ผู้ใช้:2heures8/ทดลองเขียน/2
a
[แก้ไข]a1
[แก้ไข]
|
|
May it please Your Majesty,
|
ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าฯ |
a1a
[แก้ไข] In the memorandum which Your Majesty was gracious enough to send me on July 23 Your Majesty asked me to reply to the following nine Questions: |
ในพระราชบันทึกซึ่งทรงพระกรุณาล้นเกล้าฯ ส่งให้ข้าพระพุทธเจ้าเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมนั้น พระองค์ทรงขอให้ข้าพระพุทธเจ้าตอบพระราชปุจฉาเก้าข้อ ดังต่อไปนี้ |
a1b
[แก้ไข] 1st Question. Should the King have the right to choose any prince as his heir? If the King has this right, ought not this right to be extended to a Council of High Princes and Ministers of State in the case when the King dies without having chosen an heir? At present the King alone has the right to nominate an heir. It would be perhaps more logical to allow a Council of some sort to exercise that right when the King has not done so. This would be more consistent with the idea of an elected King. |
ข้อที่หนึ่ง พระเจ้าแผ่นดินควรทรงมีสิทธิเลือกเจ้าชายพระองค์ใด ๆ เป็นรัชทายาทหรือไม่? ถ้าพระเจ้าแผ่นดินทรงมีสิทธิเช่นนี้ ควรหรือไม่ที่สิทธินี้จะขยายไปสู่สภาพระบรมวงศ์และเสนาบดีแห่งรัฐในกรณีที่พระเจ้าแผ่นดินสิ้นพระชนม์โดยมิได้ทรงเลือกรัชทายาทไว้? ในขณะนี้ พระเจ้าแผ่นดินแต่พระองค์เดียวที่มีสิทธิกำหนดรัชทายาท แต่คงจะสมเหตุสมผลมากกว่า ถ้าให้สภาสักสภาใช้สิทธิดังกล่าวเมื่อพระเจ้าแผ่นดินมิได้ทรงกระทำเช่นนั้น ข้อนี้คงจะสอดรับกับแนวคิดเรื่องสมมติราชมากกว่า |
a1c
[แก้ไข] 2nd Question. Should the principle of choices be admitted at all, or ought the succession to be by birth alone, and ought there to be some amendments to the present law or not? |
ข้อที่สอง ควรหรือไม่ที่จะยอมรับหลักการเลือกทุกประการ หรือควรไหมที่ให้จะสืบสันตติวงศ์ด้วยชาติกำเนิดแต่ประการเดียว และควรไหมที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมบางอย่างในกฎหมายปัจจุบัน? |
a1d
[แก้ไข] 3rd Question. Must this country have a parliamentary system one day, and is really the Anglo-Saxon type of parliamentary government suitable to an eastern people? |
ข้อที่สาม วันหนึ่งประเทศนี้ก็ต้องมีระบบรัฐสภาใช่ไหม และการปกครองแบบมีรัฐสภาอย่างแองโกล-แซ็กซันนั้นเหมาะสมแก่ชาวตะวันออกหรือไม่? |
a1e
[แก้ไข] 4th Question. Is this country ready to have some sort of representative government? |
ข้อที่สี่ ประเทศนี้พร้อมหรือยังที่จะมีการปกครองแบบมีผู้แทนสักแบบ? |
a1f
[แก้ไข] 5th Question. What is the best form to give to the Supreme Council? Is it worthwhile to make it a permanent institution of the country, or should it be allowed to die a natural death? |
ข้อที่ห้า กำหนดให้อภิมนตรีสภา[1] มีรูปแบบใดดีที่สุด? คุ้มไหมที่จะให้สภานี้เป็นสถาบันถาวรของประเทศ หรือควรปล่อยให้สภานี้ยุติไปตามยถากรรม? |
a1g
[แก้ไข] 6th Question. Should we have a Prime Minister? Should this system be inaugurated now? |
ข้อที่หก เราควรมีอัครมหาเสนาบดีหรือไม่? ควรเริ่มระบบนี้ตอนนี้เลยหรือไม่? |
a1h
[แก้ไข] 7th Question. Should we have a Legislative Council? What should be the constitution of such a Council? |
ข้อที่เจ็ด เราควรมีสภานิติบัญญัติหรือไม่? องค์ประกอบของสภาเช่นว่านั้นควรเป็นเช่นไร? |
a1i
[แก้ไข] 8th Question. Have you any opinion as to our financial policy? |
ข้อที่แปด ท่านมีความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการคลังของเราบ้างไหม? |
a1j
[แก้ไข] 9th Question. Can something be done to make the Chinese become Siamese as in the old days? |
ข้อที่เก้า ทำอะไรได้บ้างไหมเพื่อให้ชาวจีนกลายเป็นชาวสยามเหมือนเมื่อก่อน? |
a1k
[แก้ไข] In attempting to answer these questions I cannot but feel very humble. The solutions of the problems underlying the questions depend upon such an intimate knowledge of the internal affairs of Siam and of the personalities of her leaders that I cannot but recognize that there are others whose opinions must be worth far more than mine. Indeed my only excuse for venturing these opinions must be that Your Majesty has asked me to do so and that perhaps value can be found in the ideas of an impartial and detached observer whose only object is to promote the welfare of a country he loves. |
ในการเพียรตอบพระราชปุจฉาเหล่านี้ ข้าพระพุทธเจ้าจะรู้สึกอื่นใดมิได้เลยนอกจากความถ่อมตนอย่างยิ่ง การจะแก้ไขปัญหาอันเป็นฐานรากแห่งพระราชปุจฉานี้ขึ้นอยู่กับความรู้อย่างลึกซึ้งในกิจการภายในของสยามและในบุคลิกลักษณะของผู้นำสยาม ซึ่งข้าพระพุทธเจ้าได้แต่ระลึกว่า มีผู้อื่นที่มีความเห็นควรค่ากว่าของข้าพระพุทธเจ้ายิ่งนัก แต่ข้ออ้างอย่างเดียวที่ข้าพระพุทธเจ้ามีในการลองออกความเห็นนี้ ก็คือ พระองค์ได้ทรงขอให้ข้าพระพุทธเจ้ากระทำเช่นนั้น และแนวคิดจากผู้สังเกตการณ์อย่างเป็นกลางและไม่โอนเอียงซึ่งมีเป้าหมายเพียงประการเดียวเป็นการส่งเสริมประเทศที่ตนรักให้เป็นสุขสวัสดีนั้นคงจะมีคุณค่าให้พบเจอได้บ้างกระมัง |
a1l
[แก้ไข] The answers to the above nine questions deal with a variety of subjects and perhaps can best be answered by dealing with each subject Separately. |
คำตอบพระราชปุจฉาเก้าข้อข้างต้นนั้นเกี่ยวพันหลากหลายหัวข้อ และถ้าตอบโดยจัดการทีละหัวข้อแยกไปได้ก็ย่อมดีที่สุด |
a2
[แก้ไข] I. Succession of the throne
|
1. การสืบราชสมบัติ
|
a2a
[แก้ไข] Principle of succession.
