บ้วนฮ่วยเหลา/เล่ม ๑/ตอน ๑๒

จาก วิกิซอร์ซ
แม่แบบผิดพลาด: มีการลบช่องที่ไม่ได้ใช้ออก โปรดเติมกลับเข้าไป (โปรดดูเอกสารกำกับแม่แบบ)

หน้า ๗๗–๘๑ สารบัญ



ฝ่ายเต็กเซงคอยท่าชิงชิวอยู่ที่สะพานเทียนฮันเกียจนเวลาบ่ายก็ไม่เห็นชิงชิวกลับมา เต็กเซงก็เข้าไปซื้อของกินที่โรงเตี๊ยม ยังมีม้าตัวหนึ่งฝีเท้าดี แต่ดุร้ายนัก ไม่มีผู้ใดจับได้ ม้านั้นเป็นบ้าวิ่งมาตามถนน เหยียบเตะคนตายเป็นหลายคน ม้านั้นวิ่งไปถึงสะพานเทียนฮันเกีย มีคนวิ่งตามม้ามาร้องประกาศว่า ผู้ใดจับม้าได้ นายเราจะให้รางวัล เมื่อขณะเต็กเซงกินอาหารอยู่ในโรงเตี๊ยมนั้น ก็เอากระบี่อาชญาสิทธิ์วางไว้บนโต๊ะ พอได้ยินเสียงผู้คนแตกตื่นอื้ออึงก็ออกไปดู เห็นคนวิ่งตามม้ามาร้องว่า ใครจับม้าได้จะให้รางวัล ก็หามีผู้ใดจับไม่ เต็กเซงก็เดินเข้าไปใกล้ เอาเท้าถีบม้าล้มลงขาดใจตายในทันใดนั้น คนที่วิ่งตามม้ามาจึงพูดกับเต็กเซงว่า ท่านมีกำลังเข้มแข็งนัก จงไปหานายข้าพเจ้าเถิด นายข้าพเจ้าจะให้รางวัลแก่ท่านตามสัญญา เต็กเซงก็ไม่ยอมไป คนเหล่านั้นก็อ้อนวอนว่ากล่าวให้อ่อนใจลง แล้วก็พาเต็กเซงไปจนได้ เมื่อขณะนั้นเต็กเซงจะไปนั้น ลืมกระบี่อาชญาสิทธิ์ไว้ที่โรงเตี๊ยม

ฝ่ายเล่าบุน ลีจิ้น ซึ่งเจนซันอ๋องให้ลอบไปดูเต็กเซงนั้น เห็นเต็กเซงลืมกระบี่ไว้ที่โรงเตี๊ยม ทหารสองนายก็เชิญกระบี่ไปบ้านเจงซันอ๋อง เจงซันอ๋องก็หาอยู่ไม่ ต้องรอคอยอยู่ ฝ่ายคนใช้ของพังหองก็พาเต็กเซงมาถึงบ้าน ก็พาเต็กเซงเข้าไปคำนับพังหอง แล้วแจ้งความแก่พังหองว่า ม้าของท่านเป็นบ้าวิ่งไปตามถนนเหยียบผู้คนล้มตายเป็นหลายคน หามีผู้ใดจับได้ไม่ ทหารผู้นี้มีกำลังเป็นอันมาก เอาเท้าถีบม้าล้มลงตาย ข้าพเจ้าจึงได้พามาคำนับท่าน พังหองได้ฟังก็มีความยินดี จึงว่า เจ้านี้มีฝีมือเข้มแข็งนัก เจ้าแซ่ใด ชื่อไร อยู่เมืองไหน เต็กเซงมิได้แจ้งว่า พังหองเป็นพ่อตาชิงชิว ก็แจ้งความว่า ข้าพเจ้าแซ่ เต็ก ชื่อ เซง พังหองจึงคิดว่า เต็กเซงคนนี้ที่เอากระบี่มาจะฆ่าชิงชิวบุตรเขยเรา บัดนี้ ก็ตกมาอยู่ในเงื้อมมือเราแล้ว เราจะคิดฆ่าเสียให้จงได้ คิดแล้วจึงว่า เจ้ามีฝีมือเข้มแข็งนัก สมควรเป็นขุนนางนายทหาร เราได้พูดไว้ว่า ใครจับม้าตัวนั้นได้จะให้รางวัล เราจะให้ตามสัญญา เจ้าอย่าวิตกเลย บัดนี้ ที่เมืองซำก๊วนมีข้าศึกมารบกวนอยู่เนือง ๆ เราจะกราบทูลให้เจ้าได้เป็นขุนนางนายทหารยกกองทัพไปสู้รบกับข้าศึก เจ้าจงอยู่กับเราก่อนเถิด อีกสองสามวันเราจะทูลให้ แล้วสั่งคนใช้ให้จัดที่เต็กเซงอยู่พอสมควร เต็กเซงสำคัญว่าจริง ก็ดีใจ จึงคำนับลาไปที่อาศัยซึ่งเขาจัดให้นั้น

