พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา/ภาค 3
หน้าตา
งานนี้ยังไม่เสร็จ สามารถดูและร่วมพัฒนาได้ที่ดัชนีนี้: 1 |
พระราชพงษาวดาร
ฉบับพระราชหัดถเลขา
ภาค ๓
ฉบับพระราชหัดถเลขา
ภาค ๓
พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์
กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช
พิมพ์ขึ้นเปนส่วนพระกุศลทานมัยในงานพระศพ
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ (ชั้น ๓) กรมหลวงวรเสฐสุดา
พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าอุบลรัตนนารีนาค
กรมขุนอรรควรราชกัญญา
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้าจันทราสรัทวาร
กรมขุนพิจิตรเจษฎจันทร์
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้าเยาวมาลย์นฤมล
กรมขุนสวรรคโลกย์ลักษณวดี
สารบานเรื่อง | |||
ระหว่างจลาจล จุลศักราช ๑๑๒๙–๑๑๓๐ | |||
พระยากำแพง (สิน) ลงไปตั้งที่เมืองระยอง |
น่า
|
๑ | |
พระยากำแพง (สิน) ประกาศตั้งตัวเปนเจ้า |
”
|
๒ | |
ไพร่พลเรียกพระยากำแพง (สิน) ว่าเจ้าตาก |
”
|
๒ | |
ขุนราม หมื่นซ่อง กับกรมการเมืองระยอง เข้าปล้นทัพเจ้าตาก |
”
|
๓ | |
เจ้าตากรบชนะพวกกรมการเมืองระยอง |
”
|
๔ | |
เจ้าตากเกลี้ยกล่อมพระยาจันทบุรี |
”
|
๔ | |
พม่าเรียกต้นไม้ทองเงินเมืองจันทบุรี |
”
|
๖ | |
เจ้าตากจับหลวงบางลมุงผู้ถือหนังสือของพม่าได้ |
”
|
๖ | |
เจ้าตากให้ไปขอกองทัพเมืองพุทไธมาศ |
”
|
๗ | |
พระยาราชาเศรษฐีญวนเมืองพุทไธมาศรับจะช่วยเจ้าตาก |
”
|
๘ | |
เจ้าตากยกมาเมืองชลบุรี |
”
|
๙ | |
เจ้าตากตั้งนายทองอยู่น้อยเปนเจ้าเมืองชลบุรี |
”
|
๙ | |
เจ้าตากกลับไปเมืองระยอง |
”
|
๑๐ | |
พระยาจันทบุรีคิดอุบายจะจับเจ้าตาก |
”
|
๑๑ | |
เจ้าตากยกไปเมืองจันทบุรี |
”
|
๑๑ | |
พระยาจันทบุรีอุบายลวงเจ้าตากให้เข้าเมือง |
”
|
๑๒ | |
เจ้าตากรู้เท่า ไม่เข้าเมืองจันทบุรี |
”
|
๑๒ | |
เจ้าตากตีเมืองจันทบุรี |
”
|
๑๓ | |
เจ้าตากได้เมืองจันทบุรี |
น่า
|
๑๔ | |
เจ้าตากตั้งขุนนาง |
”
|
๑๔ | |
เจ้าตากยกไปเมืองตราด |
”
|
๑๔ | |
เจ้าตากตีได้สำเภาจีนที่เมืองตราด |
”
|
๑๕ | |
เจ้าตากกลับมาตั้งต่อเรือรบที่เมืองจันทบุรี |
”
|
๑๕ | |
พระนายกองตามพบพระเจ้าแผ่นดิน |
”
|
๑๖ | |
พระเจ้าแผ่นดินสวรรคต |
”
|
๑๖ | |
ฝังพระศพพระเจ้าแผ่นดิน |
”
|
๑๖ | |
บ้านเมืองเกิดจลาจลทั่วไป |
”
|
๑๖ | |
พระราชวงษ์ที่ยังเหลืออยู่ |
”
|
๑๗ | |
นายสุจินดา (กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท) ไปพึ่งเจ้าตาก |
”
|
๑๗ | |
เจ้าตากตั้งนายสุจินดาเปนพระมหามนตรี |
”
|
๑๘ | |
เจ้าพระยาพิศณุโลก (เรือง) ตั้งตัวเปนเจ้า |
”
|
๑๘ | |
พระสังฆราชา (มหาเรือน) ตั้งตัวเปนเจ้าพระฝาง |
”
|
๑๘ | |
เจ้าพระฝางตีเมืองพิศณุโลกไม่ได้ |
”
|
๑๙ | |
หลวงนายสิทธิ์ตั้งตัวเปนเจ้านครศรีธรรมราช |
”
|
๑๙ | |
กรมหมื่นเทพพิพิธได้เมืองนครราชสิมา |
”
|
๑๙ | |
หลวงแพ่งกับพระพิมายตีเมืองนครราชสิมา |
”
|
๒๑ | |
หลวงแพ่งกับพระพิมายจับกรมหมื่นเทพพิพิธได้ |
”
|
๒๑ | |
พระพิมายขอเอากรมหมื่นเทพพิพิธไปไว้เมืองพิมาย |
”
|
๒๑ | |
พระพิมายยกกรมหมื่นเทพพิพิธขึ้นเปนเจ้าพิมาย |
”
|
๒๒ | |
เจ้าตากเตรียมทัพจะยกเข้ามารบพม่าที่กรุงเก่า |
น่า
|
๒๓ | |
เจ้าตากยกทัพเรือจากเมืองจันทบุรี |
”
|
๒๔ | |
เจ้าตากตีได้เมืองธนบุรี |
”
|
๒๕ | |
เจ้าตากตีได้ค่ายพม่าโพธิ์ ๓ ต้น พระนายกองตายในที่รบ |
”
|
๒๕ | |
เจ้าตากเลียบค่ายโพธิ์ ๓ ต้น |
”
|
๒๖ | |
เจ้าตากเข้าไปตั้งอยู่ในพระนคร |
”
|
๒๖ | |
เจ้าตากถวายพระเพลิงพระศพพระเจ้าแผ่นดิน |
”
|
๒๖ | |
เจ้าตากทรงพระสุบินว่า พระเจ้าแผ่นดินแต่ก่อนขับไล่ |
”
|
๒๗ | |
เจ้าตากลงมาตั้งเมืองธนบุรีเปนราชธานี |
”
|
๒๗ | |
แผ่นดินพระเจ้ากรุงธนบุรี จุลศักราช ๑๑๓๐–๑๑๔๔ | |||
เจ้าตากขึ้นเสวยราชย์ณกรุงธนบุรี |
น่า
|
๒๗ | |
ให้แจกอาหารคนที่อดโซทั่วไป |
”
|
๒๘ | |
ตั้งข้าราชการ |
”
|
๒๘ | |
จัดการปกครองหัวเมือง |
”
|
๒๘ | |
พระมหามนตรีไปรับหลวงยกรบัตรเมืองราชบุรี (พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก) เข้ามารับราชการ ได้เปนพระราชวรินทร์ |
”
|
๒๘ | |
พระเจ้าอังวะให้เจ้าเมืองทวายคุมกองทัพเข้ามาตรวจการ |
”
|
๒๘ | |
กองทัพพม่าล้อมค่ายจีนที่บางกุ้งเมืองสมุทสงคราม |
”
|
๒๙ | |
เสด็จยกทัพหลวงไปตีพม่าแตกหนี |
”
|
๒๙ | |
ตั้งพระอาจารย์วัดประดู่เปนสมเด็จพระสังฆราช |
น่า
|
๓๐ | |
ตั้งโรงทานเลี้ยงคนโซ |
”
|
๓๑ | |
เสด็จยกทัพหลวงไปตีเมืองพิศณุโลก |
”
|
๓๑ | |
ถูกปืนข้าศึกที่พระชงฆ์ ต้องกลับ |
”
|
๓๑ | |
เสด็จไปตีเมืองนครราชสิมา |
”
|
๓๑ | |
ให้พระมหามนตรี พระราชวรินทร์ ตีด่านขุนทด |
”
|
๓๑ | |
ทัพหลวงตีด่านจอหอ |
”
|
๓๒ | |
ตีได้ด่านจอหอ |
”
|
๓๒ | |
ตีได้ด่านขุนทด พระยาวรวงษาข้าศึกหนีไปเมืองเสียมราบ |
”
|
๓๒ | |
พระมหามนตรี พระราชวรินทร์ ตามไปตีได้เมืองเสียมราบ |
”
|
๓๒ | |
เจ้าพิมายหนี |
”
|
๓๒ | |
ขุนชนะจับเจ้าพิมายมาถวาย |
”
|
๓๒ | |
เลื่อนพระราชวรินทร์เปนพระยาอภัยรณฤทธิ์ พระมหามนตรีเปนพระยาอนุชิตราชา |
”
|
๓๓ | |
เจ้าพิศณุโลกพิราไลย |
”
|
๓๓ | |
เจ้าพระฝางตีได้เมืองพิศณุโลก |
”
|
๓๓ | |
พระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุตถวายพระราชธิดาแก่พระเจ้าอังวะ |
”
|
๓๔ | |
สมเด็จพระสังฆราช (ดี) มีอธิกรณ์ ต้องสึก |
”
|
๓๔ | |
เมืองหล่มศักดิ์สวามิภักดิ์ |
”
|
๓๕ | |
ได้ข่าวว่าญวนเมืองพุทไธมาศจะเข้ามาตีกรุง |
”
|
๓๕ | |
ราชวงษ์กรุงเก่าที่มาอยู่กรุงธนบุรี |
”
|
๓๖ | |
เจ้าอุบล เจ้าฉิม เปนชู้กับมหาดเล็ก |
”
|
๓๖ | |
ตั้งพระชนนีเปนกรมพระเทพามาตย์ |
น่า
|
๓๖ | |
ตั้งพระมเหษีเดิมเปนกรมหลวงบาทบริจาริกา |
”
|
๓๖ | |
ตั้งเจ้าราชนิกูล |
”
|
๓๖ | |
นักองค์ตนพาญวนมาตีกรุงกัมพูชา |
”
|
๓๗ | |
นักพระรามาธิบดีเจ้ากรุงกัมพูชาหนีเข้ามาสวามิภักดิ์ |
”
|
๓๗ | |
ให้พระยาอภัยรณฤทธิ์ พระยาอนุชิราชา ยกไปตีกรุงกัมพูชาทางเมืองนครราชสิมา |
”
|
๓๗ | |
ให้พระยาโกษาธิบดีไปตีกรุงกัมพูชาทางเมืองปาจิณบุรี |
”
|
๓๗ | |
เมืองชุมพร เมืองไชยา สวามิภักดิ์ |
”
|
๓๗ | |
ทัพกรุงธนบุรีรบทัพนครศรีธรรมราชที่ท่าหมาก |
”
|
๓๘ | |
ทัพกรุงธนบุรีถอยมาอยู่เมืองไชยา |
”
|
๓๘ | |
