ลักษณะการปกครองประเทศไทยแต่โบราณ (2498)/ผู้วายชนม์

จาก วิกิซอร์ซ
  • ชาตะ ๒๐ กันยายน ๒๔๒๘
  • มรณะ ๙ มิถุนายน ๒๔๙๘

  • ประวัติ
  • คุณแม่ทองสุก พิศาลบุตร

คุณแม่ทองสุก พิศาลบุตร เกิดเมื่อปีระกา แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ จ.ศ. ๑๒๔๗ ตรงกับวันที่ ๒๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๒๘ เป็นบุตรีเจ้าสัวกิม และนางตึก

การศึกษาและคุณวุฒิ

ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนกลุสตรีวังหลังเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๐ ได้เล่าเรียนอยู่จนจบหลักสูตรของโรงเรียนทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว ได้ทำการสมรสกับนายสวาสดิ์ ภัทรนาวิก บุตรพระยาวรสิทธิเสวีวัตร์ ตลอดชีวิตการสมรส ได้อยู่ร่วมกับสามี ผู้ซึ่งได้รับพระราชทานยศและบรรดาศักดิ์ครั้งสุดท้ายเป็น อำมาตย์เอก พระยาศรีสกลไกรนุชิต

ระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่ ได้เคยถวายพระอักษรภาษาอังกฤษแด่พระโอรสและพระธิดาในสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดชเป็นเวลาหลายปี จนเป็นที่รักใคร่แก่เจ้านายทุกพระองค์แห่งวังบูรพาภิรมย์

ภายหลังจากที่ได้ถวายพระอักษรแด่พระโอรสและพระธิดาในสมเด็จเจ้าฟ้าฯ วังบูรพาภิรมย์ จนมีพระปรีชาสามารถในการศึกษาภาษาอังกฤษแล้ว ก็ได้ทูลลาออก ต่อจากนั้น ได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษแด่ธิดาของเจ้าพระยาธรรมธิกรบดีอีกระยะเวลาหนึ่ง

เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๐ ได้เข้ารับราชการในกรมไปรษณีย์โทรเลข กระทรวงพาณิชย์และคมนาคม โดยดำรงตำแหน่งนายเวรโทรศัพท์จนถึง พ.ศ. ๒๔๘๐ จึงได้ออกจากราชการเพื่อรับบำนาญเนื่องจากยุบเลิกตำแหน่ง

ตลอดเวลารับราชการนั้น คุณแม่ทองสุกฯ ได้ตั้งหน้าปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอุตสาหะวิริยะเป็นอย่างดียิ่ง จนเป็นที่รักใคร่แก่ผู้ใต้บังคับบัญชาทุกชั้น ตลอดจนพนักงานโทรศัพท์ที่อยู่ในบังคับบัญชา เพราะนอกจากจะเป็นผู้เอาใจใส่ปฏิบัติราชการด้วยความสัตย์ซื่อแล้ว ยังมีน้ำใจโอบอ้อมอารีต่อเพื่อนฝูงและผู้น้อยทุกคน

คุณแม่ทองสุกฯ เป็นผู้ที่เคร่งครัดต่อศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ ก็สืบเนื่องจากบิดาเป็นผู้ที่เลื่อมใสและเคารพบูชาในพระพุทธศาสนาอย่างจะหาผู้ใดเปรียบได้ยาก ทุกวันคืน คุณแม่ทองสุกฯ มิได้เคยละเว้นที่จะสวดมนต์ภาวนาแผ่ส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไป และเพื่อขอความคุ้มครองและความเจริญสุขให้แก่ลูก ๆ อันเป็นที่รักของคุณแม่ทุก ๆ คน การบุญการกุศลอันใดที่คุณแม่ทองสุกฯ ได้ทราบ ก็ไม่เคยที่จะละเลยในการที่จะได้ร่วมการบุญการกุศลนั้น ๆ ทุกคราวไป

คุณแม่ทองสุกฯ เป็นแม่ที่ประเสริฐยิ่งสำหรับลูก ๆ ได้ให้การประคบประหงมและเลี้ยงดูอบรมลูกทุกคนด้วยความรักและยุติธรรม ลูกทุกคนได้รับแต่การอบรมสั่งสอนที่ดีงาม ให้อยู่ในศีลในธรรมและประพฤติตนแต่ที่ชอบ พร้อมทั้งให้มีนิสัยขยันหมั่นเพียรและโอบอ้อมอารี แม้ว่าลูก ๆ จะได้เติบโตจนกระทั่งเป็นฝั่งเป็นฝาไปแล้วทุกคนก็ตาม คุณแม่ทองสุกฯ ก็ยังห่วงใยในวิถีชีวิตของลูก ๆ ตราบจนชีวิตสลาย

คุณแม่ทองสุกฯ ได้เริ่มป่วยกระเสาะกระแสมาตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. ๒๔๙๘ ด้วยโรคชรา ลูก ๆ ได้พยายามให้การพยาบาลรักษาอย่างเต็มสติกำลัง แต่อาการก็มีแต่ทรงอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมปรากฏว่า มีโรคเบื่ออาหารเข้ามาแซกแซง การให้การรักษาพยาบาล แม้จะดีที่สุด แต่ก็มิได้ทำให้อาการดีขึ้น เพียงแต่พอประทังไว้เท่านั้น ครั้นถึงต้นเดือนมิถุนายน ๒๔๙๘ ปรากฏว่า อาการทรุดหนักลง โดยมีอาการอ่อนเพลียมากขึ้น และมีโรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหารเข้าแซกแซงอีก ลูก ๆ เห็นว่า อาการน่าวิตก จะให้การรักษาที่บ้านไม่สะดวก จึงได้นำส่งรักษาตัว ณ โรงพยาบาลหญิง ตอนเย็นวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๔๙๘ แม้ว่าทางโรงพยาบาลจะได้รีบให้การรักษาในทันทีทันใด แต่ก็ไม่สามารถจะประคับประคองชีวิตของคุณแม่ทองสุกฯ ให้ยืนยาวต่อไปได้ คุณแม่ทองสุกฯ จึงถึงแก่กรรมในวันเดียวกันนั้นเวลา ๒๓.๔๐ น. ด้วยอาการกิริยาอันสงบท่ามกลางบุตรธิดา สิริรวมอายุได้ ๗๑ ปี

คุณแม่ทองสุก พิศาลบุตร มีบุตรหญิงชายรวม ๕ คน ซึ่งทุกคนยังมีชีวิตอยู่ คือ:—

นางสังวาล จุลละเกศ

พ.ต.ต. สุวัฒน์ ภัทรนาวิก

นายแสวง ภัทรนาวิก

นางไสว จุลละเกศ

นางสวิท วสุวัต