|
หลักการสืบสันตติวงศ์ |
a2a1
[แก้ไข] In viewing these problems one must realize at the very outset that the situation in Siam is totally different from that existing in Great Britain and other similar limited Monarchies. What works well in Great Britain might work disastrously in Siam. Siam should not slavishly copy the system of any Western nation, but should evolve out of her own experience what seems best adapted to her own genius and conditions. |
ในการพิเคราะห์ปัญหาเหล่านี้ เราต้องตระหนักแต่แรกเริ่มว่า สถานการณ์ในสยามนั้นผิดแผกโดยสิ้นเชิงกับที่เกิดในบริเตนใหญ่และประเทศราชาธิปไตยแบบจำกัดอำนาจทำนองเดียวกันประเทศอื่น ๆ สิ่งที่ใช้การได้ดีในบริเตนใหญ่ อาจทำงานได้เละเทะในสยาม สยามไม่ควรลอกระบบประเทศตะวันตกใด ๆ มาทั้งดุ้น แต่สิ่งใดที่ดูจะประยุกต์เข้าได้ดีที่สุดกับภูมิปัญญาและสภาพการณ์ของตน ก็ควรนำมาวิวัฒนาผ่านประสบการณ์ของตน |
a2a2
[แก้ไข] In Great Britain the power of the King is so much limited and attenuated and he wields so little power that if an incompetent or corrupt King should come to the throne he could not do vital injury to the country. In Siam, on the other hand, the Monarch wields all power. In Siam if a King lacking in ability, in strength of character, or in integrity of purpose should ascend the throne, he might easily make shipwreck of the country. At the least, he would be almost such to do it tragic injury. It is therefore infinitely more important for Siam to have a competent and strong King than for any country like England. |
ในบริเตนใหญ่ พระราชอำนาจของพระเจ้าแผ่นดินนั้นถูกจำกัดและเจือจางยิ่งนัก และพระเจ้าแผ่นดินทรงถือพระราชอำนาจน้อยนิดถึงขนาดที่ถ้าเกิดมีพระเจ้าแผ่นดินผู้ไร้ความสามารถหรือฉ้อฉลขึ้นสู่ราชสมบัติแล้ว พระเจ้าแผ่นดินพระองค์นั้นจะไม่อาจก่อความเสียหายถึงเป็นถึงตายต่อบ้านเมืองได้ แต่กลับกัน พระมหากษัตริย์ในสยามทรงไว้ซึ่งอำนาจทุกอย่าง ถ้าพระเจ้าแผ่นดินที่ไร้ปรีชา ไร้บารมีอันแข็งแกร่ง หรือไร้ปณิธานที่สมบูรณ์แบบ[2] เกิดได้ขึ้นครองราชย์ในสยาม พระเจ้าแผ่นดินพระองค์นั้นอาจนำความอับปางมาสู่บ้านเมืองได้โดยง่าย อย่างน้อยก็คงจะแทบก่อความเสียหายอันน่าอเนจอนาถให้แก่ประเทศ เพราะฉะนั้น การมีพระเจ้าแผ่นดินที่แกร่งกล้าสามารถนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญเหลือเกินสำหรับสยามยิ่งกว่าสำหรับประเทศใด ๆ อย่างอังกฤษ |
a2a3
[แก้ไข] It would seem to follow that although a country like England can afford to fix the line of succession to the throne by an absolute principle such as primogeniture, Siam, even were such a principle practicable, cannot afford to do so. Since it is absolutely vital that Siam should have a competent and able Monarch, since the welfare of Siam so directly depends upon the degree of competency and ability of her Monarch, it seems clear that Siam’s welfare vitally and directly depends upon her being able to freely select as the Monarch the ablest, the most competent and the strongest of the Royal Princes. Any law which prevents such a freedom of choice and which therefore might necessitate the crowning of an incompetent or weak Monarch because he happens to be the next in line of succession, must make against the ultimate national welfare. In England, where the Premier wields the actual power of government, no one would tolerate the idea of following a fixed line of succession for Premiers, or of adopting any system which would rob the country of its complete freedom of choice. If the King is to continue in absolute power, Siam’s future welfare would seem to depend upon her being free to choose for her Monarch the best man available among the Royal Princes, regardless of rank or age; unless Siam has this freedom she must expect to have from time to time Monarchs who are incompetent or weak, and the national interests will consequently suffer tragically. For these reasons I feel that there should be, no hard and fast law of succession based upon rank, seniority, or any other absolute principle, but rather that the choice should be left free and unhindered so long as it falls upon a Prince of Royal Blood. In order to prevent undue pretensions from these scheming for personal self advancement, it would seem wise that the choice of the heir apparent should be limited to a son of some King and of a Queen of any rank or to persons of Royal Blood; presumable the choice should not be open to some of concubines. |