เสด็จยกทัพหลวงทางเรือไปตีเมืองนคร |
”
|
๓๘ | |
ทัพหลวงถูกพยุที่บางทลุ |
”
|
๓๙ | |
ทัพหลวงถึงเมืองไชยา |
”
|
๓๙ | |
ให้เจ้าพระยาจักรี พระยาพิไชยราชา เปนทัพบก เสด็จทัพหลวงทางเรือไปเมืองนครศรีธรรมราช |
”
|
๓๙ | |
ทัพบกตีทัพนครศรีธรรมราชแตก |
”
|
๔๐ | |
ทัพหลวงตีเมืองนครศรีธรรมราช |
”
|
๔๐ | |
เจ้านครทิ้งเมืองหนี |
”
|
๔๐ | |
ได้เมืองนคร |
”
|
๔๐ | |
เจ้านครหนีไปเมืองตานี |
”
|
๔๑ | |
เสด็จยกทัพหลวงตามเจ้านครไปถึงเมืองสงขลา |
น่า
|
๔๑ | |
พระยาตานีส่งเจ้านครกับพรรคพวกมาถวาย |
”
|
๔๑ | |
เสด็จกลับมาเมืองนครศรีธรรมราช |
”
|
๔๑ | |
ปฏิสังขรณ์วัดพระมหาธาตุ |
”
|
๔๒ | |
ตั้งเจ้านราสุริวงษ์ครองเมืองนครศรีธรรมราช |
”
|
๔๒ | |
ยืมพระไตรปิฎกเมืองนครเข้ามาจำลอง |
”
|
๔๒ | |
เสด็จกลับกรุงธนบุรี |
”
|
๔๓ | |
ตั้งพระอาจารย์ศรีวัดพระเจ้าพแนงเชิงเปนสมเด็จพระสังฆราช |
”
|
๔๓ | |
พระยาอภัยรณฤทธิ์ พระยาอนุชิตราชา ตีได้เมืองเสียมราบ |
”
|
๔๓ | |
พระยาโกษาธิบดีได้เมืองปัตบอง |
”
|
๔๓ | |
พระยาอภัยรณฤทธิ์ พระยาอนุชิตราชา รบนักพระองค์ตนในทเลสาบ |
”
|
๔๓ | |
พระยาอภัยรณฤทธิ์ พระยาอนุชิตราชา ได้ยินข่าวฦๅว่าสวรรคตที่เมืองนคร ยกทัพกลับ |
”
|
๔๓ | |
พระยาอนุชิตราชาแก้กระทู้ตามจริง พ้นพระราชอาญา |
”
|
๔๔ | |
ให้หากองทัพกลับจากกรุงกัมพูชา |
”
|
๔๕ | |
เจ้าพระฝางให้ลงมาตีเมืองอุไทยธานี เมืองไชยนาท |
”
|
๔๕ | |
เลื่อนพระยาอนุชิตราชาเปนพระยายมราช |
”
|
๔๕ | |
ให้พระยายมราช พระยาพิไชยราชา เปนทัพน่าไปปราบเจ้าพระฝาง |
”
|
๔๕ | |
เสด็จยกทัพหลวงขึ้นไปเมืองเหนือ |
”
|
๔๕ | |
เข้าแพงต้องซื้อเข้าต่างประเทศจ่ายเปนเสบียง |
”
|
๔๖ | |
แขกเมืองตรังกานู เมืองยักตรา ถวายปืนคาบศิลา |
”
|
๔๖ | |
ทัพหลวงถึงปากพิง |
น่า
|
๔๖ | |
ทัพน่าตีได้เมืองพิศณุโลก |
”
|
๔๖ | |
เสด็จเข้าเมืองพิศณุโลก |
”
|
๔๖ | |
น้ำเหนือขึ้น |
”
|
๔๗ | |
ทัพน่าล้อมเมืองสวางคบุรี |
”
|
๔๗ | |
ช้างพังเผือกเกิดในเมืองสวางคบุรี |
”
|
๔๗ | |
เจ้าพระฝางหนี |
”
|
๔๗ | |
ทัพกรุงธนบุรีได้เมืองสวางคบุรี |
”
|
๔๘ | |
เสด็จยกทัพหลวงขึ้นไปเมืองสวางคบุรี |
”
|
๔๘ | |
ตามได้ช้างพังเผือก |
”
|
๔๘ | |
เสด็จขึ้นไปถึงตำบลน้ำมืด |
”
|
๔๘ | |
จัดตั้งด่านชั้นนอก |
”
|
๔๘ | |
เสด็จกลับมาประทับค่ายหาดสูง |
”
|
๔๙ | |
เมืองตานีถวายต้นไม้ทองเงิน |
”
|
๔๙ | |
เมืองยักตราถวายปืนใหญ่ |
”
|
๔๙ | |
ชำระพระอลัชชีพวกเจ้าพระฝาง |
”
|
๔๙ | |
พิสูตรพระสงฆ์เมืองเหนือ |
”
|
๔๙ | |
ตั้งพระราชาคณะไปอยู่ตามหัวเมืองเหนือ |
”
|
๕๑ | |
เก็บพระไตรปิฎกเมืองเหนือมาเปนฉบับ |
”
|
๕๑ | |
เสด็จไปสมโภชพระมหาธาตุพระฝาง |
”
|
๕๑ | |
เสด็จไปสมโภชพระแท่นศิลาอาศน์ |
”
|
๕๑ | |
เสด็จไปสมโภชพระมหาธาตุเมืองสวรรคโลก |
”
|
๕๑ | |
เสด็จกลับมาเมืองพิศณุโลก |
น่า
|
๕๑ | |
ตั้งพระยายมราชเปนเจ้าพระยาสุรสีห์ครองเมืองพิศณุโลก |
”
|
๕๑ | |
ตั้งพระยาพิไชยราชาเปนเจ้าพระยาสวรรคโลก |
”
|
๕๒ | |
ตั้งเจ้าเมืองฝ่ายเหนือ |
”
|
๕๒ | |
ตั้งพระยาอภัยรณฤทธิ์เปนพระยายมราชที่สมุหนายก |
”
|
๕๒ | |
รับช้างเผือกพังมากรุงธนบุรี |
”
|
๕๒ | |
อาปกามนีโปมยุง่วน⟨เปน⟩เจ้าเมืองเชียงใหม่ |
”
|
๕๒ | |
โปมยุง่วนยกมาตีเมืองสวรรคโลก |
”
|
๕๒ | |
ทัพหัวเมืองเหนือตีพม่าแตก |
”
|
๕๒ | |
เสด็จยกทัพหลวงไปตีเมืองเชียงใหม่ ครั้งที่ ๑ |
”
|
๕๓ | |
ทัพหลวงถึงเมืองพิไชย |
”
|
๕๓ | |
พระยาแพร่มังไชยมาสวามิภักดิ์ ตั้งเปนพระยาศรีสุริยวงษ์ |
”
|
๕๓ | |
ทัพหลวงขึ้นเดินบก |
”
|
๕๓ | |
กองทัพกันดารน้ำ ทำพิธีขอฝน |
”
|
๕๔ | |
ทัพหลวงถึงเมืองลำพูน |
”
|
๕๔ | |
โปมยุง่วนตั้งค่ายรับนอกเมืองเชียงใหม่ |
”
|
๕๔ | |
ทัพน่าตีได้ค่ายพม่าแตกนหนีเข้าเมือง |
”
|
๕๕ | |
ทัพหลวงถึงเมืองเชียงใหม่ |
”
|
๕๕ | |
ปล้นเมืองเชียงใหม่ไม่ได้ |
”
|
๕๕ | |
เลิกทัพหลวงกลับกรุง |
”
|
๕๕ | |
พม่ายกตามตี |
”
|
๕๕ | |
ตีพม่าแตกหนีกลับไป |
”
|
๕๕ | |
เจ้านครหลวงพระบาง (วงษ์) ยกมาตีเมืองเวียงจันท์ |
น่า
|
๕๖ | |
พระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุต (บุญสาร) ขอกองทัพพม่าช่วย |
”
|
๕๖ | |
พระเจ้ามังระให้โปสุพลายกมาตีเมืองหลวงพระบาง |
”
|
๕๖ | |
เมืองหลวงพระบางยอมขึ้นพม่า |
”
|
๕๖ | |
พระเจ้ามังระให้โปสุพลามาช่วยรักษาเมืองเชียงใหม่ |
”
|
๕๖ | |
ทัพจีนฮ่อตีได้เมืองแสนหวี |
”
|
๕๖ | |
พม่าทำศึกกับฮ่อ |
”
|
๕๖ | |
พม่ายอมเปนไมตรีกับฮ่อ |
”
|
๕๗ | |
ขุดคูเมืองแลทำกำแพงกรุงธนบุรีทั้งสองฟากแม่น้ำ |
”
|
๕๗ | |
รื้อกำแพงเมืองพระประแดง |
”
|
๕๘ | |
ให้ชื่อป้อมท้ายวังว่า ป้อมวิไชยประสิทธิ |
”
|
๕๘ | |
เกลี่ยที่สวนรอบเมืองเปนที่ทุ่งนา เรียกว่า ทเลตม |
”
|
๕๘ | |
เตรียมทัพยกไปตีกรุงกัมพูชา |
”
|
๕๘ | |
ตั้งพระยายมราชเปนเจ้าพระยาจักรี |
”
|
๕๙ | |
เจ้าพระยาจักรีเปนแม่ทัพบกไปตีเมืองปัตบอง เมืองโพธิสัตว |
”
|
๕๙ | |
เสด็จทัพเรือเปนทัพหลวง |
”
|
๕๙ | |
ทัพหลวงเสด็จถึงเมืองพุทไธมาศ |
”
|
๕๙ | |
ตีได้เมืองพุทไธมาศ |
”
|
๖๐ | |
ทัพหลวงถึงเกาะพนมเพ็ญ |
”
|
๖๒ | |
เจ้าพระยาจักรีได้เมืองพุทไธเพ็ชร ราชธานีกรุงกัมพูชา |
”
|
๖๒ | |
องค์ตนหนีไปเมืองญวน |
”
|
๖๒ | |
มอบกรุงกัมพูชาแก่นักพระรามาธิบดี |
”
|
๖๓ | |
ทัพพระยาโกษาธิบดีได้เมืองกระพงโสม พระยาปังกลิมา แขกจามเจ้าเมืองกำปอด ยอมสวามิภักดิ์ |
น่า
|
๖๓ | |
เจ้าพระยาจักรีได้เมืองบาพนม |
”
|
๖๓ | |
เสด็จยกทัพหลวงกลับเมืองพุทไธมาศ |
”
|
๖๓ | |
พระราชทานโอวาทแก่หลวงญวน |
”
|
๖๔ | |
เสด็จยกทัพหลวงกลับกรุงธนบุรี |
”
|
๖๔ | |
พระยาราชาเศรษฐีญวนกลับมาชิงเมืองพุทไธมาศ |
”
|
๖๔ | |
พระยาปังกลิมาช่วยไทยตีได้เมืองพุทไธมาศคืน |
”
|
๖๔ | |
รับสั่งให้ทิ้งเมืองพุทไธมาศ |
”
|
๖๕ | |
ให้หากองทัพเจ้าพระยาจักรีกลับ |
”
|
๖๕ | |
โปสุพลายกมาตีเมืองพิไชย ครั้งที่ ๑ |
”
|
๖๕ | |
เจ้าพระยาสุรสีห์ขึ้นไปช่วยตีพม่าแตกหนีไป |
”
|
๖๕ | |
ศักเลข |
”
|
๖๕ | |
โปสุพลายกมาตีเมืองพิไชย ครั้งที่ ๒ |
”
|
๖๖ | |
พระยาพิไชยฟันพม่าจนดาบหัก |
”
|
๖๖ | |
เจ้าพระยาสุรสีห์ยกไปช่วยตีพม่าแตก ครั้งที่ ๒ |
”
|
๖๖ | |
เสด็จยกทัพหลวงไปตีเมืองเชียงใหม่ ครั้งที่ ๒ |
”
|
๖๖ | |
ทัพหลวงถึงเมืองตาก |
”
|
๖๗ | |
