ศุภอักษรเมืองน่าน ลงวันแรม 13 ค่ำ เดือนยี่ จ.ศ. 1249

จาก วิกิซอร์ซ
ศุภอักษรนครเมืองน่าน
  • เขียนที่นครเมืองน่าน
  • ณวัน ๔ เดือน ๒ แรม ๑๓ ค่ำ ปีกุน นพศก ๑๒๔๙

ศุภอักษรข้าพพระพุทธเจ้า เจ้าอนันตวรฤทธิเดช ๑ เจ้านครเมืองน่าน เจ้าสุริยวงษ เจ้านายบุตรหลานพระยาแสนท้าวนครเมืองน่าน ปฎิบัติมายัง พณฯ อรรคมหาเสนาธิบดินทร์ นรินทรามาตย์ ผู้ภักดีบำเรอพระบาท ได้ทราบ

ขอได้นำขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาแดพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงทราบใต้ฝ่าลอองธุลีพระบาท ด้วยณวัน ๗ เดือน ๑๒ แรม ๙ ค่ำ ปีกุน นพศก ๑๒๔๙ เวลาเช้า เจ้าอุปราชนครเมืองน่านเกิดโรคประจุบัน เนื้อตัวเยนกระด้าง พูดไม่ได้ รับประทานน้ำยาก็ไม่ได้วันหนึ่ง

ครั้นถึงเวลาย่ำรุ่ง เจ้าอุปราชถึงแก่อนิจกรรม ข้าพระพุทธเจ้าได้พร้อมกับพระยาพิไชยชาญฤทธิ ข้าหลวง เจ้านายบุตรหลานท้าวพระยานครเมืองน่าน ได้เอาศพเจ้าอุปราชใส่หีบไว้ตามอย่างธรรมเนียมมาแต่ก่อนแล้ว กราบเรียนปฎิบัติมาได้ทราบ

ประทับตรารูปพระยานาคมาเปนสำคัญ

บรรณานุกรม[แก้ไข]

งานนี้ ปัจจุบันเป็นสาธารณสมบัติแล้ว เพราะลิขสิทธิ์ได้หมดอายุตามมาตรา 19 และมาตรา 20 ของพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ซึ่งระบุว่า

ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นบุคคลธรรมดา
  1. ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ถึงแก่ความตาย
  2. ถ้ามีผู้สร้างสรรค์ร่วม ลิขสิทธิ์หมดอายุ
    1. เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายถึงแก่ความตาย หรือ
    2. เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก ในกรณีที่ไม่เคยโฆษณางานนั้นเลยก่อนที่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายจะถึงแก่ความตาย
ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นนิติบุคคล หรือถ้าไม่รู้ตัวผู้สร้างสรรค์
  1. ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้สร้างสรรค์งานนั้นขึ้น
  2. แต่ถ้าได้โฆษณางานนั้นในระหว่าง 50 ปีข้างต้น ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก