บ้วนฮ่วยเหลา/เล่ม ๑/ตอน ๙

จาก วิกิซอร์ซ
แม่แบบผิดพลาด: มีการลบช่องที่ไม่ได้ใช้ออก โปรดเติมกลับเข้าไป (โปรดดูเอกสารกำกับแม่แบบ)

หน้า ๖๕–๗๑ สารบัญ



เต็กเซงจึงคิดว่า ลิมกุ้ยเป็นแต่บุตรขุนนางเล็กน้อย ครั้นจะบอกไปตามจริง ลิมกุ้ยก็จะดูหมิ่น จึงแกล้งว่า เพลงอาวุธนี้ข้าพเจ้าเรียนมาจากสำนักบิดาข้าพเจ้า ลิมกุ้ยได้ฟังจึงคิดว่า เต็กเซงนี้เป็นเชื้อแถวขุนนางมาก่อน จึงรู้เพลงอาวุธต่าง ๆ มิเสียเชื้อชาติทหาร แต่นั้นมา เต็กเซงก็อยู่กับลิมกุ้ย

ฝ่ายชิงชิว เมื่อได้รับสั่งเป็นผู้กำกับฝึกหัดทหารนั้น ก็เกลี้ยกล่อมคนมาฝึกหัดทหารเพิ่มเติมขึ้นอีกเป็นอันมาก ครั้น ณ วันเดือนแปด ข้างจีนขึ้นสองค่ำ ชิงชิวสั่งให้ทหารมาประชุมพร้อมกันที่สนาม วันนั้นเป็นเวรของลิมกุ้ย ด้วยลิมกุ้ยเป็นนายหมวดทหาร ลิมกุ้ยจึงคิดว่า เต็กเซงนี้มีฝีมือเข้มแข็งควรเป็นทหารได้ วันนี้ก็เป็นเวรของเรา จำเราจะให้เต็กเซงไปฝึกหัดที่สนาม คิดดังนั้นแล้ว ลิมกุ้ยก็ให้เต็กเซงไปฝึกหัดที่สนาม

ฝ่ายเต็กเซง ครั้นลิมกุ้ยให้ไปฝึกหัด ก็มีความโทมนัสนัก จึงคิดว่า เมื่อเราจะลาเฮงเซียนเล่าโจ๊มา เฮงเซียนเล่าโจ๊ก็บอกว่า ให้มาเมืองหลวงก่อนเถิด จะพบญาติและจะได้เป็นขุนนาง บัดนี้ เราต้องมาเป็นทหารรองเขากว่ายี่สิบวันแล้ว ก็หาพบญาติไม่ ตัวเรานี้เพลงอาวุธก็ชำนาญทุกอย่าง กำลังก็แข็งแรง จะมาจำใจให้เขาใช้อยู่ดังนี้ไม่ควร จะต้องคิดอุบายทำหนังสือไว้ที่สนามให้ขุนนางนายทหารรู้ว่า เรามีฝีมือ คิดแล้วก็เขียนหนังสือเป็นคำโคลงไว้ที่ฝาผนังสนามหัด ใจความว่า ตัวเราชื่อ เต็กเซง เปรียบเหมือนหยกอย่างดีมีศิลาห่อหุ้มอยู่ หามีผู้ใดรู้ว่าหยกไม่ ถ้าผู้ใดดูออกแล้วก็ควรจะนำไปถวายพระเจ้าแผ่นดินได้ ครั้นเขียนคำโคลงแล้ว ก็พอจวนขุนนางนายทหารจะมาถึง เต็กเซงก็หลีกไปเสีย

ฝ่ายชิงชิว ผู้กำกับ ครั้นได้เวลาก็มาที่ท้องสนามพร้อมด้วยขุนนางทั้งปวง แลเห็นหนังสือเขียนไว้ จึงให้เตียคลาย ลีฮอง นายทหารทั้งสองไปดู นายทหารทั้งสองอ่านดูแล้วก็มาแจ้งความแก่ชิงชิวตามคำโคลงนั้นทุกประการ ชิงชิวจึงคิดว่า เต็กเซงคนนี้เดิมคนตาย เปาบุ้นจิ้นชำระไม่ได้ จึงให้ปล่อยไป บัดนี้ ยังมาเขียนหนังสืออวดอ้างว่ามีฝีมือเข้มแข็งอีกเล่า จำจะเอาตัวมาทำโทษเสียให้จงได้ คิดแล้วก็ให้ทหารหาตัวเต็กเซงมา

ยังมีทหารผู้หนึ่งชื่อ บังหวน ได้ยินดังนั้น จึงพูดกับชิงชิวว่า ข้าพเจ้าเห็นมีทหารอยู่คนหนึ่งชื่อ เต็กเซง เป็นทหารรองของลิมกุ้ย ท่านจงให้ลิมกุ้ยส่งตัวมาเถิด ชิงชิวได้ฟังดังนั้นแล้ว ก็ให้ทหารไปบอกแก่ลิมกุ้ยให้ส่งตัวเต็กเซงมาโดยเร็ว ทหารก็คำนับลาไปแจ้งความกับลิมกุ้ยตามคำสั่งของชิงชิว ลิมกุ้ยแจ้งความแล้วก็พาตัวเต็กเซงมาให้ชิงชิว ชิงชิวจึงถามเต็กเซงว่า เจ้านี่หรือที่ตีฮูลุนตาย ทำไมจึงมาเขียนหนังสือเป็นคำโคลงไว้ดังนี้ เต็กเซงบอกว่า ข้าพเจ้าอยากจะใคร่เป็นทหาร จึงได้เขียนเป็นคำโคลงไว้ ชิงชิวจึงคิดว่า เราจะคิดฆ่าเต็กเซงเสียให้ได้ในครั้งนี้ คิดแล้วจึงว่า มีรับสั่งให้เราฝึกหัดทหาร เจ้ามาเขียนหนังสืออวดอ้างว่ามีฝีมือเข้มแข็งดังนี้ เป็นการกำเริบเหลือเกินนัก มีโทษมาก ว่าแล้วก็สั่งให้ทหารเอาตัวเต็กเซงไปฆ่าเสีย ทหารก็ตรูกันเข้าไปจับเต็กเซงมัดไว้ เต็กเซงจึงว่า ข้าพเจ้าหามีความผิดไม่ ท่านจะฆ่าข้าพเจ้าด้วยเหตุใด ชิงชิวก็นร้องเร่งให้ทหารเอาตัวไปฆ่าเสียโดยเร็ว

