ข้ามไปเนื้อหา

ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 64/ส่วนที่ 2/ตอนที่ 1

จาก วิกิซอร์ซ
(๒๗) รัชกาลสมเด็จพระนารายน์

ณศักราช ๑๐๔๔ ปีจอศก (พ.ศ. ๒๒๒๕) สมเด็จพระนารายน์เป็นเจ้าเมืองลพบุรีทรงพระประชวรอยู่ณพระที่นั่งสุทธาสวรรค์ พระเพทราชาเข้าไปอยู่ณตึกพระจ่เหา แล้วให้ตำรวจลงมาเชิญเสด็จเจ้าฟ้างอย อภัยทศ พระอนุชาธิราชร่วมพระราชบิดาเดียวกัน ซึ่งเสด็จอยู่ณพระตำหนักในพระราชวังหลัง ว่า มีพระราชโองการให้เชิญเสด็จขึ้นไปเฝ้าณเมืองลพบุรี ครั้นเสด็จขึ้นไปถึงเมืองลพบุรี หลวงสรศักดิ์ให้เจ้าพนักงานกุมออกไปสำเร็จณวัดทราก

ครั้นจวนสวรรคต พะยุงลุกพะยุงนั่งอยู่แล้ว พระปี บุตรขุนไกรสิทธิศักดิบ้านแก่งใหม่ ทรงพระกรุณาเอามาเลี้ยงไว้ให้มีพี่เลี้ยงนางนมดุจหนึ่งลูกหลวง ครั้นทรงประชวรหนักลง ทรงพระกรุณาสั่งให้เข้ามานอนในที่ตรงปลายพระบาท เพลาเช้าตรู่ พระปีออกมาบ้วนปากล้างหน้าณประตูกำแพงแก้ว ชาลาพระที่นั่งสุทธาสวรรค์ ขุนพิพิธรักษา ชาวที่ ผลักพระปีตกชาลาลงไป ร้องได้คำเดียวว่า ทูลกระหม่อมช่วยด้วย เขากุมตัวไปประหารชีวิตเสีย ทรงได้ยินเสียงพระปี เสด็จนั่งขึ้นได้ ตรัสว่า ใครทำไมแก่อ้ายเตี้ยเล่า แล้วเสด็จสวรรคตในวันนั้น

ข้าทูลละอองธุลีพระบาททั้งปวงเข้ามาอยู่ศาลาลูกขุนในพระราชวัง แต่พระยาวิไชเยนทร์อยู่ณตึกบ้าน หาได้เข้ามาไม่ ครั้นรู้ว่า เสด็จสวรรคตแล้ว พระยาหุเสนขานม้าหนีไปเที่ยวอยู่ณบ้านป่า และพระเพทราชาจึ่งว่าแก่พระยาสุรสงครามว่า เจ้าพระยาสุรสงครามได้ชุบย้อม ก็ให้ออกไปหาพระยาวิไชเยนทร์ เห็นจะเข้ามา ถ้าสำเร็จราชการแล้ว จะให้เป็นวังหน้า เจ้าพระยาสุรสงครามจึงใช้ทนายออกไปหาตัวพระยาวิไชเยนทร์ พระยาวิไชเยนทร์จึงว่าแก่ทนายว่า ท่านเขียนด้วยมือแล้วจะมาลบด้วยเท้าเล่า ครั้นมิเข้าไปก็จะโกรธ พระยาวิไชเยนทร์ก็เข้ามาณศาลาลูกขุน แล้วก็กุมตัวไปประหารชีวิตเสีย แลพระยาหุเสนขานซึ่งหนีไปเที่ยวอยู่ป่านั้น ครั้นรู้ไปว่า พระเพทราชาได้ครองราชสมบัติแล้ว ก็กลับเข้ามาเฝ้า ครั้นทรงพระกรุณาตรัสถามว่า พระยาหุเสนขานไปไหนพึ่งมา พระยาหุเสนขานกราบทูลพระกรุณาว่า เจ้าเสด็จสวรรคตแล้ว ยังไม่รู้ว่า ผู้ใดจะเป็นเจ้าใหม่ ข้าพระพุทธเจ้าจึงหนีไปให้พ้น บัดนี้ ข้าพระพุทธเจ้ารู้แล้วว่า พระบาทสมเด็จบรมนาถบรมบพิตรพระเจ้าอยู่หัวได้ขึ้นครองราชสมบัติแล้ว ข้าพระพุทธเจ้าจึงกลับเข้ามาเป็นข้าทูลละอองธุลีพระบาทสืบไป ครั้นสงบราชการแล้ว จึงทรงพระกรุณาสั่งให้เชิญพระบรมศพขึ้นบนพระที่นั่งสุริยามรินทร์ แล้วให้พระสงฆ์สวดแลสดับปกรณ์ตามอย่างธรรมเนียม แล้วจึงทรงพระกรุณาให้ตั้งการพระราชพิธีราชาภิเษกณพระที่นั่งสรรเพ็ชญ์ปราสาท