ที่ดูจะเป็นประเด็นถัดมา คือ แม้ประเทศอย่างอังกฤษจะสามารถกำหนดลำดับการสืบราชสมบัติด้วยหลักการเด็ดขาดดังเช่นความเป็นบุตรหัวปี แต่สยาม ถึงจะนำหลักการดังกล่าวมาใช้ได้ ก็ไม่อาจจะทำอย่างเดียวกันได้ เพราะการที่สยามควรจะมีพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถนั้นเป็นเรื่องสำคัญอย่างล้นพ้น และเพราะความอยู่สุขสวัสดีของสยามนั้นขึ้นอยู่กับพระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์สยามโดยตรง จึงดูจะชัดเจนว่า สวัสดิภาพของสยามนั้นขึ้นอยู่อย่างสลักสำคัญและโดยตรงกับการที่สยามสามารถเลือกสรรผู้ทรงปรีชาที่สุด มีความสามารถที่สุด และแข็งแกร่งที่สุดในหมู่พระราชวงศ์ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ได้โดยอิสระ กฎหมายใด ๆ ที่กีดกันอิสระในการเลือกนี้ และเป็นเหตุให้ต้องถวายราชสมบัติแก่พระมหากษัตริย์ที่ทรงไร้ความสามารถหรืออ่อนแอเพียงเพราะปรากฏว่า พระองค์ทรงอยู่ในลำดับถัดไปที่จะได้สืบสันตติวงศ์ ย่อมเป็นกฎหมายที่ขัดขวางทางเจริญของชาติอย่างถึงที่สุด ในอังกฤษที่ซึ่งมหาเสนาบดี[3] เป็นผู้ทรงอำนาจอย่างแท้จริงในการปกครองนั้น คงไม่มีใครยอมทนกับแนวคิดที่ให้ปฏิบัติตามลำดับการสืบตำแหน่งมหาเสนาบดีแบบตายตัว หรือที่ให้รับระบบใด ๆ ซึ่งจะทำให้ประเทศชาติถูกพรากจากอิสระในการเลือก ถ้าพระเจ้าแผ่นดินจะได้ทรงดำรงอยู่ในสมบูรณาญาสิทธิ์ต่อไป ความเป็นสุขสวัสดีของสยามในวันข้างหน้าก็ดูจะขึ้นอยู่กับการที่สยามมีอิสระในการเลือกยอดคนซึ่งมีอยู่ในหมู่พระราชวงศ์นั้นมาเป็นพระมหากษัตริย์ของตนโดยไม่จำต้องคำนึงถึงพระยศหรือพระชนม์ ถ้าสยามไร้อิสระข้อนี้แล้วไซร้ สยามก็คาดหมายได้ว่า จะได้พระมหากษัตริย์ที่ทรงไร้ความสามารถหรืออ่อนแอมาเป็นระยะ ๆ และประโยชน์ของชาติก็จะพินาศตามไปอย่างน่าเศร้าใจ ด้วยเหตุเหล่านี้ ข้าพระพุทธเจ้าจึงรู้สึกว่า ไม่ควรมีกฎหมายการสืบสันตติวงศ์ที่อิงชั้นยศ ความอาวุโส หรือหลักการเบ็ดเสร็จอื่นใดแบบตายตัวและไม่ยืดหยุ่น แต่ออกจะรู้สึกว่า การเลือกนั้นควรปล่อยให้เป็นอิสระและไม่ถูกขวางกั้น ตราบที่ตัวเลือกจะตกแก่เจ้าชายผู้มีสายพระโลหิต และเพื่อป้องกันผู้ใช้เล่ห์เพทุบายมาอ้างสิทธิโดยมิชอบเพื่อความรุ่งโรจน์ส่วนตนโดยแท้ จึงดูจะเป็นการรอบคอบที่จะให้จำกัดตัวเลือกรัชทายาทไว้ที่พระราชโอรสของพระเจ้าแผ่นดินบางพระองค์กับพระมเหสีไม่ว่ามีพระยศชั้นใด ๆ หรือที่ผู้มีสายพระโลหิต โดยอนุมานได้ว่า ตัวเลือกนี้จะไม่เปิดสู่พระสนมบางตำแหน่ง |
a2b
[แก้ไข] Time of choice.
|
เวลาเลือก |
It would seem to me that the choice of the heir apparent should be made before the death of the King. If the choice is left until after the death of the King, there is great danger that various factions will arise each backing its own candidate, and there is always danger that this might lead to civil war. It is manifestly of the greatest importance that upon the death of the King, all the Royal Princes should be united and stand together in the choice of a successor. This could hardly be assure⟨d⟩ unless the heir apparent is chosen during the lifetime of the King. |
ข้าพระพุทธเจ้าให้รู้สึกว่า การเลือกรัชทายาทนั้นควรกระทำก่อนพระเจ้าแผ่นดินสิ้นพระชนม์ หากปล่อยไว้ไม่เลือกไปจนพระเจ้าแผ่นดินดับขันธ์ ย่อมมีความเสี่ยงอย่างมหันต์ที่ฝักฝ่ายทั้งหลายจะลุกฮือขึ้นพากันหนุนบุคคลที่ตนเสนอ และมีความเสี่ยงอยู่เสมอที่เหตุการณ์นี้จะนำไปสู่สงครามกลางเมือง การที่พระราชวงศ์ทุกพระองค์จะดำรงสามัคคีมั่นและยืนหยัดร่วมกันในการเลือกผู้สืบทอดราชสมบัติเมื่อพระเจ้าแผ่นดินสิ้นพระชนม์นั้น จึงมีความสำคัญใหญ่หลวงอย่างเห็นประจักษ์ชัด แต่ถ้าไม่เลือกรัชทายาทไว้ในระหว่างที่พระเจ้าแผ่นดินยังมีพระชนม์ ก็แทบจะคลายกังวลในเรื่องนี้มิได้เลย |
a2c
[แก้ไข] By whom the choice should be made.
