พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติไห้ไช้บทบัญญัติบัพ 5ฯ พุทธสักราช 2486 (รก.)
19 มิถุนายน 2486
เล่ม 60 ตอนที่ 32
ราชกิจจานุเบกสา
ประมวนกดหมายแพ่งและพานิช พุทธสักราช 2477
คนะผู้สำเหร็ดราชการแทนพระองค์
(ตามประกาสประธานสภาผู้แทนราสดร
ลงวันที่ 4 สิงหาคม พุทธสักราช 2480
และวันที่ 16 ธันวาคม พุทธสักราช 2484)
ปรีดี พนมยงค์
เปนปีที่ 10 ไนรัชกาลปัจจุบัน
โดยที่เห็นสมควนขยายการไช้บทบัญญัติบัพ 5 แห่งประมวนกดหมายแพ่งและพานิช ไห้ทั่วถึง เพื่อความมั่นคงและวัธนธัมแห่งชาติ
และโดยที่มีเหตุฉุกเฉินซึ่งจะเรียกประชุมสภาผู้แทนราสดรไห้ทันท่วงทีมิได้
จึงมีพระบรมราชโองการไห้ตราพระราชกำหนดขึ้นไว้ โดยอาสัยอำนาจตามความไนมาตรา 52 ของรัถธัมนูญแห่งราชอานาจักรไทย ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชกำหนดนี้ไห้เรียกว่า “พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติไห้ไช้บทบัญญัติบัพ 5 แห่งประมวนกดหมายแพ่งและพานิช พุทธสักราช 2477 พุทธสักราช 2486”
มาตรา 2 ไห้ไช้พระราชกำหนดนี้ตั้งแต่วันประกาสไนราชกิจจานุเบกสาเปนต้นไป
มาตรา 3 ไห้ยกเลิกมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติไห้ไช้บทบัญญัติบัพ 5 แห่งประมวนกดหมายแพ่งและพานิช พุทธสักราช 2477 แต่ไม่ไห้กะทบกระเทือนถึงการสมรสของบุคคลซึ่งนับถือสาสนาอิสลาม ซึ่งได้มีหยู่ก่อนวันไช้พระราชนี้ และทั้งสัมพันธ์ไนครอบครัวอันเกิดแต่การสมรสนั้น ๆ
จอมพล ป. พิบูลสงคราม
นายกรัถมนตรี
มาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติไห้ไช้บทบัญญัติบัพ 5 แห่งประมวนกดหมายแพ่งและพานิช พุทธสักราช 2477 มีข้อความดังนี้
“มาตรา 6 บทบัญญัติแห่งบัพนี้ไม่กะทบกะเทือนถึงกดข้อบังคับสำหรับปกครองบริเวนเจ็ดหัวเมือง ร.ส. 120 ในส่วนที่เกี่ยวด้วยครอบครัว”
งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตามมาตรา 7 (2) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า
- "มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
- (1) ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
- (2) รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
- (3) ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
- (4) คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
- (5) คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"