พจนานุกรมกฎหมาย/ฎ

จาก วิกิซอร์ซ
สารบัญ

คำนำ · คำชี้แจง · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · ·

ฎ.
ฎีกา
ฎีกา  (๑) ฟ้องอุทธรณ์คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ หรือกล่าวโทษเสนาบดีเจ้ากระทรวงในข้อที่เกี่ยวด้วยหน้าที่ราชการซึ่งห้ามไม่ให้ฟ้องร้องยังโรงศาลได้ (พ.ธ.ย. มาตรา ๕) (๒) ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอรับพระมหากรุณาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยตรง (พระราชกฤษฎีกาวางระเบียบการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา พ.ศ. ๒๔๕๗)
 คดีที่ห้ามมิให้ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา นับว่ายุตติเพียงศาลอุทธรณ์นั้น มีดังนี้ คือ—
 (๑) ความอาชญา—
 (ก) คดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้คงตามศาลเดิมให้ยกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง (พ.ร.บ. ลักษณะฎีกาอุทธรณ์ พ.ศ. ๒๔๖๑ มาตรา ๕)
 (ข) คดีที่ศาลพิพากษาให้คงตามศาลเดิม หรือเพียงแต่แก้ไขเล็กน้อย และให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน ๕ ปี หรือปรับเป็นพินัย หรือทั้งจำทั้งปรับแต่โทษจำไม่เกิน ๕ ปี (พ.ร.บ. ลักษณะฎีกาอุทธรณ์ พ.ศ. ๒๔๖๑ มาตรา ๓)
 (ค) คดีที่ศาลเดิมได้พิพากษาลงโทษจำเลยไม่เกิน ๑ ปี ปรับเป็นพินัยหลวงไม่เกิน ๑๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แม้ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาแก้ไขมากก็ดี แต่คงให้ลงโทษจำเลยไม่เกินกำหนดที่ว่ามานี้ (พ.ร.บ. ลักษณะฎีกาอุทธรณ์ พ.ศ. ๒๔๖๑ มาตรา ๖)
 (๒) ความแพ่ง—
 (ก) คดีมีทุนทรัพย์ที่ฟ้องหากันเป็นจำนวนไม่เกิน ๒๐๐๐ บาท หรือ
 (ข) คดีที่ไม่มีทุนทรัพย์ เช่น คดีฟ้องอย่า, ฟ้องห้าม, ฟ้องขับไล่, ฟ้องให้เปิดทาง เป็นต้น
 เมื่อศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาคงตามศาลเดิมหรือเพียงแต่แก้ไขเล็กน้อย (พ.ร.บ. ลักษณะฎีกาอุทธรณ์ พ.ศ. ๒๔๖๑ มาตรา ๔)
 ตามข้อความที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ ห้ามมิให้ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาในข้อเท็จจริง เว้นไว้แต่—
 (ก) ผู้พิพากษาคนใดคนหนึ่งซึ่งได้พิจารณาในชั้นศาลเดิมและศาลอุทธรณ์เห็นว่า คดีเป็นปัณหาสำคัญอันควรยกขึ้นสู่ศาลสูงสุดและอนุญาตให้ถวายฎีกา หรือ
 (ข) อธิบดีกรมอัยยการได้ลงชื่อรับรองในฎีกาว่า มีเหตุอันสมควรที่ศาลสูงสุดจะได้วินิจฉัย
 (พ.ร.บ. ลักษณะฎีกาอุทธรณ์แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๔๖๙ มาตรา ๗)
 () คดีที่เกี่ยวกับคนบังคับอังกฤษแลคนบังคับฝรั่งเศสที่ได้พิพากษาโดยศาลคดีต่างประเทศหรือศาลต่างประเทศตามสัญญาทางพระราชไมตรี ห้ามมิให้ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาในข้อเท็จจริง (ดู ข้อบังคับว่าด้วยการพิจารณาคดีซึ่งเกิดขึ้นภายหลังวันใช้หนังสือสัญญาทางพระราชไมตรีระวางกรุงสยามกับอังกฤษ พ.ศ. ๒๔๖๘ ข้อ ๙ และข้อบังคับสำหรับศาลตามหนังสือสัญญาทางพระราชไมตรีระวางกรุงสยามกับฝรั่งเศส พ.ศ. ๒๔๖๗ ข้อ ๖–๑๑)
 () คดีล้มละลาย หรือสาขาคดีล้มละลาย ห้ามมิให้ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาในปัณหาข้อเท็จจริง (พ.ร.บ. ลักษณะล้มละลาย ร.ศ. ๑๓๐ มาตรา ๗๙)
 ส่วนการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอรับพระมหากรุณาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยตรงนั้น มีดังนี้ คือ—
 (๑) ขอพระราชทานพระมหากรุณาลดหย่อนผ่อนโทษซึ่งศาลหลวงใด ๆ ตั้งแต่ศาลฎีกาลงไปได้วางบทแล้วตามพระราชกำหนดกฎหมาย (แต่ไม่ใช่โต้แย้งคำพิพากษาของศาลนั้น ๆ)
 (๒) ขอพระราชทานพระมหากรุณาขอรับพระราชทานพระราชานุเคราะห์ในกิจส่วนตัวเพื่อปลดเปลื้องความทุกข์อันจะหาหนทางปลดเปลื้องโดยอาการอื่นไม่ได้นอกจากขอรับพระราชทานพระมหากรุณาโดยตรง
 (๓) กล่าวโทษเจ้าหน้าที่ผู้ใช้อำนาจนอกเหนือที่สมควรแก่หน้าที่ราชการซึ่งตนปฏิบัติอยู่ หรือใช้อำนาจนั้นโดยอาการอันรุนแรงเกินเหตุจนทำให้ข้าแผ่นดินได้ความเดือดร้อน
 (๔) กล่าวโทษเจ้าหน้าที่ผู้ประพฤติทุจริตในหน้าที่ มีการใช้อำนาจทางราชการเพื่อกดขี่ข่มเหงหรือฉ้อราษฎร์บังหลวง เป็นต้น
 (พระราชกฤษฎีกาวางระเบียบการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา พ.ศ. ๒๔๕๗)