|
ใครควรเลือก |
a2c1
[แก้ไข] I feel quite strongly that the choice of the heir apparent should not be left solely to the King, but that the choice should be made by the King with the advice and consent of the Privy Council. If the choice is made solely by the King, it seems to me that there will be a very real danger that a group of Royal Princes or Ministers may not believe in the wisdom of the King’s choice, or may not concur in it. If this should be the case it would result in a lack of loyalty on the part of such Princes or ministers to the person chosen by the King; and the result upon the death of the King might be disastrous. To give a concrete illustration of that I mean, the King might designate as his successor his newly born infant son. The most patriotic and ablest of the High Princes and Ministers might feel that Siam was at the time in such a critical position that a long period of regency would spell disaster for the country, and might therefore conclude that the only patriotic thing for them to do would be to put aside the infant child and instead place upon the throne a strong and able ruler. Should a considerable faction support the infant child, civil war might result. |
ข้าพระพุทธเจ้าออกจะรู้สึกอย่างแรงกล้าว่า ไม่พึงละให้พระเจ้าแผ่นดินทรงเลือกรัชทายาทโดยลำพัง แต่พระเจ้าแผ่นดินควรทรงเลือกตามคำแนะนำและยินยอมของคณะองคมนตรี ถ้าพระเจ้าแผ่นดินทรงเลือกโดยลำพังแล้ว ข้าพระพุทธเจ้าให้รู้สึกว่า จะเกิดความเสี่ยงอย่างจริงจังยิ่งนักที่พระราชวงศ์หรือเสนาบดีสักกลุ่มจะไม่เชื่อว่า พระเจ้าแผ่นดินได้ทรงเลือกอย่างสุขุม หรือไม่เห็นพ้องกับการเลือกนั้น ถ้ากรณีเป็นเช่นนี้ ก็จะส่งผลให้เจ้าชายหรือเสนาบดีฝ่ายนั้นไม่จงรักภักดีต่อบุคคลที่พระเจ้าแผ่นดินทรงเลือก และเมื่อพระเจ้าแผ่นดินพระองค์นั้นสวรรคต ผลที่จะตามมาก็คงเป็นความวิบัติ จะขอยกตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมสำหรับสิ่งที่ข้าพระพุทธเจ้าหมายความถึงดังนี้ หากพระเจ้าแผ่นดินทรงกำหนดให้พระราชโอรสทารกแรกประสูติของพระองค์ขึ้นเป็นรัชทายาท บรรดาผู้รักชาติที่สุดและปรีชาที่สุดในหมู่พระบรมวงศ์และเสนาบดีอาจรู้สึกว่า ในสภาวะอันวิกฤติเช่นนั้น สยามตกอยู่ในช่วงเวลาที่การมีผู้สำเร็จราชการนาน ๆ จะก่อหายนะแก่บ้านเมือง จึงอาจปลงใจว่า สิ่งเดียวที่พวกตนต้องกระทำด้วยความรักชาติ ก็คือ ยกทารกน้อยนั้นออกไปเสีย แล้วสถาปนาผู้ปกครองที่แกร่งกล้าสามารถขึ้นสู่ราชสมบัติแทน ถ้าเกิดมีฝักฝ่ายไม่น้อยที่สนับสนุนทารกน้อยนั้น สงครามกลางเมืองคงจะตามมา |
a2c2
[แก้ไข] In other words, my feeling is that the unquestioning loyalty of the Princes and Ministers to the heir apparent upon the death of the King is absolutely vital for Siam’s welfare and that the only way to insure such loyalty is to give to the Privy Council a voice in choosing the heir apparent. I therefore feel that the action of His late Majesty in claiming the right to choose his successor alone and unaided, was exceedingly unwise and should not be followed. |
กล่าวอีกแง่ ความรู้สึกของข้าพระพุทธเจ้ามีอยู่ว่า เมื่อพระเจ้าแผ่นดินสิ้นพระชนม์แล้ว การที่เหล่าเจ้าชายและเสนาบดีจะภักดีต่อรัชทายาทโดยปราศจากข้อกังขานั้น เป็นเรื่องสำคัญล้นพ้นต่อสวัสดิภาพของสยาม และทางเดียวที่จะรับประกันความภักดีเช่นนั้น ก็คือ ให้คณะองคมนตรีมีสิทธิ์มีเสียงในการเลือกรัชทายาท ดังนั้น ข้าพระพุทธจึงรู้สึกว่า การกระทำของพระเจ้าอยู่ในพระบรมโกศในการอ้างสิทธิที่จะเลือกผู้สืบราชบัลลังก์โดยลำพังพระองค์และโดยมิให้ผู้ใดเกื้อหนุนนั้น เป็นความโฉดเขลาเหลือเกิน หาควรเจริญรอยตามไม่ |
a2c3
[แก้ไข] It would seem that this choice should be made by means of a secret ballot. If there is to be an actual freedom of choice on the part to the Privy Councillors they must be freed from the embarrassment of having to give an open and nonsecret vote possibly not in accordance with the wishes and desires of the King. The only way to ensure real freedom of choice is by secret balloting. Presumably it should require more than a bare majority to choose the heir apparent. The concurrence of three quarters of those present within the Kingdom might well be required so as to guard against the possibility of a substantial proportion being disloyal to the heir apparent. |
ดูเหมือนว่า การเลือกนี้ควรกระทำด้วยวิธีลงคะแนนลับ ถ้าฝ่ายองคมนตรีจะได้มีอิสระแท้จริงในการเลือกแล้วไซร้ ก็ต้องให้องคมนตรีไม่ตกอยู่ในความอึดอัดใจในการออกหน้าออกตาลงคะแนนเสียงซึ่งเป็นไปได้ว่าจะขัดกับพระราชประสงค์และเจตจำนงของพระจ้าแผ่นดิน หนทางเดียวที่จะมั่นใจได้ว่าจะมีอิสระจริง ๆ ในการเลือก ก็คือ ใช้การลงคะแนนลับ อนุมานได้ว่า ในการเลือกรัชทายาทนั้น ควรต้องมีอะไรสักอย่างยิ่งกว่าเสียงข้างมากเปล่า ๆ อาจเป็นการดีที่จะกำหนดให้ได้รับความเห็นพ้องจากสามในสี่ของบรรดาองคมนตรีที่มีตัวอยู่ในราชอาณาจักร เพื่อป้องกันความเป็นไปได้ที่สัดส่วนหลักจะเป็นผู้ไม่ภักดีต่อรัชทายาท |
a2c4
[แก้ไข] A further question arises as to whether the choice of heir apparent should be made by the Privy Council or by the Council of High Princes and Ministers of State. If the foregoing ideas are Sound, it would seem clear that the choice should be made by the body which is most truly representative of the various and diversified interests of the Kingdom and which most nearly reflects the opinion of the controlling people. This would seem to be the Privy Council. Also, if the premier form of Government as suggested below is adopted, the choice clearly should be made by the Privy Council, for, since the Council of High Princes and Ministers of State is so small that the Ministers form a majority of the group, a scheming Premier could absolutely control the choice of the heir apparent by compelling the Ministers to vote for his own choice. This would not be possible in a body as large as the Privy Council. |