ให้เจ้าพระยาจักรีเปนทัพน่ายกไปตั้งเมืองเถิน |
”
|
๖๗ | |
พระเจ้ามังระเตรียมทัพพม่าจะมาตีเมืองไทย |
”
|
๖๗ | |
พม่าเกณฑ์มอญเมืองเมาะตมะให้ปลูกยุ้งฉางรายทาง |
”
|
๖๗ | |
มอญเดือดร้อน เปนขบถ ตีได้เมืองเมาะตมะ |
”
|
๖๗ | |
มอญขบถขึ้นไปตีได้เมืองจิตตอง เมืองหงษาวดี |
น่า
|
๖๘ | |
มอญขบถตีเมืองย่างกุ้งแพ้พม่า |
”
|
๖๘ | |
มอญอพยพหนีพม่าเข้ามาเมืองไทยหลายทาง |
”
|
๖๘ | |
ครัวมอญที่เข้าทางด่านเมืองตากเข้าเฝ้าที่บ้านระแหง |
”
|
๖๘ | |
ให้พระยายมราชออกไปตั้งค่ายรับครัวมอญที่ท่าดินแดง กาญจนบุรี |
”
|
๖๙ | |
ทัพหลวงถึงเมืองลำพูน |
”
|
๖๙ | |
โปสุพลาให้พระยาจ่าบ้าน พระยากาวิละ ชาวเชียงใหม่ เปนทัพน่ามารบไทย |
”
|
๖๙ | |
พระยาจ่าบ้าน พระยากาวิละ เข้าสวามิภักดิ์ต่อเจ้าพระยาจักรี |
”
|
๗๐ | |
โปสุพลาถอยทัพกลับไปรักษาเมืองเชียงใหม่ |
”
|
๗๐ | |
เจ้าพระยาจักรีตีทัพพม่ารายทางแตกจนถึงเมืองเชียงใหม่ |
”
|
๗๐ | |
เจ้าพระยาจักรีล้อมเมืองเชียงใหม่ |
”
|
๗๐ | |
ได้ข่าวพม่ายกตามครัวมอญเข้ามาทางด่านเมืองตาก |
”
|
๗๐ | |
ให้เจ้ารามลักษณยกไปรบพม่าทางเมืองตาก |
”
|
๗๑ | |
พระเสมียนตราเมืองสวรรคโลกเกลี้ยกล่อมคนเข้าเมืองลำพูน |
”
|
๗๑ | |
ครัวมอญเข้ามาถึงเมืองตาก |
”
|
๗๑ | |
ให้หากองทัพเจ้ารามลักษณกลับไปเชียงใหม่ |
”
|
๗๒ | |
ล้อมเมืองเชียงใหม่ |
”
|
๗๒ | |
พม่าปล้นค่ายเจ้าพระยาจักรี ๆ เล่นหมากรุกกำลังรบพม่า |
”
|
๗๓ | |
กองทัพหลวงยกจากเมืองลำพูนขึ้นไปเมืองเชียงใหม่ |
”
|
๗๓ | |
เจ้าพระยาจักรี เจ้าพระยาสุรสีห์ ตีได้ค่ายพม่าที่รักษาเมืองเชียงใหม่ |
”
|
๗๓ | |
โปสุพลา โปมยุง่วน ทิ้งเมืองเชียงใหม่หนีไป |
น่า
|
๗๔ | |
เสด็จเข้าเมืองเชียงใหม่ |
”
|
๗๕ | |
ตั้งพระยาจ่าบ้านเปนพระยาวิเชียรปราการ เจ้าเมืองเชียงใหมใหม่ |
”
|
๗๕ | |
ตั้งพระยาลำพูนเปนพระยาไวยวงษา |
”
|
๗๕ | |
ตั้งพระยากาวิละเปนเจ้าเมืองนครลำปาง |
”
|
๗๕ | |
ชื่อเจ้า ๗ ตนต้นวงษ์เชียงใหม่แลนครลำปาง |
”
|
๗๕ | |
ยกทัพหลวงจากเมืองเชียงใหม่กลับมาเมืองนครลำปาง |
”
|
๗๖ | |
ได้ข่าวทัพพม่ายกมาทางด่านแม่ลำเมา เมืองตาก |
”
|
๗๖ | |
รีบยกทัพหลวงลงมาเมืองตาก |
”
|
๗๖ | |
ให้หลวงมหาเทพกับเจ้าหมื่นไวยไปตีพม่าแตก |
”
|
๗๖ | |
นายควรรู้อัศว์พบเรือบรรทุกพม่าชเลย สำคัญว่าพม่าข้าศึก |
”
|
๗๖ | |
เรือพระที่นั่งโดนตอล่ม |
”
|
๗๖ | |
เสด็จถึงบ้านระแหง แจกเงินราษฎร |
”
|
๗๗ | |
รับสั่งเล่าเรื่องทรงเสี่ยงทาย ตีระฆังแก้วที่วัดดอยเขาแก้ว |
”
|
๗๗ | |
พระเจ้ามังระให้ประการชีวิตรพระยาหงษาวดีแลพรรคพวก |
”
|
๗๘ | |
พระเจ้ามังระให้อะแซหวุ่นกี้ยกเข้ามาตีเมืองไทย |
”
|
๗๘ | |
อะแวหวุ่นกี้ให้งุยอคุงหวุ่นยกมากอง ๑ ให้ตะแคงมรหน่องยกมาอิกกอง ๑ ทางด่านพระเจดีย์ ๓ องค์ |
”
|
๗๘ | |
พม่าตีทัพไทยที่ตั้งอยู่ท่าดินแดงแตก |
”
|
๗๘ | |
พระยายมราชถอยทัพ |
”
|
๗๙ | |
ให้พระองค์เจ้าจุ้ยกับพระยาธิเบศร์บดียกไปตั้งรับพม่าเมืองราชบุรี |
”
|
๗๙ | |
ให้ข้าราชการกองพระยายมราชที่แตกทัพพม่าทำการแก้ตัว |
”
|
๗๙ | |
ให้เจ้ารามลักษณยุกหนุนไปเมืองราชบุรี |
น่า
|
๘๙ | |
สั่งกองทัพที่กลับจากเหนือให้เลยออกไปเมืองราชบุรี ไม่ให้แวะบ้าน |
”
|
๗๙ | |
พระเทพโยธาแวะบ้าน ทรงประการชีวิตรด้วยฝีพระหัดถ์ |
”
|
๗๙ | |
ให้พระยาเจ่งกับพวกมอญที่เข้ามาพึ่งพระบารมี ตั้งบ้านเรือนที่สามโคกแลแขวงเมืองนนทบุรี |
”
|
๘๐ | |
ตั้งพระยาบำเรอภักดิ์เชื้อมอญเปนพระยารามัญวงษ์ คุมพวกมอญเข้ากองทัพไปรบพม่า |
”
|
๘๐ | |
ให้หากองทัพฝ่ายเหนือมาช่วยการสงคราม |
”
|
๘๐ | |
เจ้าพระยาจักรีเกลี้ยกล่อมเมืองน่านยอมสวามิภักดิ์ |
”
|
๘๐ | |
พม่าเข้ามาจับคนแขวงเมืองกาญจนบุรี ราชบุรี นครไชยศรี แลสุพรรณบุรี |
”
|
๘๑ | |
ให้พระยาพิไชยไอสวรรย์ยกไปรบพม่าเมืองนครไชยศรี |
”
|
๘๑ | |
กองทัพตะแคงมรหน่องเข้ามาตั้งที่ปากแพรก เมืองกาญจนบุรี |
”
|
๘๑ | |
พระยายมราชถอยมาตั้งดงรัง หนองขาว |
”
|
๘๑ | |
กองทัพงุยอคุงหวุ่นมาตั้งบ้านนางแก้ว แขวงราชบุรี |
”
|
๘๑ฃ | |
พระองค์เจ้าจุ้ย พระยาธิเบศร์บดี ไปตั้งค่ายมั่นที่โคกกระต่าย แล้วให้ตั้งค่ายโอบค่ายพม่าที่บ้านนางแก้ว |
”
|
๘๑ | |
เสด็จยกทัพหลวงไปเมืองราชบุรี |
”
|
๘๒ | |
ทัพพม่าเพิ่มเติมเข้ามาเมืองกาญจนบุรีอิกกอง ๑ |
”
|
๘๒ | |
ให้พระยาสีหราชเดโช พระยาอินทรวิชิต ไปช่วยพระยายมราช |
”
|
๘๒ | |
พม่าบางนางแก้วหมิ่นฝีมือไทย ยอมให้ตั้งค่ายล้อม |
”
|
๘๒ | |
เสด็จทอดพระเนตรล้อมพม่า แลแต่งกองทัพรักษาหนองน้ำที่เขาชงุ้มมิให้พม่าอาไศรย |
น่า
|
๘๓ | |
ได้ข่าวว่าพม่ายกเพิ่มเติมเข้ามาทางด่านเจ้าขว้าว |
”
|
๘๓ | |
ให้พระองค์เจ้าจุ้ยกับทัพจีนพระยาราชาเศรษฐีไปรักษาค่ายเมืองราชบุรี |
”
|
๘๓ | |
ให้เจ้าพระยาอินทรอไภยยกไปตั้งค่ายรักษาสระน้ำที่เขาชั่วพราน |
”
|
๘๓ | |
พม่าออกตีค่ายเจ้าพระยาอินทรอไภยคืนเดียว ๔ ครั้ง แตกไปทุกคราว |
”
|
๘๓ | |
ให้แต่งกองโจรไปช่วยเจ้าพระยาอินทรอไภย |
”
|
๘๓ | |
พม่าบ้านนางแก้วออกแหกค่ายไปไม่ได้ |
”
|
๘๔ | |
พม่าที่ปากแพรกยกมาตีไทยค่ายเขาชงุ้มช่วยพม่าที่ถูกล้อม |
”
|
๘๔ | |
พม่าปากแพรกได้ค่ายเขาชงุ้ม |
”
|
๘๔ | |
ให้กองทัพไทยที่เขาชงุ้มถอยมาช่วยล้อมพม่าบ้านนางแก้ว |
”
|
๘๕ | |
พม่าปากแพรกตีค่ายไทยที่ดงรัก หนองขาว ไม่ได้ |
”
|
๘๕ | |
พม่ายกมาทางเมืองมฤต มาตีบ้านทับสะแก เมืองคลองวาน |
”
|
๘๕ | |
กรมพระเทพามาตย์ทิวงคต |
”
|
๘๕ | |
แต่งกองโจรไปคอยตีพม่าค่ายเขาชงุ้มไม่ให้ยกมาช่วยพม่าบ้านนางแก้วได้ |
”
|
๘๖ | |
กองทัพเจ้าพระยาจักรีกลับมาถึง |
”
|
๘๖ | |
ให้เจ้าพระยาจักรีถืออาญาสิทธิ์ไปตั้งค่ายล้อมพม่าด้านหลัง |
”
|
๘๖ | |
แต่งกองโจรไปรักษาหนองน้ำเขาชงุ้ม |
”
|
๘๖ | |
พม่าในที่ล้อมออกแหกค่ายคืนเดียว ๒ ครั้ง แหกไปไม่ได้ |
น่า
|
๘๖ | |
พม่าในที่ล้อมขอเจรจาการทัพ |
”
|
๘๗ | |
กองทัพเจ้าพระยาสุรสีห์ยกมาถึง |
”
|
๘๘ | |
ให้เจ้าพระยาสุรสีห์ไปตั้งค่ายล้อมพม่าที่ค่ายเขาชงุ้ม |
”
|
๘๙ | |
พม่าที่ยกมาตีทับสะแก เมืองคลองวาน แตกหนีไปทางเมืองปทิว |
”
|
๘๙ | |
ให้ทำลายหนองน้ำทุกแห่งที่พม่าจะอาไศรยได้ |
”
|
๙๐ | |
พม่าค่ายเขาชงุ้มออกปล้นค่ายเจ้าพระยาสุรสีห์ ตีแตกกลับเข้าค่าย |
”
|
๙๑ | |
พม่าบ้านนางแก้วร้องขอชีวิตร |
”
|
๙๑ | |
กองทัพพระยานครราชสิมามาถึง |
”
|
๙๑ | |