ฝ่ายพังหองกลับเข้าไปในเรือน แล้วก็เล่าให้ชิงชิวฟังว่า บัดนี้ เต็กเซงซึ่งจะทำร้ายเจ้านั้น เข้ามาอยู่ในเงื้อมมือเราแล้ว วันนี้ เราจะคิดฆ่าเสียให้จงได้ ชิงชิวก็มีความยินดี จึงคิดว่า เต็กเซงคงตายเป็นแน่แล้ว ก็คำนับลาพังหองกลับไปบ้าน

ครั้นเวลาเย็น พังหองก็หาคนที่สนิทเข้ามา แล้วบอกว่า เจ้าจงจัดโต๊ะและสุรามาเลี้ยงเต็กเซงให้กินสุราให้มาก ถ้าเห็นเมาหนักแล้ว จงเอาไฟเผาเสียให้ตายจงได้ คนสนิทของพังหองรับคำสั่งแล้วก็คำนับลาไป

ฝ่ายลีกีเอ๋งเป็นคนสนิทของพังหอง ได้ฟังพังหองสั่งการดังนั้นจึงคิดว่า เดิมเราเป็นบ่าวของบิดามารดาเต็กเซง เมื่อขณะน้ำท่วม บ้านพลัดกันไป เราจึงได้มาอยู่กับพังหอง บัดนี้ พังหองคิดจะฆ่าเต็กเซง จำเราจะคิดอุบายไปบอกเต็กเซงให้จงได้ คิดแล้วจึงพูดกับพังหองว่า ข้าพเจ้าจะอาสาท่านไปฆ่าเต็กเซงเสียให้จงได้ ซึ่งท่านจะให้เอาไฟเผานั้น ความจะอื้ออึงไป ข้าพเจ้าจะเอาโต๊ะและสุราไปเลี้ยงเต็กเซง ถ้าเต็กเซงเมาสุราแล้วข้าพเจ้าจะฆ่าเสียให้จงได้ พังหองก็เห็นชอบด้วย จึงให้ลีกีเอ๋งไปทำการตามซึ่งคิดไว้

ฝ่ายเต็กเซงอยู่ที่บ้านพังหอง รำลึกขึ้นได้ถึงกระบี่ซึ่งวางไว้บนโต๊ะที่โรงเตี๊ยม ครั้นจะไปเอาก็เป็นเวลาเย็น พอเห็นเขายกโต๊ะเข้ามาเสร็จแล้ว ลีกีเอ๋งก็มาถึง คนยกโต๊ะก็กลับไป ลีกีเอ๋งก็เชิญให้เต็กเซงกินโต๊ะแล้วสนทนากันตามธรรมเนียม ลีกีเอ๋งเห็นไม่มีผู้คนแล้วถอนใจใหญ่ ถามว่า ท่านจำข้าพเจ้าไม่ได้หรือ เวลาค่ำวันนี้ ภัยจะมาถึงตัวท่าน เต็กเซงจึงว่า ข้าพเจ้าจำไม่ได้ ซึ่งท่านว่า ภัยจะมาถึงตัวข้าพเจ้านั้น ด้วยเหตุใด ลีกีเอ๋งคุกเข่าลงคำนับแล้วบอกว่า เดิมข้าพเจ้าเป็นบ่าวของบิดาท่าน วันนี้ พังหองซึ่งเป็นพ่อตาชิงชิวจะไฟเผาท่านเสีย ข้าพเจ้าจึงได้รับอาสามาแต่ผู้เดียว ปรารถนาจะมาแจ้งความให้ท่านทราบ เต็กเซงได้ฟังก็ตกใจ จึงว่ากับลีกีเอ๋งว่า ถ้าท่านไม่คิดอุบายรับอาสามาแจ้งเหตุแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็คงตายในไฟเป็นแน่ บุญคุณของท่านครั้งนี้หาที่เปรียบไม่ ข้าพเจ้าจะไปฆ่าพังหองเสีย ท่านจะเห็นประการใด ลีกีเอ๋งจึงว่า ท่านจะไปฆ่าพังหองในเวลานี้ไม่ได้ ผู้คนก็มาก แล้วเป็นเวลากลางคืน ประตูบ้านก็ใส่กุญแจ กำแพงก็สูงนัก จะหนีไปข้างไหนได้ เต็กเซงจึงว่า ถ้ากระนั้น จะคิดประการใดดี ลีกีเอ๋งจึงบอกว่า ที่ริมกำแพงมีต้นไม้อยู่ต้นหนึ่ง ท่านจงปีนต้นไม้ขึ้นไป แล้วข้ามกำแพงไปบ้านซึ่งติดกันข้างโน้นเถิด บ้านนั้นมิใช่พวกพังหอง ทางอื่นก็ไปไม่ได้ พูดดังนั้นแล้วก็พาเต็กเซงไปถึงต้นไม้ ให้เต็กเซงขึ้นต้นไม้ข้ามกำแพงไป แล้วลีกีเอ๋งก็กลับมา




ตอน ๑๑ ขึ้น ตอน ๑๓