เกิดคำถามเพิ่มว่า คณะองคมนตรี หรือสภาพระบรมวงศ์และเสนาบดี ควรเป็นผู้เลือกรัชทายาท? ถ้าแนวคิดข้างต้นนั้นฟังขึ้น ก็คงแจ่มแจ้งแล้วว่า ผู้เลือกควรเป็นองค์กรที่เป็นสื่อแทนประโยชน์อันมากมายหลายหลากของราชอาณาจักรอย่างแท้จริงที่สุด และเป็นเครื่องสะท้อนที่ใกล้เคียงที่สุดถึงความคิดเห็นของกลุ่มบุคคลที่อยู่ในอำนาจควบคุม ซึ่งดูแล้วอาจได้แก่ คณะองคมนตรี อนึ่ง ถ้าตกลงรับการปกครองแบบมีมหาเสนาบดีตามที่เสนอไว้ข้างล่างนี้ ก็เป็นที่กระจ่างแจ้งว่า ผู้เลือกควรเป็นคณะองคมนตรี เพราะการที่สภาพระบรมวงศ์และเสนาบดีมีขนาดเล็กจนเสนาบดีกลายเป็นเสียงส่วนใหญ่ในกลุ่มนั้น จะทำให้มหาเสนาบดีที่เจ้าเล่ห์แสนกลสามารถคุมการเลือกรัชทายาทได้โดยสิ้นเชิงด้วยการบีบให้เสนาบดีลงคะแนนให้แก่ตัวเลือกของตน เรื่องเช่นนี้คงไม่อาจเกิดขึ้นได้ในองค์กรที่มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับคณะองคมนตรี |
a2d
[แก้ไข] Provisional nature of choice.
|
สภาพชั่วคราวของการเลือก |
a2d1
[แก้ไข] Conditions are continually changing. Children are born, boys come to age, certain individuals die, some, through the course of time prove weak or incompetent, and others gain strength and prove their worth. If therefore seems important to me that the choice of the heir apparent should not be irrevocable. I should like to see the choice made a provisional one which could be freely changed as conditions change. I should suggest that the King and Privy Council consider the question of choosing the successor to the King afresh at intervals of every five or ten years; that at the end of every such period the new conditions should be given consideration, and the best man as viewed in the light of that time should then be chosen. This choice should be regarded in the light of a purely provisional choice rather than of an appointment. Clearly there should be no actual appointment and no official announcement should be made. Neither should additional rank be given to the person chosen. Otherwise his position should a different man later be chosen, would be too hard. The suggestion of making the choice purely a provisional one would have the additional advantage that no one could feel secure that he would ascend the throne upon the death of the existing King. The position of the heir apparent is a very difficult one. He becomes surrounded with men seeking to flatter him in order to gain his good opinion and thus to acquire power when he comes to the throne. Conditions all seem to tend in the direction of warping his character and thereby rendering him less fit later to perform his duties as King. If no one could feel secure in the position of heir apparent and if the choice were recognized as an entirely provisional one, it seems to me that it would be advantageious from the viewpoint of shaping the character of the person provisionally chosen as the heir apparent. |
สภาพการณ์นั้นเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อย ๆ เด็ก ๆ เกิดมา เด็กชายกลายเป็นหนุ่ม บางคนตายจากไป บางคนเมื่อเวลาผ่านไปก็กลับกลายเป็นว่าอ่อนด้อยน้อยความสามารถ ส่วนคนที่เหลือได้มาซึ่งความกล้าแกร่งและแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของตน ฉะนั้น ในความรู้สึกของข้าพระพุทธเจ้า จึงสำคัญนักที่การเลือกรัชทายาทจะต้องไม่เป็นเรื่องที่เพิกถอนไม่ได้ ข้าพระพุทธเจ้าอยากเห็นการเลือกที่มีผลเพียงชั่วคราว ซึ่งเมื่อสภาพการณ์เปลี่ยนไป ก็เปลี่ยนแปลงได้อย่างอิสระ ข้าพระพุทธเจ้าใคร่เสนอให้พระเจ้าแผ่นดินกับคณะองคมนตรีใคร่ครวญคำถามในการเลือกผู้สืบทอดพระเจ้าแผ่นดินเสียใหม่ทุก ๆ ระยะห้าปีหรือสิบปี เมื่อสิ้นระยะเวลาเช่นว่านั้น ควรยกสภาพการณ์ใหม่ ๆ ขึ้นพิจารณากัน และบุคคลที่มองกันในยามนั้นว่าเป็นยอดคน ก็ควรได้รับเลือก การเลือกเช่นนี้ควรถือเป็นการเลือกไว้เพียงชั่วคราวมากกว่าจะเป็นการแต่งตั้ง เป็นที่ชัดเจนว่า ไม่ควรมีการแต่งตั้งเป็นจริงเป็นจังหรือแต่งตั้งเป็นทางการ ทั้งไม่ควรประทานยศศักดิ์เพิ่มเติมให้แก่ผู้ได้รับเลือก มิฉะนั้น สถานะของผู้นั้นอาจแข็งแกร่งเกินไป ยิ่งถ้ามีคนอื่นได้รับเลือกในภายหลังอีก การเสนอให้ถือว่าการเลือกเป็นเรื่องชั่วคราวโดยสิ้นเชิงนั้นจะมีประโยชน์เพิ่มเติมตรงที่จะไม่มีใครรู้สึกมั่นใจว่าตนจะได้ขึ้นสืบราชสมบัติเมื่อสิ้นพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ปัจจุบันเป็นแน่ ตำแหน่งรัชทายาทนั้นเป็นสิ่งลำเค็ญเหลือหลาย ผู้คนที่รายล้อมจ้องจะหาทางสอพลอเพื่อให้รัชทายาทมีความคิดที่ดีต่อตน พอรัชทายาทขึ้นครองราชย์แล้ว ตนก็จะได้อำนาจบ้าง สภาพการณ์นั้นดูจะมีแนวโน้มไปในทางที่จะต้องทำให้บารมีรัชทายาทบิดเบี้ยวสักหน่อย ซึ่งจะเป็นการลดทอนความเหมาะสมของรัชทายาทในการปฏิบัติราชกิจในฐานะพระเจ้าแผ่นดินในภายหลัง ถ้าทำให้ไม่มีใครรู้สึกมั่นใจในตำแหน่งรัชทายาทได้ และถ้ามอบว่าการเลือกนั้นเป็นเรื่องชั่วคราวทุกประการแล้ว ข้าพระพุทธเจ้าก็รู้สึกว่า จะมีประโยชน์ในแง่ที่จะขัดเกลาบารมีของบุคคลที่ได้รับเลือกเป็นรัชทายาทชั่วคราว |
a2d2
[แก้ไข] If the newly elected King should die before his successor has been chosen, then it would seem best to follow out the same principles, i.e. the Privy Council should meet and choose from the Royal Princes freely and without restriction whoever seems to them best fitted and most competent to carry out the duties of the King. |
ถ้าสมมติราชพระองค์ใหม่เกิดสวรรคตก่อนมีการเลือกผู้สืบทอดพระองค์แล้ว ก็คงดีที่สุดที่จะดำเนินตามหลักการเดียวกัน กล่าวคือ คณะองคมนตรีพึงประชุมกันเลือกอย่างมีอิสระและไม่มีข้อจำกัด ซึ่งผู้ใดก็ตามในหมู่พระราชวงศ์ที่ตนเห็นว่า เหมาะสมที่สุดและมีความสามารถที่สุดที่จะบำเพ็ญพระราชกิจของพระเจ้าแผ่นดินได้ |
a2d3
[แก้ไข] The foregoing suggestions, it would seem to me, are those best calculated to secure the most competent and ablest man for the Kingship. It would probably also lessen the likelihood, of regencies which are apt to be exceedingly dangerous in a country like Siam, where absolute power is vested in the King. |
30 |
a2d4
[แก้ไข] Therefore, for all these reasons, my answer to the 1st. and 2nd. questions which Your Majesty proposed are as follows: |
31 |
a2d5
[แก้ไข] The King should have the right to choose any Royal Princes whatever as his heir, but not without the advice and consent of the Privy Council. This suggestion, as Your Majesty intimated, would be more consistent with the idea of an elected King; and it would very greatly strengthen the position and influence of the new King. |