ให้พระยานครราชสิมาไปช่วยล้อมค่ายพม่าเขาชงุ้ม |
”
|
๙๓ | |
ได้ข่าวว่าอะแซหวุ่นกี้จะยกทัพตามเข้ามา |
”
|
๙๔ | |
ให้หาแม่ทัพนายกองประชุมปฤกษาการศึก |
”
|
๙๔ | |
ให้หัวเมืองชายทเลส่งเสบียง |
”
|
๙๔ | |
พม่าในค่ายบ้านนางแก้วยอมเปนชเลย |
”
|
๙๕ | |
ได้ค่ายพม่าบ้านนางแก้วทั้ง ๓ ค่าย |
”
|
๙๖ | |
ให้พระอนุชิตราชา หลวงมหาเทพ ขึ้นไปตีค่ายพม่าปากแพรก |
”
|
๙๗ | |
พม่าค่ายเขาชงุ้มออกเผาค่ายพระมหาสงคราม |
”
|
๙๗ | |
เจ้าพระยาจักรีฟันคนย่อท้อเสีย ๒ คน |
”
|
๙๗ | |
พม่าค่ายเขาชงุ้มแตกหนี |
”
|
๙๗ | |
ทัพพม่าปากแพรกเลิกหนีกลับไปเมืองเมาะตมะ |
”
|
๙๗ | |
เลิกทัพกลับกรุงธนบุรี |
”
|
๙๘ | |
ตั้งพระองค์เจ้าจุ้ยลูกเธอเปนกรมขุนอินทรพิทักษ์ เจ้ารามลักษณหลานเธอเปนกรมขุนอนุรักษ์สงคราม เจ้าบุญจันทร์หลานเธอเปนกรมขุนรามภูเบศร์ |
น่า
|
๙๘ | |
ทำพระเมรุกรมพระเทพามาตย์ |
”
|
๙๘ | |
ได้ข่าวว่า โปสุพลา โปมยุง่วน จะยกมาตีเมืองเชียงใหม่ |
”
|
๙๙ | |
ให้เจ้าพระยาจักรี เจ้าพระยาสุรสีห์ ยกไปรบพม่าเมืองเชียงใหม่ |
”
|
๙๙ | |
นายขนมต้มชกพม่าที่เมืองย่างกุ้ง |
”
|
๙๙ | |
อะแซหวุ่นกี้ยกทัพจะเข้ามาตีหัวเมืองเหนือตัดกำลังไทย |
”
|
๑๐๐ | |
อะแซหวุ่นกี้ยกทัพใหญ่เข้ามาทางเมืองตาก |
”
|
๑๐๐ | |
โปสุพลา โปมยุง่วน ถอยหนีทัพกรุงไปเมืองเชียงแสน |
”
|
๑๐๐ | |
เจ้าพระยาจักรี เจ้าพระยาสุรสีห์ ได้ข่าวศึกอะแซหวุ่นกี้ จึงถอยกลับมารักษาหัวเมืองเหนือ |
”
|
๑๐๐ | |
ทัพอะแซหวุ่นกี้ถึงเมืองศุโขไทย |
”
|
๑๐๑ | |
เจ้าพระยาทั้ง ๒ เห็นต่างกัน |
”
|
๑๐๑ | |
เจ้าพระยาจักรียกมาเตรียมรักษาเมืองพิศณุโลก |
”
|
๑๐๑ | |
เจ้าพระยาสุรสีห์ยกไปจะรบ เห็นพม่ามากเหลือกำลัง จึงถอยมารักษาเมืองพิศณุโลก |
”
|
๑๐๑ | |
อะแซหวุ่นกี้ล้อมเมืองพิศณุโลก |
”
|
๑๐๑ | |
เจ้าพระยาสุรสีห์ออกตีทัพพม่า |
”
|
๑๐๒ | |
เจ้าพระยาจักรีออกตีทัพพม่า |
”
|
๑๐๒ | |
อะแซหวุ่นกี้ขอดูตัวเจ้าพระยาจักรี |
”
|
๑๐๒ | |
เตรียมทัพกรุงธนบุรีไปรบพม่า |
”
|
๑๐๓ | |
ให้ประหารชีวิตรพม่าชเลย |
น่า
|
๑๐๓ | |
ให้กรมขุนอนุรักษ์สงครามไปรักษาเมืองเพ็ชรบุรี |
”
|
๑๐๓ | |
เสด็จยกทัพหลวงขึ้นไปเมืองเหนือ |
”
|
๑๐๔ | |
ทัพหลวงถึงเมืองนครสวรรค์ |
”
|
๑๐๔ | |
ทัพหลวงถึงปากพิง |
”
|
๑๐๔ | |
ให้ตั้งค่ายทั้งสองฝั่งน้ำรายขึ้นไปจนเมืองพิศณุโลก |
”
|
๑๐๔ | |
ให้ตั้งค่ายโอบค่ายพม่า |
”
|
๑๐๔ | |
ให้ทำทางบกแต่ปากพิงขึ้นไปเมืองพิศณุโลก |
”
|
๑๐๔ | |
พม่ารบกับทัพกรุงที่ขึ้นไปช่วยเมืองพิศณุโลก |
”
|
๑๐๕ | |
เมืองพิศณุโลกออกตั้งค่ายประชิดรบพม่านอกเมือง |
”
|
๑๐๖ | |
ทัพกรุงปล้นค่ายพม่าไม่ได้ |
”
|
๑๐๗ | |
ทัพกรุงคิดจะตั้งโอบหลังค่ายพม่า |
”
|
๑๐๗ | |
อะแซหวุ่นกี้แต่งกองทัพอ้อมมาตัดเสบียงทางเมืองนครสวรรค์ เมืองอุไทยธานี |
”
|
๑๐๘ | |
แยกกองทัพลงไปรักษาเสบียง |
”
|
๑๐๘ | |
ในเมืองพิศณุโลกขัดเสบียง |
”
|
๑๐๘ | |
พม่าตัดเสบียงที่กองทัพหลวงส่งไปเมืองพิศณุโลก |
”
|
๑๐๙ | |
พม่ายกจากเมืองมฤตมาตีเมืองกุย เมืองปราณ |
”
|
๑๐๙ | |
ไทยตีพม่าแตกที่เมืองกำแพงเพ็ชร |
”
|
๑๑๐ | |
พม่าเผาเมืองอุไทยธานี |
”
|
๑๑๐ | |
ไทยแบ่งกองทัพลงไปป้องกันเสบียงแลปืนใหญ่ที่ขนส่งขึ้นไป |
”
|
๑๑๐ | |
เจ้าพระยาสุรสีห์ลงมาเฝ้าที่ท่าโรง |
น่า
|
๑๑๑ | |
พม่ารบกับทัพกรุงธนบุรี |
”
|
๑๑๑ | |
เจ้าพระยาจักรีลงมาเฝ้าที่ท่าโรง |
”
|
๑๑๒ | |
อะแซหวุ่นกี้ให้แมงแยยางูยกทัพใหญ่มาตั้งโอบหลังทัพหลวง |
”
|
๑๑๕ | |
ถอยทัพหลวงลงมาตั้งบางเข้าตอก |
”
|
๑๑๕ | |
ในเมืองพิศณุโลกสิ้นเสบียง |
”
|
๑๑๖ | |
เจ้าพระยาทั้ง ๒ ต้องทิ้งเมืองพิศณุโลกตีหักพม่าออกไปเมืองเพ็ชรบูรณ์ |
”
|
๑๑๖ | |
พม่าได้เมืองพิศณุโลกแลเผาเมืองเสีย |
”
|
๑๑๗ | |
พระเจ้ามังระสิ้นพระชนม์ จิงกูจาราชบุตรได้ราชสมบัติเมืองอังวะ ให้หากองทัพกลับ |
”
|
๑๑๗ | |
เจ้าพระยาจักรี เจ้าพระยาสุรสีห์ ยกตามทัพพม่า |
”
|
๑๑๗ | |
พระเจ้ากรุงธนบุรีทรงโทมนัสที่ไม่ชนะพม่า |
”
|
๑๑๘ | |
ให้ติดตามตีพม่าทางเมืองตาก |
”
|
๑๑๘ | |
ได้หนังสือพยากรร์ของพระมหาโสภิต |
”
|
๑๑๘ | |
ให้ติดตามพม่าทางเมืองเพ็ชรบูรณ์แลเมืองกำแพงเพ็ชร |
”
|
๑๒๐ | |
พม่ายกเลิกไปจากเมืองกำแพงเพ็ชร |
”
|
๑๒๐ | |
ให้ติดตามพม่าทางเมืองอุไทยธานี |
”
|
๑๒๐ | |
เสด็จกลับกรุงธนบุรี |
”
|
๑๒๑ | |
พม่ามาตั้งรวมกันที่เมืองนครสวรรค์ |
”
|
๑๒๑ | |
ให้กรมขุนอินทรพิทักษ์ กรมขุนอนุรักษ์สงคราม ยกไปรบพม่าเมืองนครสวรรค์ |
น่า
|
๑๒๑ | |
เสด็จยกทัพหลวงขึ้นไปตั้งเมืองไชยนาท |
”
|
๑๒๑ | |
กองติดตามทันพม่าที่เดิมบาง |
”
|
๑๒๑ | |
ตีพม่าแตกหนีไปทางเมืองสุพรรณบุรี |
”
|
๑๒๒ | |
เสด็จกลับกรุงธนบุรี |
”
|
๑๒๒ | |
กรมขุนอนุรักษ์สงคราม กรมขุนรามภูเบศร์ รบพม่าเมืองนครสวรรค์ |
”
|
๑๒๒ | |
เสด็จยกทัพหลวงขึ้นไปตั้งณเมืองไชยนาท |
”
|
๑๒๓ | |
พม่าที่เมืองนครสวรรค์แตกหนีไปทางเมืองกำแพงเพ็ชร |
”
|
๑๒๓ | |
เสด็จยกทัพหลวงขึ้นไปถึงเมืองตาก |
”
|
๑๒๓ | |
จับพม่าได้สามร้อยเศษ |
”
|
๑๒๓ | |
เสด็จกลับกรุงธนบุรี |
”
|
๑๒๓ | |
เลิกรักษาน่าที่เชิงเทินพระนคร |
”
|
๑๒๓ | |
ให้กองทัพตั้งทำนาหาเสบียงที่ทเลตม |
”
|
๑๒๔ | |
อังกฤษเจ้าเมืองเกาะหมากถวายปืน |
”
|
๑๒๔ | |
นางพระยาช้างเผือกล้ม |
”
|
๑๒๔ | |
เจ้านราสุริวงษ์พิราไลย |
”
|
๑๒๕ | |
ให้เจ้านครกลับไปครองเมืองนครศรีธรรมราช |
”
|
๑๒๕ | |
ให้ประหารชีวิตรพระยาราชภักดีที่ติดตามพม่าไม่ทัน |
”
|
๑๒๕ | |
พระเจ้าจิงกูจาให้มาตีเมืองเชียงใหม่ |
”
|
๑๒๖ | |
พระยาวิเชียรปราการทิ้งเมืองมาอยู่เมืองสวรรคโลก |
น่า
|
๑๒๖ | |
เรื่องขบถในเมืองญวน |
”
|
๑๒๖ | |
องเชียงชุนกับพระยาราชาเศรษฐีญวนหนีขบถเข้ามาพึ่งพระบารมี |
”
|
๑๒๘ | |
องเชียงชุนจะหนี จับได้ให้ประหารชีวิตร |
”
|
๑๒๘ | |
ประหารชีวิตรเจ้าพระยาพิไชยราชาเหตุที่ขอน้องสาวเจ้าจอมฉิม |
”
|
๑๒๘ | |
เสด็จไปเจริญพระกรรมฐานที่วัดบางยี่เรือ |
”
|
๑๒๙ | |
ให้พระราชาคณะกับเสนาบดีกำกับกันแจกทานคนโซ |
”
|
๑๒๙ | |
ทำบุญพระอัฐิกรมพระเทพามาตย์ |
”
|
๑๓๐ | |
ปฏิสังขรณ์วัดบางยี่เรือ |
”
|
๑๓๐ | |
ปฏิสังขรณ์วัดหงษ์ |
”
|
๑๓๐ | |
เกณฑ์จับเสือหลังวัดบางยี่เรือ |
”
|
๑๓๐ | |
หล่อปืนพระพิรุณ |
”
|
๑๓๑ | |
พระยานางรองคบคิดกับเจ้าเมืองจำปาศักดิ์เปนขบถ |
”
