ระเบียบสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๗

จาก วิกิซอร์ซ


แม่แบบผิดพลาด: มีการลบช่องที่ไม่ได้ใช้ออก โปรดเติมกลับเข้าไป (โปรดดูเอกสารกำกับแม่แบบ)
ระเบียบสํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง[1]
ว่าด้วยการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๕๗




โดยที่เป็นการสมควรให้มีระเบียบสํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๘ แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๗ สํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจึงออกระเบียบเกี่ยวกับการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติไว้ ดังนี้

ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบสํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๗”

ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ ๓ ในระเบียบนี้

“คณะกรรมการสรรหา” หมายความว่า คณะกรรมการสรรหาตามมาตรา ๔ แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๗

ข้อ ๔ เพื่อประโยชน์ในการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ให้สํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งมีอํานาจออกประกาศ กําหนดและคําสั่ง ในเรื่องต่อไปนี้

(๑) วัน เวลาและสถานที่ในการยื่นคําขอเสนอชื่อ
(๒) รายละเอียดและวิธีการในการเสนอชื่อ
(๓) แบบพิมพ์ที่ใช้ในการสรรหา
(๔) การแต่งตั้งฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสรรหา
(๕) การอื่นใด เพื่อความจําเป็นในการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ

ข้อ ๕ การใช้จ่ายเงินให้นําระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการใช้จ่ายเงินมาใช้โดยอนุโลม ยกเว้นในส่วนที่เกี่ยวกับอัตราค่าตอบแทนการประชุมและค่าพาหนะเหมาจ่ายของกรรมการสรรหา


ประกาศ ณ วันที่ ๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๗
ภุชงค์ นุตราวงศ์
เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง


เชิงอรรถ[แก้ไข]

  1. ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๑/ตอน ๖๐ ก/หน้า ๑/๖ สิงหาคม ๒๕๕๗.

ดูเพิ่ม[แก้ไข]



ขึ้น

งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตาม แม่แบบผิดพลาด: โปรดระบุประเภทของงานนี้ (ดูวิธีใช้) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า

"มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
(1) ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
(2) รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
(3) ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
(4) คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
(5) คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"