32 |
a2d6
[แก้ไข] If these ideas are sound, the present law of succession should be dropped and a new fundamental law in accordance with these ideas should be framed and promulgated. |
33 |
a3
[แก้ไข] II. Framework of government
|
34 |
a3b
[แก้ไข] I do not think that it is practicable to consider at this time the organization of a popular representative parliament in Siam. A workable parliament is absolutely dependent upon on intelligent electorate. Without intelligent control by the people such a body would be sure to degenerate into a corrupt and tyrannical body. Until the rank and file of people in Siam have generally received a higher to education then at present it would seem therefore to be exceedingly dangerous to try to set up a populary controlled parliamentary body. It therefore seems inescapable that as least for the present absolute power must continue to rest in the King. |
35 |
a3c
[แก้ไข] Absolute Monarchy can never be free from the great and vital danger of an incompetent or weak King. In the hands of an enlightened Monarch, such as King Chulalongkorn, rapid progress can be made and national interests can be greatly advanced; but if an incompetent or weak Monarch comes to the throne all the progress of a former reign may be lost and the country may be faced with the dire alternative of disaster or revolution. Anything which will help to prevent such disastrous abuse of power will tend to promote the ultimate welfare of the Monarchy. |
36 |
a3d
[แก้ไข] Viewed from this light the system of government by a Premier would seem to have distinct advantages. In the first place, if the actual work of government is committed to a Premier, if corruption creeps into the government or if intriguers or self-interested cliques manage to obtain the reins of power, as long as the King remains sincere and is accessible to others. The Premier can always be removed and the group of intriguers upset, whereas a King cannot be removed. In other words, in every country there should always be held in reserve some power other than revolution, to remove one who proves himself in actual practice unfit for the carrying on of the government, and in a country like Siam this reserve power logically should be exercised by the King. By the transfer of the detailed work of government from the shoulders of the King to these of an appointed Premier, Siam would achieve a reserve power which would make possible through peaceful means the removal of whoever proves unfit to do the work of government; and in this way, the country would gain a guarantee against incapacity and possible tyranny on the part of the one carrying on the actual operations of government. |
37 |
a3e
[แก้ไข] In the second place, the system of government by a Premier has the advantage of allowing a complete freedom in the selection of the one responsible for the carrying on of the government. The person thus selected need not be confined necessarily to Royal Blood, nor to Kingly rank, but can be selected with absolute freedom with a view solely to ability for the work of government. The work of carrying on the government may be placed upon the shoulders or whoever of all the man in the Kingdom in best fitted for the task by reason of his integrity, his strength of character, his executive capacity, and his ability to translate desired policies into practical achievement. |
39 |
a3f
[แก้ไข] A third advantage of the system of Government by a Premier is that under a Premier the work of the separate Ministers can be more easily unified and co-ordinated. During the last reign one could not but feel that much was lost by a lack of co-ordination among the separate Ministers, and in those fields of work which spred beyond the sphere of any single Ministry progress was often hampered or entirely blocked. It is the duty of a Premier to formulate the general policies to be followed by the Government and to unify the work of all the separate Ministries so as to attain these desired policies. To do so the Premier must be constantly accessible to every one engaged in the work of carrying out these policies. A Premier can be thus accessible in a way which is not open to a King, many of the difficulties of the late reign were due to the fact that His later Majesty was not freely accessible to these actually carrying on the work of the government, and he therefore often made decisions based upon opinions gained from a single self-interested clique which did not make for the welfare of Siam. Because these who care most for Siam and who exercised wise judgment frequently could not reach him, he frequently failed to know the truth underlying the situations with which he dealt, and therefore acted in ignorance sometimes with regrettable results. |
40 |
a3g