|
๑๓๑ | |
ให้เจ้าพระยาจักรี เจ้าพระยาสุรสีห์ ยกไปปราบปราม |
”
|
๑๓๑ | |
ได้เมืองจำปาศักดิ์ เมืองโขง เมืองอัตปือ |
”
|
๑๓๑ | |
เกลี้ยกล่อมได้เมืองสุรินทร์ เมืองสังขะ เมืองคุขัน |
”
|
๑๓๑ | |
ให้หากองทัพกลับ |
”
|
๑๓๑ | |
ตั้งเจ้าพระยาจักรีเปนเจ้าพระยามหากระษัตริย์ศึก |
”
|
๑๓๑ | |
ทรงสมาธิให้โต๊ะแขกดู |
”
|
๑๓๒ | |
เจ้านครบอกมาว่า ตานีแขงเมือง ขอยกไปตี |
”
|
๑๓๒ | |
มีตราห้ามเจ้านคร ด้วยยังเกรงจะมีศึกพม่า |
”
|
๑๓๒ | |
เทีบยพระลักษณกับพระพุทธลักษณ |
”
|
๑๓๓ | |
ให้พระราชาคณะไปหาหนังสือวิสุทธิมรรคที่กรุงกัมพูชาแลเมืองนครศรีธรรมราช |
น่า
|
๑๓๔ | |
ทรงพยากรณ์ชาวตลาด |
”
|
๑๓๔ | |
กรมขุนอนุรักษ์สงครามรวบรวมคนหลบหนีส่งมาจากเมืองเพ็ชรบุรี |
”
|
๑๓๔ | |
พระวอวิวาทกับพระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุต |
”
|
๑๓๕ | |
พระวอสวามิภักดิ์ |
”
|
๑๓๕ | |
พระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุตจับพระวอฆ่า |
”
|
๑๓๖ | |
ให้สมเด็จเจ้าพระยากับเจ้าพระยาสุรสีห์ไปตีกรุงศรีสัตนาคนหุต |
”
|
๑๓๗ | |
สมเด็จเจ้าพระยายกไปทางเมืองนครราชสิมา |
”
|
๑๓๗ | |
เจ้าพระยาสุรสีห์ยกไปทางเมืองเขมร |
”
|
๑๓๗ | |
เจ้าพระยาสุรสีห์ขุดคลองอ้อมแก่งลิผี |
”
|
๑๓๗ | |
เจ้าพระยาสุรสีห์ตีได้เมืองนครพนม เมืองหนองคาย |
”
|
๑๓๗ | |
ทัพหลวงพระบางมาช่วยตีกรุงศรีสัตนาคนหุต |
”
|
๑๓๘ | |
สมเด็จเจ้าพระยาตีได้เมืองพะโค เมืองเวียงคุก เมืองพานพร้าว |
”
|
๑๓๘ | |
ทัพกรุงเข้าล้อมเมืองเวียงจันท์ |
”
|
๑๓๘ | |
พระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุตหนี |
”
|
๑๓๙ | |
ทัพกรุงได้เมืองเวียงจันท์ |
”
|
๑๓๙ | |
สมเด็จเจ้าพระยาได้พระแก้วมรกฎแลพระบาง |
”
|
๑๓๙ | |
ให้หากองทัพกลับกรุงธนบุรี |
”
|
๑๓๙ | |
แห่พระแก้วมรกฎ พระบาง ลงมาจากเมืองสระบุรี |
”
|
๑๔๐ | |
ปลูกโรงรับพระแก้วมรกฎ พระบาง ไว้วัดแจ้ง |
”
|
๑๔๐ | |
จับมหาดาขบถที่กรุงเก่า |
น่า
|
๑๔๐ | |
ตั้งหลวงนายฤทธิ์ (กรมพระราชวังหลัง) เปนผู้ว่าราชการเมืองนครราชสิมา |
”
|
๑๔๑ | |
พระราชาคณะผู้ใหญ่ต้องอธิกรณ์ |
”
|
๑๔๑ | |
เกิดความเรื่องภูษามาลาทรงเครื่องไม่หมด |
”
|
๑๔๒ | |
ฟ้าทะละหะหมูกับขุนนางเขมรเปนขบถ ฆ่านักพระองค์รามาธิบดี เจ้ากรุงกัมพูชา |
”
|
๑๔๓ | |
พระยายมราชเขมรไม่เข้าด้วยพวกขบถ บอกข้อราชการเข้ามา |
”
|
๑๔๓ | |
ให้สมเด็จเจ้าพระยาเปนแม่ทัพไปตีกรุงกัมพูชากับเจ้าพระยาสุรสีห์ |
”
|
๑๔๔ | |
ให้กรมขุนอินทรพิทักษ์ไปเตรียมเปนเจ้ากรุงกัมพูชา |
”
|
๑๔๔ | |
ฟ้าทะละหนีลงไปเมืองพนมเพ็ญขอกองทัพญวนมาช่วย |
”
|
๑๔๔ | |
เจ้าพระยาสุรสีห์ตามลงไปเมืองพนมเพ็ญ |
”
|
๑๔๕ | |
ราชทูตไทยไปเมืองจีน |
”
|
๑๔๕ | |
พระเจ้ากรุงธนบุรีเสียพระจริต |
”
|
๑๔๕ | |
เกิดความเรื่องให้พระสงฆ์ถวายบังคม |
”
|
๑๔๕ | |
ถอดสมเด็จพระสังฆราช (ศรี) ตั้งพระโพธิวงษ์ (ชื่น) เปนสมเด็จพระสังฆราช |
”
|
๑๔๖ | |
เกิดความเรื่องสงไสยคนลักพระราชทรัพย์ |
”
|
๑๔๗ | |
พันศรี พันลา คบคิดกันเปนกองโจทย์ |
”
|
๑๔๘ | |
เอาพระราชาคณะกำกับพระคลัง |
”
|
๑๔๙ | |
นายบุญนากบ้านแม่ลาเปนขบถ |
”
|
๑๔๙ | |
ให้พระยาสรรค์ขึ้นไปปราบขบถ |
น่า
|
๑๕๐ | |
พระยาสรรค์กลับไปเข้ากับพวกขบถ |
”
|
๑๕๐ | |
พระยาสรรค์ยกมาล้อมพระราชวัง |
”
|
๑๕๐ | |
สู้รบกับพระยาสรรค์ |
”
|
๑๕๐ | |
พระเจ้ากรุงธนบุรียอมรับผิด ขอออกทรงผนวช |
”
|
๑๕๑ | |
พระเจ้ากรุงธนบุรีทรงผนวช |
”
|
๑๕๑ | |
พระยาสรรค์ให้คุมพระเจ้ากรุงธนบุรีไว้ในวัดแจ้ง |
”
|
๑๕๑ | |
พระยาสรรค์ขึ้นว่าราชการ |
”
|
๑๕๑ | |
เกิดจลาจลในพระนคร |
”
|
๑๕๑ | |
สมเด็จเจ้าพระยาให้พระยาสุริยอไภยยกกองทัพเข้ามากรุงธนบุรี |
”
|
๑๕๒ | |
พระยาสรรค์แสดงอาการว่าจะรักษาราชสมบัติไว้ถวายสมเด็จเจ้าพระยา |
”
|
๑๕๒ | |
ให้สึกพระเจ้ากรุงธนบุรีออกพันธนาการไว้ |
”
|
๑๕๒ | |
พระยาสรรค์คิดจะเอาราชสมบัติเอง |
”
|
๑๕๒ | |
พระยาสรรค์ให้กรมขุนอนุรักษ์สงครามยกไปรบพระยาสุริยอไภย |
”
|
๑๕๓ | |
เกิดรบกลางเมือง |
”
|
๑๕๓ | |
พระยาสุริยอไภยจับกรมขุนอนุรักษ์สงครามได้ |
”
|
๑๕๓ | |
สมเด็จเจ้าพระยายกทัพกลับทางเมืองปาจิณ |
”
|
๑๕๔ | |
สมเด็จเจ้าพระยามาถึงกรุงธนบุรี |
”
|
๑๕๕ | |
ลูกขุนปฤกษาโทษพระเจ้ากรุงธนบุรี |
”
|
๑๕๖ | |
สำเร็จโทษพระเจ้ากรุงธนบุรี |
”
|
๑๕๖ | |
แผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก จุลศักราช ๑๑๔๔–๑๑๗๑ | |||
ข้าราชการพร้อมกันถวายราชสมบัติแก่สมเด็จเจ้าพระยา |
น่า
|
๑๕๗ | |
ชำระลงโทษผู้คิดร้ายต่อพระยาสุริยอไภย |
”
|
๑๕๗ | |
สร้างพระนครใหม่ข้างฝั่งตวันออก |
”
|
๑๕๘ | |
ย้ายบ้านจีนลงไปตั้งที่สำเพ็ง |
”
|
๑๕๘ | |
เจ้าพระยาสุรสีห์เลิกทัพกลับมากรุง |
”
|
๑๕๙ | |
จับกรมขุนอินทรพิทักษ์ |
”
|
๑๖๐ | |
ยกหลักเมือง |
”
|
๑๖๐ | |
สร้างพระบรมมหาราชวัง |
”
|
๑๖๐ | |
ทำพระราชพิธีปราบดาภิเศกสังเขป |
”
|
๑๖๐ | |
เฉลิมพระราชมณเฑียร |
”
|
๑๖๐ | |
ตั้งเจ้าพระยาสุรสีห์เปนกรมพระราชวังบวรฯ |
”
|
๑๖๒ | |
สร้างพระราชวังบวรฯ |
”
|
๑๖๒ | |
ตั้งพระบรมวงษานุวงษ์ |
”
|
๑๖๒ | |
ชำระพระสงฆ์สอพลอ |
”
|
๑๖๓ | |
ตั้งข้าราชการวังหลวง |
”
|
๑๖๔ | |
ตั้งเจ้าราชนิกูล |
”
|
๑๖๕ | |
ตั้งข้าราชการวังน่า |
”
|
๑๖๕ | |
จัดสงฆมณฑล |
”
|
๑๖๖ | |
ยกความชอบพระสงฆ์ที่ไม่ยอมไหว้พระเจ้ากรุงธนบุรี |
”
|
๑๖๖ | |
ตั้งพระอาจารย์ศรีเปนสมเด็จพระสังฆราชอย่างเดิม |
”
|
๑๖๖ | |
รื้อตำหนักทองของพระเจ้ากรุงธนบุรีถวายเปนกุฎีสมเด็จพระสังฆราช (ศรี) |
น่า
|
๑๖๗ | |
ลดพระสังฆราช (ชื่น) ลงเปนพระธรรมธิราราชมหามุนี ว่าที่พระวันรัตน |
”
|
๑๖๗ | |
พระธรรมธิราราชมหามุนีกับพระพุฒาจารย์ตั้งปัญหาเรื่องเขตรวัดนาคกลาง |
”
|
๑๖๙ | |
พระธรรมธิราราชมหามุนีต้องอธิกรณ์ ต้องลดยศ |
”
|
๑๗๐ | |
เรื่องอธิกรณ์พระนิกรม |
”
|
๑๗๑ | |
เลิกกฎหมายห้ามพระสงฆ์รับวัตถุปัจจัย |
”
|
๑๗๑ | |
จัดการรักษาเมืองพุทไธมาศ |
”
|
๑๗๑ | |
ปราบพระยาปังกลิมา เจ้าเมืองกำปอดที่แขงเมือง |
”
|
๑๗๒ | |
ตั้งพระยายมราชเขมรเปนเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ครองกรุงกัมพูชา |
”
|
๑๗๒ | |
เจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ส่งเจ้าเขมร ๔ องค์เข้ามากรุง |
”
|
๑๗๒ | |
เจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ไปตั้งอยู่เมืองอุดง |
”
|
๑๗๒ | |
ยกนักองค์เองเปนพระราชบุตรบุญธรรม |
”
|
๑๗๓ | |
เจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุต (บุญสาร) กลับมาครองเมืองเวียงจันท์ |
”
|
๑๗๓ | |
ตั้งเจ้านันทเสน บุตรเจ้าบุญสาร ไปครองกรุงศรีสัตนาคนหุต |
”
|
๑๗๓ | |
คืนพระบางไปเวียงจันท์ |
”
|
๑๗๓ | |
ตั้งเจ้าฟ้าพระราชบุตรพระราชภาคินัย |
น่า
|
๑๗๓ | |
พระเจ้าจิงกูจาไปประพาสหัวเมือง มังหม่อง ราชบุตรพระเจ้ามังลอก ชิงได้เมืองอังวะ |
”
|
๑๗๓ | |
อะแซหวุ่นกี้จับมังหม่องฆ่าเสีย |
”
|
๑๗๔ | |
ราชบุตรพระเจ้าอลอง ๓ องค์จับอะแซหวุ่นกี้ฆ่าเสีย |
”
|
๑๗๔ | |
ตะแคงปดุง ราชบุตรพระเจ้าอลอง ได้ราชสมบัติเมืองอังวะ |
”
|
๑๗๔ | |
พระเจ้าปดุงจับพระเจ้าจิงกูจาสำเร็จโทษ |
”
|
๑๗๔ | |
องเชียงสือญวนเข้ามาพึ่งพระบารมี |
”
|
๑๗๕ | |
พระเจ้าปดุงให้สร้างเมืองอมรบุรขึ้นที่บ้างทองกา |
”
|
๑๗๕ | |
พระเจ้าปดุงตีได้เมืองยะไข่ |
”
|
๑๗๕ | |
เกิดความเรื่องอ้ายบันทิดเปนขบถเข้าวังน่า |
”
|
๑๗๖ | |
เจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ถวายพระขรรค์ไชยศรี |
”
|
๑๗๘ | |
ให้พระยานครสวรรค์ยกไปตีเมืองไซ่ง่อนให้องเชียงสือ |
”
|
๑๗๘ | |
ก่อกำแพงพระราชวังหลวงแลวังน่า |
”
|
๑๗๘ | |
สร้างวัดพระศรีรัตนศาสดาราม |
”
|
๑๗๘ | |
เชิญรูปพระเทพบิดรแต่กรุงเก่ามาแปลงเปนพระพุทธรูป |
”
|
๑๗๙ | |
กรมพระราชวังบวรฯ ทรงปฏิสังขรณ์วัดสลัก เปลี่ยนชื่อเปน วัดนิพพานาราม |
”
|
๑๗๙ | |
เกิดความเรื่องเจ้าจอมทองดี |
”
|
๑๗๙ | |
พระยานครสวรรค์รบญวนที่เมืองสักแดก |
”
|
๑๗๙ | |
พระยานครสวรรค์คืนเรือแลอาวุธให้ญวน |
”
|
๑๘๐ | |
ให้หากองทัพกลับ แลลงพระราชอาญาพระยานครสวรรค์ |
”
|
๑๘๐ | |
ให้เจ้าฟ้ากรมหลวงเทพหริรักษ์ยกไปตีเมืองไซ่ง่อน |
น่า
|
๑๘๐ | |
ญวนตีทัพไทยแตก |
”
|
๑๘๑ | |
ทำเมรุพระศพพระเจ้ากรุงธนบุรี |
”
|
๑๘๒ | |
สร้างพระมหาปราสาท |
”
|
๑๘๒ | |
ปิดลัดโพธิ์ |
”
|
๑๘๒ | |
ให้หากองทัพเจ้าฟ้ากรมหลวงเทพหริรักษ์กลับ |
”
|
๑๘๓ | |
ยกยอดพระมหาปราสาท |
”
|
๑๘๓ | |
เชิญพระแก้วมรกฎมาไว้วัดพระศรีรัตนศาสดาราม |
”
|
๑๘๓ | |
เจ้าฟ้ากรมหลวงธิเบศร์บดินทร์สิ้นพระชนม์ |
”
|
๑๘๔ | |
ศักเลข |
”
|
๑๘๔ | |
ก่อกำแพงพระนคร |
”
|
๑๘๔ | |
รื้อป้อมวิไชเยนทร์ฝั่งตวันออก |
”
|
๑๘๔ | |
ขยายกำแพงพระนครถึงบางลำภูแลวัดเชิงเลน |
”
|
๑๘๔ | |
ขุดคลองหลอดเชื่อมคูเมืองเก่ากับคูใหม่ |
”
|
๑๘๕ | |
ขุดคลองมหานาค |
”
|
๑๘๕ | |
พระพิมลธรรมห้ามไม่ให้ทำสพานช้างข้ามคูเมือง |
”
|
๑๘๕ | |
สมโภชพระนคร |
”
|
๑๘๕ | |
ขนานนามพระนคร |
”
|
๑๘๖ | |
ฟ้าผ่ายอดมหาปราสาท |
”
|
๑๘๖ | |
น้ำมาก นาเสีย ต้องแจกเข้าฉางหลวงแก่ราษฎร |
”
|
๑๘๖ | |
พระเจ้าปดุงเตรียมทัพใหญ่คนแสนสามพันมาตีเมืองไทย |
”
|
๑๘๖ | |
ทัพแกงหวุ่นแมงญีมาตีเมืองถลาง เมืองชุมพร เมืองไชยา |
”
|
๑๘๗ | |
ทัพอนอกแผกดิกหวุ่นเข้าทางด่านเจ้าขว้าวมาตีเมืองราชบุรี |
น่า
|
๑๘๗ | |
ทัพหลวงพระเจ้าปดุงเข้าทางพระเจดีย์ ๓ องค์มาทางเมืองกาญจนบุรี |
”
|
๑๘๗ | |
ทัพชุกตองเวลจอแทงยกเข้ามาทางเมืองตาก |
”
|
๑๘๘ | |
ทัพสะโดะมหาสิริยอุจนาเข้าทางเมืองเชียงแสนมาตีเมืองเชียงใหม่ |
”
|
๑๘๘ | |
ทัพเนมโยสีหซุยะแยกจากเชียงแสนมาตีเมืองสวรรคโลก เมืองศุโขไทย เมืองพิศณุโลก |
”
|
๑๘๙ | |
ทัพอาปรกามนีแยกจากเชียงแสนมาตีเมืองนครลำปาง |
”
|
๑๘๙ | |
ได้ข่าวศึกพม่า |
”
|
๑๘๙ | |
ให้กรมพระราชวังบวรฯ กับเจ้าพระยารัตนาพิพิธ ยกไปรับทัพหลวงพม่าทางเมืองกาญจนบุรี |
”
|
๑๙๐ | |
ให้เจ้าพระยาธรรมา เจ้าพระยายมราช ยกไปตั้งรับพม่าเมืองราชบุรี |
”
|
๑๙๐ | |
ให้กรมพระราชวังหลัง เจ้าฟ้ากรมหลวงนรินทร์รณเรศ แลเจ้าพระยามหาเสนา เจ้าพระยาพระคลัง พระยาอุไทยธรรม ไปตั้งรับพม่าที่เมืองนครสวรรค์ |
”
|
๑๙๐ | |
กรมพระราชวังบวรฯ เสด็จไปตั้งค่ายหลวงที่ลาดหญ้า |
”
|
๑๙๑ | |
กรมพระราชวังบวรฯ ให้พระยามหาโยธาคุมรามัญไปตั้งขัดด่านกรามช้าง |
”
|
๑๙๑ | |
เจ้าพระยาธรรมา เจ้าพระยายมราช ไปตั้งค่ายที่เมืองราชบุรี |
น่า
|
๑๙๑ | |
กรมพระราชวังหลัง เจ้าฟ้ากรมหลวงนรินทร์รณเรศ ตั้งค่ายที่เมืองนครสวรรค์ |
”
|
๑๙๑ | |
เจ้าพระยามหาเสนาไปตั้งเมืองพิจิตร |
”
|
๑๙๑ | |
เจ้าพระยาพระคลัง พระยาอุไทยธรรม ตั้งอยู่เมืองไชยนาท |
”
|
๑๙๑ | |
ทัพน่าพระเจ้าปดุงตีด่านกรามช้างแตก |
”
|
๑๙๒ | |
ทัพน่าพระเจ้าปดุงเข้ามาตั้งที่ลาดหญ้า ท่าดินแดง สามสบ |
”
|
๑๙๒ | |
ทัพหลวงพระเจ้าปดุงตั้งที่พระเจดีย์ ๓ องค์ |
”
|
๑๙๒ | |
ทัพไทยเข้าตีค่ายพม่าที่ลาดหญ้า ไม่ได้ค่าย |
”
|
๑๙๒ | |
กรมพระราชวังบวรฯ แต่งกองโจรไปตัดลำเลียงพม่า |
”
|
๑๙๒ | |
ประหารชีวิตรพระยาสีหราชเดโช นายกองโจร ด้วยย่อท้อแก่การศึก |
”
|
๑๙๓ | |
ให้พระองค์เจ้าขุนเณรเปนนายกองโจร |
”
|
๑๙๓ | |
เอาปืนใหญ่ยิงพม่าจนไม่ออกมารบ |
”
|
๑๙๔ | |
พม่าขัดเสบียง |
”
|
๑๙๔ | |
เสด็จยกทัพหลวงออกไปช่วยกรมพระราชวังบวรฯ ถึงลาดหญ้า |
”
|
๑๙๔ | |
กรมพระราชวังบวรฯ รับอาสาจะตีพม่าให้แตก |
”
|
๑๙๕ | |
เสด็จยกทัพหลวงกลับเข้ามากรุงเทพฯ ช่วยการทัพทางอื่น |
”
|
๑๙๕ | |
กรมพระราชวังบวรฯ ทำอุบายให้พม่าเห็นว่า มีกองทัพเพิ่มเติมมามาก |
”
|
๑๙๖ | |
พม่าขัดเสบียงแลเกิดความไข้เจ็บ |
”
|
๑๙๖ | |
กรมพระราชวังบวรฯ ตีค่ายพม่า |
น่า
|
๑๙๖ | |
ทัพพม่าแตกหนี |
”
|
๑๙๗ | |
ไทยติดตามฆ่าฟันพม่าไปจนสิ้นแดน |
”
|
๑๙๗ | |
พระเจ้าปดุงถอยทัพกลับไปเมืองเมาะตมะ |
”
|
๑๙๗ | |
กรมพระราชวังบวรฯ ให้พระยากลาโหม พระยาจ่าแสนยากร ลงมาเมืองราชบุรีทางบก |
”
|
๑๙๗ | |
กรมพระราชวังบวรฯ เสด็จกลับทางเรือมาเมืองราชบุรี |
”
|
๑๙๗ | |
กองทัพพม่ามาทางเมืองทวาย ถึงเมืองราชบุรีเมื่อทัพทางลาดหญ้าแตกแล้ว |
”
|
๑๙๗ | |
เจ้าพระยาธรรมา เจ้าพระยายมราช ประมาท ไม่รู้ว่าพม่ายกเข้ามาถึง |
”
|
๑๙๘ | |
ทัพพระยากลาโหม พระยาจ่าแสนยากร ยกลงมาพบค่ายพม่าที่เขางู ตีพม่าแตกหนีไป |
”
|
๑๙๘ | |
กรมพระราชวังบวรฯ เสด็จถึงเมืองราชบุรี ลงพระราชอาญาเจ้าพระยายมราช เจ้าพระยาธรรมา |
”
|
๑๙๘ | |
กรมพระราชวังบวรฯ เสด็จกลับพระนคร |
”
|
๑๙๙ | |
กรมพระราชวังบวรฯ เสด็จยกทัพเรือไปรบพม่าเมืองชุมพร |
”
|
๑๙๙ | |
มีรับสั่งคาดโทษกรมพระราชวังหลังเร่งให้ตีพม่า |