ฝ่ายโลฮวยอ๋อง ผู้บุตรโปอ๋อง ยือหนำอ๋อง ผู้บุตรแต่อิบ ยังเพงอ๋อง ผู้บุตรกอฮวยเต็ก เจงซันอ๋อง ผู้บุตรอูเอียนจั่น ตังเพงอ๋อง ผู้บุตรเชาเปง เจ้าห้าองค์มาดูเขาฝึกหัดทหารที่ท้องสนาม ลิมกุ้ยเห็นเจ้าห้าองค์เดินมา จึงเข้าไปใกล้เต็กเซง แล้วกระซิบบอกว่า เจ้าห้าองค์เสด็จมาโน่นแล้ว เจ้าจงร้องขึ้นเถิดว่า ช่วยด้วย พอเจ้าห้าองค์เสด็จมาใกล้ เต็กเซ็งก็ร้องขึ้นว่า ช่วยชีวิตข้าพเจ้าด้วย ยือหนำอ๋องจึงถามชิงชิวว่า คนที่ร้องช่วยนั้นมีความผิดสิ่งใด จนป่านแล้วแล้วทำไมยังไม่หัดทหารเล่า ชิงชิวจึงแจ้งความว่า ทหารผู้นั้นมาเขียนคำโคลงไว้อวดอ้างว่า มีฝีมือเข้มแข็งหามีผู้ใดเสมอไม่ ข้าพเจ้าเห็นว่า มาอวดอ้างในเวลาฝึกหัดทหารดังนี้ไม่ควร จึงให้ทหารเอาไปฆ่าเสีย จึงยังหาได้ฝึกหัดไม่ ยือหนำอ๋องจึงว่า ทหารผู้นั้นอย่าเพ่อเอาไปฆ่าก่อน จงพาตัวมาให้เรา เราจะถามดู ชิงชิวก็ให้ทหารไปเอาตัวเต็กเซงมา ยือหนำอ๋องเห็นรูปร่างลักษณะเต็กเซงคมสัน ก็มีความเมตตา จึงว่ากับชิงชิวว่า เต็กเซงเป็นทหารใหม่ ซึ่งเขียนหนังสืออวดว่ามีฝีมือนั้น ก็หาใช่เป็นความผิดข้อใหญ่ประการใดไม่ ท่านอย่าเอาไปฆ่าเสียเลย เราขอเสียเถิด ชิงชิวได้ฟังยือหนำอ๋องขอโทษเต็กเซง จึงคุกเข่าลงคำนับแล้วตอบว่า ซึ่งข้าพเจ้าจะทำโทษทั้งนี้ก็ทำตามอาชญาฝึกหัดทหาร ถ้าไม่ฆ่าเต็กเซงเสีย ก็จะหามีผู้ใดยำเกรงไม่ ยือหนำอ๋องจึงว่า เราหาเห็นข้อผิดไม่ ท่านเอากฎหมายอาชญาทัพมาข่มขี่ดังนี้ไม่ชอบ หรือท่านมีข้อสาเหตุสิ่งใดกับทหารคนนี้ พูดแล้วก็สั่งให้แก้มัดเต็กเซงออกเสีย เต็กเซงก็ดีใจ คุกเข่าลงคำนับ แล้วทูลว่า พระองค์ช่วยชีวิตข้าพเจ้าไว้ครั้งนี้พระคุณหาที่สุดมิได้ ยือหนำอ๋องจึงว่า เจ้าเป็นทหารมาอยู่ใหม่ ไม่รู้จักการ เราจะยกโทษให้ครั้งหนึ่ง แต่นี้อย่าทำต่อไป ชิงชิวเห็นยือหนำอ๋องให้ยกโทษเต็กเซงเสีย จึงว่า บัดนี้ มีรับสั่งให้ข้าพเจ้าฝึกหัดทหารเป็นอันมาก เต็กเซงมีโทษถึงที่ตาย ท่านขอเสียก็ตามเถิด แต่จะต้องเฆี่ยนสักแปดสิบที อย่าให้ผู้ใดดูเยี่ยงอย่างกันต่อไป แล้วชิงชิวก็ให้ทหารเฆี่ยนเต็กเซงเสียแปดสิบที ทหารก็เข้าจับเต็กเซงจะเฆี่ยน เจ้าห้าองค์ขอให้เฆี่ยนแต่ยี่สิบที ชิงชิวจึงคิดว่า เราจะฆ่าเต็กเซงเสีย มีเจ้านายมาขัดไว้ จำเราจะฆ่าเสียให้จงได้ คิดแล้วก็สั่งทหารให้เอาไม้ทายาพิษนั้นมาเฆี่ยนเต็กเซงด้วยปรารถนาจะให้เต็กเซงตาย อันยาพิษที่ทาไม้นั้น ถ้าเฆี่ยนผู้ใดมากก็ตายเร็ว ถ้าเฆี่ยนน้อยก็ตายช้า



ตอน ๘ ขึ้น ตอน ๑๐