[แก้ไข] A fourth advantage of the system of Premier Government is that it allows a division of work. Upon the King falls the inescapable duty of performing innumerable ceremonials, all of which require time and strength. Upon the King also must fall the decision of all questions of large national policy,―a task exacting the best of any men’s time and strength. Problems involving the family affairs of the Royal Family also fall upon the King’s shoulders, as well as innumerable other duties which no King can escape. These responsibilities are more than sufficient to consume the full time and strength of any one man. If to all these is added the weighty burden of carrying on the actual work of Government and deciding the multitudinous and endless minor questions which the conduct of government unforgivingly requires, the burden becomes too great for any single man to bear. The work of actual government is strenous and exhausting, far more so than most people realize. If all this work is thrown upon the King in addition to his other grave responsibilities and burdens, either he will break under the strain during a course of years, or else he will be compelled to neglect, through sheer physical incapacity, reading many State papers which the one responsible for the government ought to read and seeing many people which such a man ought to see. It is almost inevitable that he will, become tired and discouraged and in time fall into the hands and under the power of an intriguing, clever group scheming for their own self-advancement instead of for the welfare of Siam. This was not true in the early days when the task of government had not assumed such large proportions as it does to-day, and when the work of government was simple & comparatively easy. As the work of government becomes more and more complex, however, the time will soon come, if it has not already done so, when no single man can possibly perform all the Ceremonials which the King must perform. properly decide large issues of national policy, settle questions arising in the Royal Family, and in addition at the same time carry on the arduous and strenous work of detailed government. |
41 |
a3h
[แก้ไข] For all these reasons it would seem manifest that the King should be relieved from the hard work of government and that this should be instead upon the shoulders of a Premier appointed by the King. Such an arrangement does not mean that the King would be shron of his power. The ultimate power would still rest with the King. It would mean that the King would place upon the Premier the responsibilities for carrying on the government and that the Premier would always be responsible to the King. The King would be relieved of much of the detailed burden of government; but questions of large policy would still be referred for decision to the King. |
42 |
a3i
[แก้ไข] Under such a scheme it would be vital and essential that all responsibility should be concentrated in the Premier. He therefore should alone have the power of appointing the Ministers of State, who would be responsible for the conduct of the work in their Ministries directly and immediately to the Premier all questions should go from the ministries directly to the Premier. Under such a scheme it would seem vital that the King should not himself select or choose any of the Ministers. If he did so the Premier could not be made responsible for the work of the Ministers thus chosen. Responsibilities in such a case would rest rather with the King; whereas the whole underlying conception of government by a Premier is rather to concentrate responsibility in the Premier so that for any and all mistakes or errors in the work of the Ministers the King can blame and hold entirely responsible the Premier under whose control and direction the work is carried on. |
43 |
a3j
[แก้ไข] There is one danger which must be faced under such a system. It is possible that the Premier might seek to absorb so much power that he would become a rival or even overshadow the King, as was the case, for example, with the Shoguns in Japan. Although this is a possible danger, I do not feel it is a very real one under the conditions existing in Siam. unless indeed the King should be so manifestly incompetent or unfit for his duties that he ought to be stripped of power. If the Premier seemed to be scheming for personal power the King could of course always remove him. If, nevertheless, such a danger were felt to real might be guarded against by various possible methods. For instance, the Ministry of War or of National Defence might be placed directly under the King and therefore made entirely independent of the Premier. In this way the King could keep direct control of the Army and see that only officers loyal to him were appointed. Under such a scheme the Ministry of War would have to be separately budgeted for and entirely separated from the other work of government. In my opinion, however, such a precaution as keeping the Army out of the control of the Premier would under the conditions now prevailing in Siam be unnecessary. |
44 |
a3k
[แก้ไข] I quite realize that there are many difficulties which must be faced in creating a form of Government by a Premier. Both the conception of making the various Ministries responsible to the Premier instead of to the King and the idea of the Premier or a Minister resigning because he personally disagrees with the policy educated by his superior although he is well qualified for his post and entirely acceptable to his superior, are quite foreign to the ideas at present generally prevailing in Siam, and would have to be developed cautiously and with care. Nevertheless, both of these ideas must be thoroughly learned before Parliamentary Government can be achieved; and if, as I hope, Siam will one day achieve some form of Parliamentary Government, these prerqulsite ideas must first be mastered and generally understood by the people. If these first steps to Parliamentary Government must be mastered some day, I see no reason why they should not be mastered now. |
45 |
a3l
[แก้ไข] Very much, of course, depends on personalities. Is it possible at this time to secure some one competent and willing to undertake the infinitely important task of accomplishing this transformation and carrying on the Government as Premier? The programme to be followed vitally depends upon the answer to this question. |
46 |
a3m