”
|
๒๐๐ | |
เสด็จยกทัพหลวงไปตั้งณเมืองอินทบุรี |
”
|
๒๐๐ | |
ทัพพม่าทางเหนือล้อมเมืองนครลำปาง |
”
|
๒๐๑ | |
พระยากาวิละรักษาเมืองนครลำปางไว้ได้ |
”
|
๒๐๑ | |
พม่าได้เมืองสวรรคโลก เมืองศุโขไทย เมืองพิศณุโลก |
”
|
๒๐๑ | |
พม่าลงมาตั้งที่ปากพิง |
”
|
๒๐๑ | |
ทัพพม่าทางเมืองตากได้เมืองตาก |
”
|
๒๐๑ | |
ทัพเจ้าพระยามหาเสนา กรมพระราชวังหลัง แลเจ้าฟ้ากรมหลวงนรินทร์รณเรศ ยกขึ้นไปตีทัพพม่าที่ปากพิง |
”
|
๒๐๒ | |
พระยาสระบุรีตื่นนกกระทุง |
”
|
๒๐๒ | |
ให้เจ้าฟ้ากรมหลวงเทพหริรักษ์ เจ้าพระยาพระคลัง พระยาอุไทยธรรม ยกไปตีพม่าเมืองตาก |
”
|
๒๐๒ | |
เสด็จยกทัพหลวงขึ้นไปตั้งบางเข้าตอก |
”
|
๒๐๒ | |
ทัพกรมพระราชวังหลังตีพม่าปากพิงแตก |
”
|
๒๐๓ | |
ให้เจ้าฟ้ากรมหลวงจักรเจษฎายกไปสมทบเจ้าพระยามหาเสนาขึ้นไปช่วยเมืองนครลำปาง |
”
|
๒๐๓ | |
ให้หากองทัพกรมพระราชวังหลังกลับ |
”
|
๒๐๓ | |
ทัพหลวงคืนมาตั้งที่เมืองนครสวรรค์ |
”
|
๒๐๔ | |
กองทัพพม่าที่เมืองตากหนีไปไม่ต่อสู้ |
”
|
๒๐๔ | |
ให้หากองทัพเจ้าฟ้ากรมหลวงเทพหริรักษ์กลับ |
”
|
๒๐๔ | |
เสด็จยกทัพหลวงกลับกรุงเทพฯ |
”
|
๒๐๔ | |
กองทัพเจ้าฟ้ากรมหลวงจักรเจษฎา เจ้าพระยามหาเสนา ตีพม่าที่ล้อมเมืองนครลำปางแตกหนีไปเมืองเชียงแสน |
”
|
๒๐๔ | |
ให้หากองทัพฝ่ายเหนือกลับกรุงเทพฯ |
”
|
๒๐๕ | |
พระราชทานบำเหน็จข้าราชการ |
”
|
๒๐๕ | |
พม่าที่ยกไปตีหัวเมืองปักษ์ใต้จัดทัพที่เมืองมฤต |
”
|
๒๐๕ | |
แยกกอง ๑ ไปตีเมืองถลาง |
”
|
๒๐๖ | |
แยกกอง ๑ เข้ามาตีเมืองชุมพรทางเมืองกระ |
น่า
|
๒๐๖ | |
พม่าได้เมืองชุมพร เมืองไชยา |
”
|
๒๐๖ | |
เจ้าพัดเปนเจ้าพระยานครศรีธรรมราช |
”
|
๒๐๖ | |
พม่าลวงชาวนครว่า กรุงเทพฯ เสียแก่พม่า |
”
|
๒๐๗ | |
เจ้าพระนครอพยพหนีไปนอกเขา |
”
|
๒๐๗ | |
พม่าได้เมืองนคร |
”
|
๒๐๗ | |
พม่าได้เมืองตะกั่วป่า ตะกั่วทุ่ง |
”
|
๒๐๗ | |
พม่าตีเมืองถลาง |
”
|
๒๐๗ | |
ภรรยาพระยาถลางกับน้องสาวรักษาเมืองถลางไว้ได้ |
”
|
๒๐๘ | |
พระมหาช่วยเมืองพัทลุงเปนหัวน่าเตรียมสู้พม่า |
”
|
๒๐๘ | |
กองทัพกรมพระราชวังบวรฯ ถึงเมืองชุมพร |
”
|
๒๐๘ | |
กองทัพไทยตีพม่าแตกที่เมืองไชยา |
”
|
๒๐๙ | |
พม่าหนีกลับไป |
”
|
๒๐๙ | |
กรมพระราชวังบวรฯ รวมพลเข้าเมืองชุมพร เมืองไชยา |
”
|
๒๐๙ | |
กรมพระราชวังบวรฯ เสด็จถึงเมืองนคร |
”
|
๒๐๙ | |
กรมพระราชวังบวรฯ เสด็จถึงเมืองสงขลา |
”
|
๒๑๐ | |
สึกพระมหาช่วย ตั้งเปนพระยาทุกขราษฎร์ |
”
|
๒๑๐ | |
ชำระลงโทษพระยาจนะ |
”
|
๒๑๐ | |
กรมพระราชวังบวรฯ ให้กองทัพไปตีเมืองตานี |
”
|
๒๑๐ | |
ได้เมืองตานี |
”
|
๒๑๐ | |
ได้ปืนใหญ่พระยาตานี |
”
|
๒๑๐ | |
เมืองไทร เมืองกลันตัน เมืองตรังกานู สวามิภักดิ์ |
”
|
๒๑๑ | |
ให้หากองทัพกรมพระราชวังบวรฯ กลับกรุงเทพฯ |
น่า
|
๒๑๑ | |
ตั้งภรรยาพระยาถลางเปนท้าวเทพกระษัตรี |
”
|
๒๑๒ | |
ตั้งน้องสาวเปนท้าวศรีสุนทร |
”
|
๒๑๒ | |
พระเจ้าปดุงรวมพลที่เหลือกลับไปได้ประมาณกึ่งหนึ่ง กลับอังวะ |
”
|
๒๑๓ | |
พระเจ้าปดุงให้มหาอุปราชยกกองทัพมาตีเมืองไทย |
”
|
๒๑๓ | |
ทัพพม่ายกมาตั้งเมืองสมิ |
”
|
๒๑๓ | |
พม่าตั้งยุ้งฉางรายทางถึงท่าดินแดง สามสบ |
”
|
๒๑๔ | |
ทัพน่าพม่าตั้งท่าดินแดง สามสบ |
”
|
๒๑๔ | |
ทัพหลวงพม่าตั้งที่แม่กระษัตร |
”
|
๒๑๔ | |
เตรียมทัพกรุง |
”
|
๒๑๔ | |
ให้กรมพระราชวังบวรฯ กับเจ้าพระยารัตนพิพิธ เปนทัพน่า |
”
|
๒๑๔ | |
เสด็จพระราชดำเนินกับกรมพระราชวังหลังเปนทัพหลวง |
”
|
๒๑๕ | |
ทัพน่าถึงไทรโยค |
”
|
๒๑๕ | |
ทัพหลวงถึงท่าขนุน |
”
|
๒๑๕ | |
ตั้งทัพประชิดข้าศึกที่สามสบ |
”
|
๒๑๕ | |
ทัพไทยตีค่ายพม่า |
”
|
๒๑๖ | |
ทัพน่าพม่าแตกหนี |
”
|
๒๑๖ | |
มหาอุปราชาถอยทัพหลวงกลับไปเมืองเมาะตมะ |
”
|
๒๑๖ | |
ไทยไล่พม่าไปจนถึงค่ายหลวงที่แม่กระษัตร |
”
|
๒๑๖ | |
เสด็จกลับกรุงเทพฯ |
”
|
๒๑๖ | |
พม่าทางเหนือเตรียมจะตีเมืองเชียงใหม่ |
”
|
๒๑๗ | |
พม่าตั้งทำนาที่เมืองฝาง |
”
|
๒๑๗ | |
พระยาแพร่มังไชยกับพระยายองรบอาปรกามนีพม่าที่เมืองเชียงแสน |
น่า
|
๒๑๗ | |
อาปรกามนีหนีมาเมืองเชียงราย |
”
|
๒๑๘ | |
พระยาเชียงรายช่วยจับอาปรกามนีส่งมาถวาย |
”
|
๒๑๘ | |
ให้กรมพระราชวังบวรฯ เสด็จขึ้นไปตั้งเมืองเชียงใหม่ |
”
|
๒๑๘ | |
ตั้งพระยากาวิละเปนพระยาเชียงใหม่ |
”
|
๒๑๙ | |
ตั้งคำโสมเปนพระยานครลำปาง |
”
|
๒๑๙ | |
เสด็จยกทัพหลวงไปตีเมืองทวาย |
”
|
๒๒๐ | |
เดินทัพหลวงทางเขาสูงเข้าด่านวังปอ |
”
|
๒๒๐ | |
พม่าตั้งค่ายรายทางคอยต่อสู้ |
”
|
๒๒๑ | |
ทัพไทยได้ค่ายวังปอ |
”
|
๒๒๑ | |
ทัพไทยตีเมืองกลิอ่อง |
”
|
๒๒๒ | |
เสด็จข้ามเขาสูง ต้องลงทรงพระดำเนิน |
”
|
๒๒๒ | |
ทัพไทยได้เมืองกลิอ่อง |
”
|
๒๒๓ | |
ทัพไทยตีได้ค่ายปีกกา |
”
|
๒๒๓ | |
กองทัพไทยล้อมเมืองทวาย |
”
|
๒๒๔ | |
กองทัพไทยขัดเสบียง ต้องเลิกกลับ |
”
|
๒๒๕ | |
กรมพระราชวังบวรฯ มารับเสด็จที่แม่น้ำน้อย |
”
|
๒๒๕ | |
องเชียงสือหนี |
”
|
๒๒๖ | |
ตั้งองเทียมเปนเจ้าเมืองพุทไธมาศ |
”
|
๒๒๘ | |
สร้างป้อมกำแพงเมืองสมุทปราการ |
”
|
๒๒๘ | |
สร้างพระมณฑปพระพุทธบาท |
”
|
๒๒๘ | |
กรมพระราชวังบวรฯ ทรงพระศรัทธาแบกตัวลำยอง |
น่า
|
๒๒๙ | |
ฝรั่งท้าชกมวย |
”
|
๒๓๐ | |
ทรงผนวชสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ สมเด็จพระเจ้าหลานเธอ |
”
|
๒๓๒ | |
ทำสังคายนายพระไตรปิฎก |
”
|
๒๓๓ | |
ตำนานการสังคายนายที่ทำมาแต่ก่อน |
”
|
๒๓๔ | |
เปลี่ยนชื่อวัดนิพพานารามที่ทำสังคายนายเปนวัดพระศรีสรรเพชญ์ |
”
|
๒๓๙ | |
แบ่งกองพระสงฆ์ที่ทำสังคายนาย |
”
|
๒๔๐ | |
สร้างพระไตรปิฎกฉบับทองใหญ่ |
”
|
๒๔๑ | |
แห่พระไตรปิฎกมาไว้หอพระมณเฑียรธรรมกลางสระ |
”
|
๒๔๑ | |
ฉลองพระไตรปิฎก |
”
|
๒๔๑ | |
ลูกพลุตกไฟไหม้หอพระมณเฑียรธรรม |
”
|
๒๔๑ | |
รื้อหอพระมณเฑียรธรรม สร้างเปนมณฑปไว้พระไตรปิฎก |
”
|
๒๔๒ | |
สร้างหอพระมณเฑียรธรรมใหม่ |
”
|
๒๔๒ | |
ฟ้าผ่าไฟไหม้พระที่นั่งอมรินทราภิเศกมหาปราสาท |
”
|
๒๔๒ | |
สร้างพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท |
”
|
๒๔๓ | |
สร้างพระที่นั่งพิมานรัตยา |
”
|
๒๔๔ | |
หล่อรูปสิงห์สำฤทธิ์ประสมกับสิงห์ที่ได้มาจากเมืองพุทไธมาศ ตั้งวัดพระศรีรัตนศาสดาราม |
”
|
๒๔๔ | |
นายบุญเรืองเผาตัว |
”
|
๒๔๕ | |
