หน้า:กม ร ๕ - ๒๔๓๘.pdf/78

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
ศก ๑๑๔
75
 

ต้องได้รับตราจันทรมณฑลอยู่แต่ก่อนแล้วว่าเปนผู้สามารถจะทำการแทนผู้พิพากษาชั้นใด จึงจะทำการแทนผู้พิพากษาชั้นนั้นได้

มาตรา๒๔การที่ผู้ว่าราชการกรมการจะลงอาญาผู้แพ้คดีตามคำพิพากษาศาลหัวเมืองนั้น ถ้าไม่จำเปนจะต้องส่งผู้แพ้คดีไปที่อื่นแล้ว ให้ลงอาญาในจังหวัดเมืองที่ได้พิพากษาโทษนั้น

มาตรา๒๕ข้าหลวงเทศาภิบาล เมื่อได้รับอนุญาตจากกระทรวงยุติธรรมแล้ว มีอำนาจที่จะตั้งพนักงานอัยการไว้สำหรับเปนทนายแผ่นดินฟ้องหาคดีมีโทษหลวงในมณฑลเมืองนั้น ๆ ตามข้อพระราชบัญญัติความอาญามีโทษหลวง ถ้าหากว่ามีคดีซึ่งจะต้องแต่งทนายแผ่นดินว่ากล่าวมากเกินกว่าพนักงานอัยการที่มีประจำตำแหน่ง ฤๅผู้บัญชาการเมืองจะเห็นสมควรโดยเหตุอย่างอื่น จะตั้งทนายแผ่นดินเพิ่มเติมขึ้นว่าความเฉพาะเรื่องฤๅชั่วครั้งหนึ่งคราวหนึ่งโดยจะยังไม่ได้รับอนุญาตของเสนาบดีกระทรวงยุติธรรม ก็ตั้งได้

มาตรา๒๖ถ้าคดีมีโทษหลวงมาถึงศาลใดฤๅเกิดขึ้นในท้องที่ศาลใดซึ่งไม่มีพนักงานอัยการ ฤๅพนักงานอัยการไม่ได้มายังศาล ถ้าไม่มีโจทย์จะว่าคดีนั้น ผู้พิพากษาจะสั่งให้กรมการแขวงในท้องที่นั้นเปนทนายแผ่นดินว่าความเรื่องนั้นก็ได้