กลับมาถึงกรุงเทพฯ ปลายเดือนมีนาคม พ.ส. 2434 ก่อนมองสิเออโรลังยัคมินสมาถึง ซาบว่า พระเจ้าอับบัส ผู้เปนเคดิฟครองประเทสอียิปต์ต่อพระเจ้าติวฟิก มีโทรเลขมาถวายสมเด็ดพระเจ้าหยู่หัวว่า รัถบาลอียิปต์ไคร่จะตั้งมองสิเออโรลังยัคมินสเปนตำแหน่งสำคันไนกะซวงยุตติธัมของประเทสอียิปต์ แต่มองสิเออโรลังยัคมินสไม่ยอมรับ อ้างว่า ได้สัญญาจะเข้ามารับราชการไนประเทสไทยเสียแล้ว ถ้ารัถบาลไทยไม่เพิกถอนสัญญา ก็จะรับตำแหน่งไนอียิปต์ไม่ได้ เคดิฟจึงทูนขอไห้โปรดซงสงเคราะห์ด้วยเพิกถอนสัญญาปล่อยไห้มองสิเออโรลังยัคมินสรับราชการหยู่ไนอียิปต์ สมเด็ดพระเจ้าหยู่หัวมีพระราชโทรเลขตอบไปว่า ประเทสอียิปต์หยู่ไกล้ยุโรป จะหาคนรับราชการได้ง่ายกว่าประเทสไทยซึ่งหยู่ห่างไกล ขอไห้เคดิฟซงเห็นแก่ประเทสไทยเถิด ซงตอบเช่นนั้นแล้วก็สิ้นปัญหา เมื่อมองสิเออโรลังยัคมินสเข้ามาถึงกรุงเทพฯ ไน พ.ส. 2435 พอสมเด็ดกรมพระยาเทววงส์ฯ ซงรู้จัก ก็ตระหนักพระหรึทัยว่า ได้คนซงคุนวิเสสสูงกว่าชาวต่างประเทสที่เคยมารับราชการแต่ก่อน พาเฝ้าสมเด็ดพระเจ้าหยู่หัว ซงสนทนาด้วย ก็ประจักส์พระราชหรึทัยว่า มองสิเออโรลังยัคมินสชำนาญทั้งกดหมายและลักสนะการปกครองไนยุโรป ด้วยเคยได้เปนเสนาบดีกะซวงมหาดไทยไนเบลเยียม อาดจะเปนประโยชน์แก่เมืองไทยได้หลายหย่าง จึงซงตั้งไห้เปนตำแหน่ง "ที่ปรึกสาราชการทั่วไป" มิไช่เปนที่ปรึกสาราชการแต่ไนกะซวงการต่างประเทสกะซวงเดียว ต่อมาซงพระราชดำหริว่า มองสิเออโรลังยัคมินสทำราชการเปนประโยชน์มาก ด้วยมีความภักดีต่อประเทสไทย และมีอัชชาสัยเข้ากับไทยได้ดีทุกกะซวง ทั้งเปนผู้ไหย่สูงอายุ และเคยมีบันดาสักดิ์สูงถึงเปนเสนาบดีไนบ้านเมืองของตนมาแต่ก่อน จึงซงสถาปนาขึ้นเปนที่เจ้าพระยาอภัยราชาฯ เมื่อ พ.ส. 2439 ได้รับราชการสำคันต่าง ๆ จนถึงหยู่ไนคนะที่ปรึกสาของสมเด็ดพระบรมราชินีนาถเมื่อซงสำเหร็ดราชการแผ่นดิน นับเปนฝรั่งคนที่ 2 ซึ่งได้เปนเจ้าพระยาต่อจากเจ้าพระยาวิชาเยนทครั้งสมเด็ดพระนารายน์มหาราช
เจ้าพระยาอภัยราชา (โรลังยัคมินส) รับราชการหยู่ได้สัก 7 ปี เกิดป่วยเจ็บด้วยชราภาพ และจะทนอากาสร้อนหยู่ต่อไปไม่ไหว จึงจำไจต้องทูนลาออกจากราชการ สมเด็ดพระเจ้าหยู่หัวก็ซงเสียดาย แต่ก็ต้องพระราชทานพระบรมราชานุญาต ด้วยซงพระราชดำหริว่า มีความจำเปนเช่นนั้นจิง เจ้าพระยาอภัยราชา (โรลังยัคมินส) กลับออกไปหยู่บ้านเดิมได้สักสองสามปีก็ถึงอสัญกัม คุนหยิงอภัยราชาก็ถึงอนิจกัมไนเวลาไกล้ ๆ กัน แต่มีบุตรรับราชการของเมืองไทยต่อมา 2 คน บุตรคนไหย่เปนผู้เชี่ยวชาญกดหมายคล้ายบิดา มีชื่อเสียงจนพระเจ้าแผ่นดินเบลเยียมซงตั้งไห้มียสเปนบารอน คนนี้ได้เปนผู้พิพากสาของเมืองไทยที่ไนสาลต่างประเทส นะ กรุงเฮก บุตรคนที่ 2 ได้เปนกงสุลเยเนอราลไทยหยู่ นะ กรุงบรุสเซล ชาวเบลเยียมยังนับถือตระกูลโรลังยัคมินสหยู่จนบัดนี้
เมื่อเจ้าพระยาอภัยราชาถึงอสัญกัมแล้วกว่า 20 ปี ฉันไปยุโรปครั้งหลังไน พ.ส. 2473 ไปถึงกรุงบรุสเซล ราชธานีของประเทสเบลเยียม พวกสมาชิกไนสกูลโรลังยัคมินส บุตรเจ้าพระยาอภัยราชาทั้ง 2 คนที่ได้กล่าวมาแล้ว และธิดาที่เคยเข้ามาหยู่ไนเมืองไทย 2 คน กับที่เปนชั้นหลายด้วยกันรวมกว่า 10 คน พร้อมกันมาสแดงความขอบไจและขอเลี้ยงเวลาค่ำไห้แก่ฉันด้วย เมื่อเลี้ยงแล้ว เขาอยากจะรู้เรื่องเดิมที่ฉันพาเจ้าพระยาอภัยราชาเข้ามารับราชการเมืองไทย ขอไห้ฉันเล่าไนเวลาประชุมกันวันนั้น ฉันได้เล่าเรื่องที่เขายังไม่รู้ไห้เขาฟังตามความประสงค์ แต่ยังมิได้เขียนลงไว้ จึงมาเขียนไนนิทานเรื่องนี้ ด้วยเห็นเปนคติควนนับเข้าไนนิทานโบรานคดีได้เรื่องหนึ่ง.