[แก้ไข] In answer to the 3rd. and 4th. questions proposed by Your Majesty, my answer is that Siam I hope some day may have a parliamentary form of government, but that the country is not yet prepared for representative government. I believe that these who are shaping the destinies of Siam should not lose sight of a representative form of government at some future time when the spread of education makes this possible; for I believe that some such form of Government is inevitable and desirable with the growth of education and widespread intelligence among the population. Whether or not the form of government should be the Anglo-Saxon type of parliamentary government is a question which need⟨s⟩ not to be decided at this time. My own hope is that Siam will never become completely Westernized but will retain in her development her own individuality. Her institution, governmental and otherwise, should not be blindly copied from Western nations, but should be the result and out growth of her own genius and experience. |
47 |
a4
[แก้ไข] III. Financial affairs
|
48 |
a4b
[แก้ไข] In the 8th. question Your Majesty asks whether I have any opinion as to Siam’s financial policy. Since I am not a financial expert, I think I should leave such question for the advice of a man like Sir Edward Cook, who is far better equipped than I to advise on the financial policy of Siam. Nevertheless, therefore one or two matters concerning which I feel rather strongly, but upon which because they are quite unrelated to the other subjects of this Memorandum I shall speak very briefly. |
49 |
a4c
[แก้ไข] Siam, in my opinion, should not be so largely dependent upon a single crop. In the case of unfavourable weather conditions and a consequent shortage or failure to the rice crop, it means that Siam suffers unduly, and is sometimes placed in a temporarily precarious financial situation. It does not seem wise to place on one’s eggs in a single basket. I therefore sometimes wonder whether Siam ought not to take steps to engage in the cultivation of some secondary crop, such as tobacco. I have been informed that there is no reason, so far as climatic conditions are concerned, why tobacco should not be produced in Siam and that it could be produced in the off seasons between the rice crops. Why should Siam not profit, as Java has done from large tobacco crops? Not only would this diversify Siam’s crops, but it would of course considerably increased the national production and the consequent revenues of the government. Similarly, there seems reasons why Siam should not grow hemp and other similar products. |
50 |
a4d
[แก้ไข] Might not more assistance also be given to effects to obtain the of a more standard and better rice seed, and thus to standardize the rice produced in Siam and to improve the quality of the crop? Again, might not the fisheries be protected and the production of fish thus increased? I believe that certain kinds of fisheries are now being injured through lack of protection, with proper fish protection and an efficient Fishery Department not only could this injury be stopped but the amount of fish available for food actually increased. |
51 |
a4e
[แก้ไข] The idea which I am trying to suggest is that the production of Siam should be stimulated an increased in order to increase the prosperity of the country. All this would seem largely dependent upon the efforts of the Department of Agriculture but that Department of course, is helpless to undertake such activities without adequate funds. Inasmuch as the future prosperity of Siam depends largely upon the stimulation and increase of her agricultural resources, does it not seem that perhaps a greater proportion of the revenues of the Kingdom should be allotted to the Ministry of Agriculture than that at present allowed? Might not a similar remark be made with reward to the Ministry of Education, whose work again vitally concerns the future development of Siam? The thought in the back of my mind with regard to the question of financial policy is the fundamental problem of whether it might not be wise to reconsider afresh the proportion of revenues allotted to each Ministry in the light of the future hope of Siam. |
52 |
a4f
[แก้ไข] During the year B.E. 2467 out of a total national expenditure of Tcs. 96,452,497.00 the expenditure of the Ministry of Lands and Agriculture was only Tcs. 4,177,709.00 and of the Ministry of Education only Tcs. 2,640,344.00⟨.⟩ Should not the allotment of revenues as between the different Ministries be freshly considered and determined more in accordance with ⟨what⟩ will make for the greates⟨t⟩ prosperity and strongest Siam of the future? |
53 |
a4g
[แก้ไข] The 9th. question which Your Majesty proposed is whether anything can be done to make the Chinese become Siamese as in the old days. This is a matter of such far reaching importance that I do not feel that I ought to venture an opinion as to it without considerably more study than that which I have been able to devote to it in the two days since Your Majesty’s questions were put to me. I shoul⟨d⟩ like before coming to any definite conclusions to discuss further with Your Majesty certain underlying problems of policy upon which this question must ultimately depend. |
54 |
a5
[แก้ไข] In order to put into concerte shape some of the ideas which I have expressed to Your Majesty, and in compliance with Your Majesty’s desire I have put into the form of a preliminary draft of a short constitution the framework of the government discussed above. I am sure that Your Majesty will understand that this is not intended in any sense as a finished document but merely as a hasity prepared starting point upon which to base later discussions. |
55 |
|
56 |