องเชียงสือตั้งตัวเปนเจ้าอนัมก๊ก ถวายต้นไม้ทองเงินครั้งที่ ๒ |
”
|
๒๔๖ | |
ทัพเวียงจันท์รบญวนไกเซิน |
”
|
๒๔๖ | |
เจ้าอนัมก๊กกล่าวโทษเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ |
”
|
๒๔๗ | |
แขกเซียะตีเมืองสงขลา |
น่า
|
๒๔๙ | |
เจ้าอนัมก๊กถวายเรือรบ แลพระราชทานปืนตอบ |
”
|
๒๕๐ | |
ทัพเวียงจันท์ตีเมืองหลวงพระบาง |
”
|
๒๕๐ | |
เมืองทวายสวามิภักดิ์ |
”
|
๒๕๑ | |
เจ้าอนัมก๊กมีศุภอักษรนัดให้ไปตีเมืองตังเกี๋ย |
”
|
๒๕๖ | |
ทัพพระยายมราชยกไปเมืองทวาย |
”
|
๒๕๘ | |
ทัพหลวงยกไปเมืองทวาย |
”
|
๒๕๘ | |
ยกทัพหลวงไปตีเมืองพม่า |
”
|
๒๖๓ | |
ทวายเปนขบถ |
”
|
๒๖๓ | |
เจ้าอนัมก๊กขอตราให้หัวเมืองช่วยการทัพ แลถวายต้นไม้ทองเงิน ครั้งที่ ๓ |
”
|
๒๖๘ | |
พม่าขอเปนไมตรี ครั้งที่ ๑ |
”
|
๒๖๙ | |
ญวนไกเซินขอเปนไมตรี |
”
|
๒๗๑ | |
ตั้งสมเด็จพระสังฆราช (ศุข) ทรงผนวชสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอแลนักพระองค์เอง |
”
|
๒๗๑ | |
ตั้งนักพระองค์เองออกไปครองกรุงกัมพูชา นักพระองค์เองถวายเมืองพระตะบอง เสียมราฐ |
”
|
๒๗๔ | |
ถอดเจ้านครล้านช้าง |
”
|
๒๗๕ | |
ได้ช้างเผือกพระยาอินทรไอยรา |
”
|
๒๗๕ | |
ศึกพม่า ครั้งที่ ๓ |
”
|
๒๗๖ | |
เชิญพระพุทธสิหิงค์มากรุงเทพฯ |
”
|
๒๗๖ | |
กรมพระราชวังบวรฯ ทรงผนวช |
”
|
๒๗๙ | |
สมเด็จพระนารายน์รามารับอาว์กับครอบครัวไปเมืองเขมร |
น่า
|
๒๘๐ | |
เจ้าอนัมก๊กถวายต้นไม้ทองเงิน ครั้งที่ ๔ |
”
|
๒๘๐ | |
การพระเมรุพระบรมอัฐิสมเด็จพระชนกาธิบดี |
”
|
๒๘๐ | |
เกิดเหตุบาดหมางในระหว่างสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับกรมพระราชวังบวรสถานมงคล |
”
|
๒๘๒ | |
สมเด็จพระนารายน์รามาธิบดี พระเจ้ากรุงกัมพูชา พิราไลย |
”
|
๒๘๓ | |
ข่าวศึกพม่า กรมพระราชวังบวรฯ เสด็จเมืองเชียงใหม่ |
”
|
๒๘๕ | |
เจ้าอนัมก๊กถวายต้นไม้ทองเงิน ครั้งที่ ๕ |
”
|
๒๘๖ | |
ฉลองพระมณฑปวัดพระศรีรัตนศาสดาราม |
”
|
๒๘๖ | |
ข่าวศึกพม่า |
”
|
๒๘๖ | |
สมเด็จพระพี่นางสิ้นพระชนม์ |
”
|
๒๘๗ | |
โปรดให้กองทัพเขมรไปช่วยเจ้าอนัมก๊ก |
”
|
๒๘๘ | |
เพลิงไหม้สำเพ็ง |
”
|
๒๘๙ | |
สร้างแลฉลองวัดพระเชตุพน |
”
|
๒๘๙ | |
เจ้าอนัมก๊กถวายต้นไม้ทองเงิน ครั้งที่ ๖ |
”
|
๒๙๗ | |
ได้ช้างเผือก พระเทพกุญชร |
”
|
๒๙๗ | |
เพลิงไหม้วัดพระศรีสรรเพ็ชญ์ |
”
|
๓๐๐ | |
เจ้าอนัมก๊กได้เมืองญวนแลตั้งตัวเปนพระเจ้ากรุงเวียดนามยาลอง |
”
|
๓๐๐ | |
พม่าขอเปนไมตรี ครั้งที่ ๒ |
”
|
๓๐๒ | |
ศึกพม่า ครั้งที่ ๔ |
”
|
๓๐๒ | |
นักองค์จันท์ นักองค์สงวน เข้ามาเฝ้า |
”
|
๓๐๘ | |
พระเจ้าเวียดนามถวายของสนองพระคุณ |
น่า
|
๓๐๘ | |
กองทัพไทยไปตีเมืองเชียงแสน |
”
|
๓๐๙ | |
ตั้งเจ้าเชียงใหม่ |
”
|
๓๑๑ | |
ได้ช้างสีทองแดง พระบรมฉัททันต์ |
”
|
๓๑๑ | |
ราชทูตไปเมืองญวน |
”
|
๓๑๑ | |
กรมพระราชวังบวรสถานมงคลสวรรคต |
”
|
๓๑๒ | |
พระราชประวัติกรมพระราชวังบวรสถานมงคล |
”
|
๓๑๓ | |
สิ่งซึ่งกรมพระราชวังบวรฯ ได้ทรงสร้าง |
”
|
๓๑๔ | |
เรื่องหม่อมลำดวน หม่อมอินทปัต |
”
|
๓๑๖ | |
เลื่อนกรมขุนเสนานุรักษ์ แลตั้งกรมขุนพิทักษมนตรี |
”
|
๓๑๘ | |
กองทัพกรมหลวงเทพหริรักษ์กลับจากเมืองเชียงแสน |
”
|
๓๑๙ | |
การพระเมรุกรมพระราชวังบวรสถานมงคล |
”
|
๓๒๐ | |
พระเจ้าเวียดนามมีราชสาสนมาทูลเตือนให้ตั้งกรมพระราชวังบวรฯ |
”
|
๓๒๑ | |
เกณฑ์ทัพไปตีเมืองเชียงตุง เชียงรุ้ง |
”
|
๓๒๒ | |
ตั้งเจ้าฟ้ากุณฑลทิพยวดี |
”
|
๓๒๒ | |
ตั้งเจ้าอนุครองเมืองเวียงจันท์ |
”
|
๓๒๓ | |
กรมหลวงเทพหริรักษ์สิ้นพระชนม์ |
”
|
๓๒๓ | |
ชำระกฎหมาย |
”
|
๓๒๓ | |
ได้ช้างสำคัญ พระบรมนัขมณี แลพระบรมคชลักษณ์ |
”
|
๓๒๕ | |
ได้เมืองเชียงตุง เมืองเชียงรุ้ง แลเมืองลื้อ สิบสองปันนา |
”
|
๓๒๕ | |
พระเจ้ากรุงเวียดนามมีราชสาสนถวายบรรณาการ |
”
|
๓๒๘ | |
ราชทูตไปเมืองญวน |
น่า
|
๓๒๙ | |
กรมพระราชวังหลังทิวงคต |
”
|
๓๓๑ | |
ตั้งนักองค์จันท์เปนสมเด็จพระอุไทยราชา เจ้ากรุงกัมพูชา |
”
|
๓๓๑ | |
พระราชพิธีอุปราชาภิเศกเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร |
”
|
๓๓๒ | |
ตั้งพระบัณฑูรน้อยแลตั้งกรมเจ้านาย |
”
|
๓๓๖ | |
การพระเมรุกรมพระราชวังหลัง |
”
|
๓๓๗ | |
พระเจ้าเวียดนามมีพระราชสาสนทรงยินดีในการอุปราชาภิเศก |
”
|
๓๓๗ | |
กรมหลวงจักรเจษฎาสิ้นพระชนม์ |
”
|
๓๓๘ | |
ได้ช้างสำคัญ |
”
|
๓๓๘ | |
สมเด็จพระอุไทยทูลขอนักองค์อี นักองค์เภา |
”
|
๓๓๙ | |
เชิญพระพุทธรูปพระศรีสากยมุนีมากรุงเทพฯ |
”
|
๓๓๙ | |
ปราบปรามเมืองยิริง |
”
|
๓๓๙ | |
เจ้าฟ้ากรมขุนศรีสุนทรเทพสิ้นพระชนม์ |
”
|
๓๔๐ | |
โสกันต์เจ้าฟ้ากุณฑลทิพยวดี |
”
|
๓๔๐ | |
แห่สระสนานใหญ่ แห่พระกฐิน แลมีกระจาดใหญ่ กัณฑ์เทศน์มหาชาติ |
”
|
๓๔๒ | |
ผลประโยชน์แผ่นดิน |
”
|
๓๔๓ | |
วัดที่ได้ทรงปฏิสังขรณ์ |
”
|
๓๔๓ | |
พระราชานุกิจ |
”
|
๓๔๔ | |
สมเด็จพระอุไทยราชาเข้ามาเฝ้า |
”
|
๓๔๕ | |
งานสมโภชพระแก้วมรกฎ |
”
|
๓๔๖ | |
สวรรคต |
”
|
๓๔๖ | |
ภาคผนวก | |||
พระราชประวัติ |
น่า
|
๓๔๗ | |
เสนาบดีในรัชกาลที่ ๑ |
”
|
๓๕๑ | |
มหาดไทย |
”
|
๓๕๑ | |
กระลาโหม |
”
|
๓๕๑ | |
กรมท่า |
”
|
๓๕๒ | |
กรมเมือง |
”
|
๓๕๓ | |
กรมวัง |
”
|
๓๕๔ | |
กรมนา |
”
|
๓๕๔ |
งานนี้ ปัจจุบันเป็นสาธารณสมบัติแล้ว เพราะลิขสิทธิ์ได้หมดอายุตามมาตรา 19 และมาตรา 20 ของพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ซึ่งระบุว่า
- ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นบุคคลธรรมดา
- ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ถึงแก่ความตาย
- ถ้ามีผู้สร้างสรรค์ร่วม ลิขสิทธิ์หมดอายุ
- เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายถึงแก่ความตาย หรือ
- เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก ในกรณีที่ไม่เคยโฆษณางานนั้นเลยก่อนที่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายจะถึงแก่ความตาย
- ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นนิติบุคคล หรือถ้าไม่รู้ตัวผู้สร้างสรรค์
- ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้สร้างสรรค์งานนั้นขึ้น
- แต่ถ้าได้โฆษณางานนั้นในระหว่าง 50 ปีข้างต้น ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก